ธุรกิจ
GWM Experience Center โดดเด่น และแตกต่าง
Great Wall Motor (กเรท วอลล์ มอเตอร์) เปิด GWM Experience Center แห่งแรก ของประเทศไทย ณ ไอคอนสยาม โดยที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนพื้นที่แห่งที่ 4 (The 4th Space) นอกเหนือจากบ้าน ที่ทำงาน และสถานที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เพื่อเป็นพื้นที่แห่งใหม่ให้คนไทยได้มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ และใช้ช่วงเวลาดีๆ ไปด้วยกัน เปิดรับทุกคนที่จะเข้ามาเปิดประสบการณ์ นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษต่างๆ ไว้บริการมากมาย
GWM Experience Center ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 3 และ 4 ของไอคอนสยาม ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,600 ตรม. ที่ GWM Experience Center แห่งนี้ จะมี Experience Center Specialist คอยดูแล ให้คำแนะนำ และช่วยจัดกิจกรรมในแต่ละโซน เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มาเยี่ยมชม
นอกจากนี้ ยังมี Intelligent Ambassador หรือ IAM ที่จะช่วยให้ข้อมูล ตอบคำถาม และให้ความรู้เพิ่มเติมแก่ผู้ที่สนใจรถยนต์ของ Great Wall Motor อีกด้วย
GWM Experience Center แบ่งพื้นที่ออกเป็น 7 โซน ได้แก่
1. Mobility Experience Park ใช้พื้นที่ชั้น 3 ของไอคอนสยาม โซนนี้จะเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมบริเวณส่วนกลางของ GWM Experience Center โดดเด่นด้วยการจัดแสดงรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ Great Wall Motor ไม่ว่าจะเป็น All New Haval H6 Hybrid SUV (ฮาวัล เอช 6 ไฮบริด เอสยูวี) ใหม่ ทั้งรุ่น Ultra และรุ่น Pro ซึ่งเป็นรถยนต์คอมแพคท์เอสยูวียอดนิยมของคนไทยในขณะนี้
โดยไฮไลท์แรกของโซนนี้ อยู่ที่ LED Sphere (แอลอีดี สเฟียร์) ซึ่งเป็น LED ลูกโลกขนาดใหญ่ ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.8 ม. น้ำหนักกว่า 350 กก. และมีความสว่าง 800 แคนเดลา/ตรม. ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์พร้อมลำโพงติดผนัง สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะจาก Great Wall Motor ในการถ่ายทอดเรื่องราว และไอเดียที่น่าสนใจต่างๆ ผ่านลูกโลกใบนี้ได้อย่างน่าสนใจ นับเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพ และจุดเชคอินที่ไม่ควรพลาด
อีกไฮไลท์ของโซนนี้ นับได้ว่าเป็นจุดเด่นสำคัญของ GWM Experience Center คือ สไลเดอร์ขนาดใหญ่ความสูงกว่า 6.9 ม. และยาวกว่า 15 ม. ซึ่งเปิดให้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ สามารถมาเล่น เพลิดเพลินไปกับการเดินทางย้อนวันวานสู่วัยเยาว์ได้อย่างสนุกสนาน ช่วยเติมเต็มจินตนาการ และชาร์จพลังได้อย่างเต็มที่ ในบริเวณนี้ ยังจัดเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ส่วนกลางพร้อมการจัดที่นั่งแบบ Amphi theater สำหรับการหมุนเวียนจัดกิจกรรมต่างๆ โดยสามารถปรับเปลี่ยนการจัดสรรพื้นที่ได้ตามต้องการ พร้อมรองรับได้สูงสุดกว่า 100 ที่นั่ง เพื่อส่งเสริมการเชื่อมความสัมพันธ์ พูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ รวมถึงการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ ระหว่างกัน
2. Technology Lab เป็นโซนที่จัดแสดงเทคโนโลยี นวัตกรรมอันล้ำสมัยของ Great Wall Motor ที่ผ่านการคิดค้น พัฒนาให้เป็นเทคโนโลยีที่ดีที่สุดต่อผู้บริโภค สิ่งแวดล้อม และโลก โดดเด่นด้วย Intelligent Interactive LED Wall ขนาดใหญ่ ขนาด 14x3 ม. ที่มาพร้อมความละ เอียดสูง 7.5 ล้านพิกเซล และมีความสว่าง 600 แคนเดลา/ตรม. ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และระบบเสียง พร้อมติดตั้ง Lidar Touch Sensor เพิ่มลูกเล่น และกิจกรรม Interactive ให้แก่ผู้เยี่ยมชมได้เป็นอย่างดี โดยมีจุด Interactive Touch Points 5 จุด รองรับผู้เล่นได้ถึง 5 คนพร้อมกัน ซึ่งจะมีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์ Great Wall Motor ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น โดยจุดตรงกลางจะสามารถดูภาพรถยนต์ได้ทั้ง 360 องศา สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับนวัตกรรม เทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ และฟีเจอร์สุดพิเศษของรถแต่ละรุ่นได้อย่างเต็มที่
3. Conference Hall พื้นที่ห้องประชุม 2 ห้อง ซึ่งสามารถรองรับได้ถึง 40 ที่นั่ง โดดเด่นด้วยการออกแบบเป็นกระจกบานใหญ่ เพื่อให้สามารถประชุมพร้อมชื่นชมทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มที่ โดยไฮไลท์สำคัญของโซนนี้ คือ จอ Interactive Smart Board แบบทัชสกรีน ขนาด 86 นิ้ว ที่รวมเทคโนโลยีสุดล้ำที่เอื้อต่อการทำงานแบบมืออาชีพเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบการเขียนกระดานไวท์บอร์ดทั่วไป การใช้เป็นพโรเจคเตอร์ นำเสนองาน การประชุมผ่านวีดีโอ Conference ยังสามารถแชร์หน้าจอได้ถึง 4 หน้าจอพร้อมกัน รวมไปถึงความสามารถในการบันทึก แชร์เนื้อหา และเสียงจากการประชุมจาก Smart Board ไปยังคอม พิวเตอร์ โนทบุค แทบเลท หรือโทรศัพท์ได้ในทันที นับเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การทำงานในยุคนี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
4. Living Room & Sky Garden ครอบคลุมบริเวณพื้นที่ทั้ง 2 ชั้นของ GWM Experience Center โดยในแต่ละชั้น มีการจัดสรรพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนพื้นที่ Indoor ที่มีการจัดที่นั่งให้ดูสบายเหมือนพื้นที่สำหรับรับแขก ให้สามารถนั่งทำงาน จิบกาแฟ เพื่อพักผ่อนได้อย่างสบายใจ และอีกส่วนเป็นพื้นที่ Outdoor ซึ่งมีการจัดสวน Sky Garden ที่นับเป็นอีกไฮไลท์สำคัญของโซนนี้ โดยมีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ ผสานกับการออกแบบสวน และต้นไม้นานาพรรณในบริเวณระเบียงด้านนอกอย่างงดงาม เหมาะแก่ทั้งการนั่งทำงาน การหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ การพักผ่อนรับลม และชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ช่วยสร้างความรื่นรมย์ใจได้เป็นอย่างดี
5. GWM Story โซนนี้ประกอบด้วย Interactive Wall ขนาด 2.5x1.5 ม. ที่ถ่ายทอดเรื่องราว และประวัติความเป็นมาของ Great Wall Motor ตั้งแต่การเริ่มก่อตั้งในปี 1984 ไปจนถึงวิวัฒนาการของแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งเรื่องราวของขั้นตอน รายละเอียดการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพ มีความปลอดภัยสูง รวมไปถึงเส้นทางความสำเร็จของแบรนด์ที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้ทำ ความรู้จัก และเรียนรู้เกี่ยวกับ Great Wall Motor ได้ดีมากยิ่งขึ้น
6. Car Mapping โซนนี้อยู่ในพื้นที่ชั้น 2 ของ GWM Experience Center โดยไฮไลท์สำคัญของโซนนี้ คือ Car Mapping ซึ่งเป็นโมเดลจำลองรถ ยนต์จากแบรนด์ ORA (ออรา) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่ Great Wall Motor เตรียมนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยในปีนี้ โดย Car Mapping นี้เป็นจุดที่ผู้เยี่ยมชมสามารถปลดปล่อยจินตนาการได้อย่างอิสระ ผ่านการลงสีรถยนต์บนจอได้ตามที่ต้องการ จากนั้นจะมีการประมวลผลงานการระบายสีผ่านระบบพโรเจคเตอร์ ไฟ LED และสะท้อนสีสันไปบนโมเดลรถยนต์ ORA ได้อย่างสวยงาม ซึ่งทุกคนสามารถร่วมสนุก ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์กับกิจกรรมนี้ พร้อมกับเซฟไฟล์ภาพ หรือถ่ายรูป เพื่อนำผลงานไปอวดในโซเชียลมีเดียได้อีกด้วย
7. GWM Cafe & Co-Kitchen โซนนี้ประกอบไปด้วยพื้นที่ 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นคาเฟ ให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมสามารถนั่งพักผ่อน และดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มที่ชื่นชอบ โดยในโซนนี้ มีอีกไฮไลท์ที่น่าสนใจ คือ Interactive Coffee Table ซึ่งเป็นโต๊ะที่เป็นจอดิจิทอลขนาด 55 นิ้ว มาพร้อมกับเลเซอร์ พโรเจคเตอร์ เลนส์ซูม Motion Sensor และ Interactive Pen พร้อมด้วยนวัตกรรม ที่สามารถตรวจจับจำนวนวัตถุได้แบบเรียลไทม์ โดยเมื่อวางแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ ระบบเซนเซอร์จะตรวจจับตำแหน่งของแก้ว พร้อมแสดงรูปสัตว์น่ารักๆ ประเภทต่างๆ เพิ่มสัมผัสของธรรมชาติ และการรักษ์โลก โดยมีบาริสตาคอยให้บริการ นอกจากนี้ ยังเปิดให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมได้เขียน และแชร์ไอเดียรักษ์โลกในรูปแบบต่างๆ โดยใช้ Interactive Pen เพื่อแสดงผลไปยังจอด้านหลังได้อีกด้วย นับเป็นการสร้างประสบการณ์ระหว่างการดื่มเครื่องดื่มแก้วโปรดได้อย่างล้ำสมัย และเพลิดเพลิน นอกจากนี้ ในโซนนี้ยังมีพื้นที่อีกส่วนที่จัดเป็น Co-Kitchen ที่จัดเตรียมไว้สำหรับการทำกิจกรรมเกี่ยวกับการประกอบอาหาร เพื่อรังสรรค์เมนูสุดครีเอทีฟกันได้อย่างเต็มที่
GWM Experience Center เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.30 น. (เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามการเปิด-ปิดของไอ คอนสยาม และข้อกำหนดของทางหน่วยงานรัฐบาล)
ความพิเศษ ของ GWM Experience Center หากคุณโหลด GWM Application และสะสมแต้ม คุณก็สามารถนำแต้มมาแลกรับความพิเศษต่างๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม หรือแม้แต่การใช้ห้องประชุม หรือแม้แต่การใช้โซนต่างๆ ในการจัดกิจกรรมอีกด้วย
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม ที่มีประสบการณ์มากว่า 30 ปี รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี เปิดโลกได้พัฒนาตัวเองกว่า 30 ปี แวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต