ธุรกิจ
Mazda เผย CX-8 ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีพรีเมียม
ปัจจุบัน หลายคนอาจกำลังมองหารถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย การขึ้นลง เข้าออกทำได้สะดวก ขับขี่คล่องตัวทั้งในเมือง และการเดินทางไกล รองรับผู้โดยสารได้มากกว่ารถ ยนต์นั่งทั่วไป จึงเกิดเป็นรถประเภทครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เฉกเช่น Mazda (มาซดา) ที่ได้พัฒนารถประเภทนี้ขึ้นมาหลายรุ่น ภายใต้ชื่อตระกูล CX-Series (ซีเอกซ์-ซีรีส์) ซึ่งรวมถึงการถือกำเนิดขึ้นมาของ CX-8 (ซีเอกซ์-8) ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีระดับพรีเมียม ทั้งแบบ 3 แถว 6 ที่นั่ง และแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น หรือกำลังมองหารถที่โดยสารได้มากกว่า 5 ที่นั่ง ห้องโดยสารเงียบสงบ ระบบช่วงล่างมีความนุ่มนวล มีระบบความปลอดภัยสูง ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีตัวเลือกน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นประเภทที่ถูกดัดแปลง พัฒนามาจากโครงสร้างพื้นฐานของรถกระบะ หรือ PPV ส่งผลให้ไม่คล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง ผนวกกับช่วงล่างสไตล์รถกระบะ ความสูงของรถที่ส่งผลต่อความสะดวกในการขึ้น-ลงของผู้สูงอายุ และเด็ก ดังนั้น CX-8 จึงเข้ามาเติมเต็มความต้อง การของลูกค้าในสังคมไทย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สำคัญของสมาชิกทุกคนในครอบครัวเพื่อก่อให้เกิดมิตรภาพ และความอบอุ่นตลอดการเดินทาง
รถอเนกประสงค์ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี Mazda CX-8 เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อช่วงปลายปี 2562 โดยเป็นรถเจเนอเรชันใหม่ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟอย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ และตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งานของลูกค้ามากที่สุด เพราะถูกวางตำแหน่งให้เป็น “New Era of 3-Row Crossover SUV” เป็นครอสส์โอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมแบบ 3 แถว ที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน มาพร้อมแนวคิด “The Precious Moment for All” ทุกช่วงเวลา...มีค่าไม่สิ้นสุด" เป็นยนตรกรรมที่สร้างแรงบันดาลใจให้ออกไปใช้ชีวิตได้อย่างไร้ขอบเขต ไม่สิ้นสุด เข้ามาเติมเต็มความต้องการ และการใช้ชี วิตของลูกค้าให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
- คุณค่าด้านความสะดวกสบาย: The Finest Craftsmanship ทุกองค์ประกอบได้รับการออกแบบดุจงานศิลปะขั้นสูง ผ่านการคัดสรรด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเปี่ยมไปด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด ซึ่งความโดดเด่นที่สำคัญของ Mazda CX-8 คือ เรื่องความสบายของห้องโดยสาร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง ในรุ่น 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่งอย่างแท้จริง เพื่อมอบความสะดวกสบายสูงสุด ทั้งในแง่ของพื้นที่การใช้งาน คุณภาพของห้องโดยสาร สมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือกว่า ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่และความเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างผู้ขับขี่กับรถ ตามหลัก “Human-Centric Development” ที่พัฒนาโดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง นอกจากนี้ ที่นั่งในแถว 2 และ 3 ก็สามารถนั่งได้อย่างสะดวกสบาย จึงทำให้ Mazda CX-8 ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความนุ่มนวล ความสะดวกสบายในการขับขี่ ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารให้ทุกการเดินทางไกล และการขับขี่ในเมืองเต็มไปด้วยความสุข นอก จากนี้ ห้องโดยสารก็ยังมีให้เลือกถึง 2 รูปแบบ ได้แก่ ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง ที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวางมอบความสะดวกสบายในทุกอิริยาบถ และห้องโดยสารแบบ 6 ที่นั่ง ที่มาพร้อมที่นั่งแถว 2 แบบ Captain Seat 2 ที่นั่ง แยกอิสระซ้าย-ขวา ที่ตอบโจทย์ความภูมิฐาน และความพรีเมียม รวมถึงมอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้โดยสารทุกคน
- คุณค่าด้านการออกแบบที่งดงาม: Elegant and Comfort in Perfect Harmony ในด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานของทุกคนในครอบครัว Mazda CX-8 ยังคงความประณีตพิถีพิถัน ภายใต้ปรัชญา Kodo Design: Soul of Motion ที่เน้นความเรียบง่ายแต่งดงาม ทั้งภายนอก และภายในห้องโดยสาร โดยภายในเลือกใช้แต่วัสดุคุณภาพสูงเพื่อสะท้อนภาพลักษณ์แห่งความภูมิฐาน สง่างาม และสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นโทนสี และวัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในที่ได้รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดี การเลือกใช้วัสดุแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม ผสานอย่างลงตัวกับเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งความอบอุ่นให้แก่ทุกคนในครอบครัว สำหรับภายนอกก็โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าของรถที่โดดเด่นด้วยซิกเนเจอร์วิง การตกแต่งเสาบี และเสาซีด้วยวัสดุสีดำเพียโน และโครเมียมที่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และไฟท้ายที่ตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมมีสีภายนอกให้เลือกมากถึง 6 สี
- คุณค่าด้านสมรรถนะของเครื่องยนต์: Thrilling Performance ที่สุดของสมรรถนะความแรงที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ CX-8 มาพร้อมเครื่องยนต์สกายแอคทีฟอันเลื่องชื่อของ Mazda ซึ่งมีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 190 แรงม้า แรงบิด 45.9 กก.-ม. หรือ 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น ให้การตอบสนองที่รวดเร็ว แม่นยำด้วยนวัตกรรมในการส่งแรงบิดที่ยอดเยี่ยม การทำงานที่ราบรื่นจนถึงรอบเครื่องยนต์สูง ในขณะที่มีเสียงรบกวนต่ำ ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม และประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กม./ลิตร และอีกเครื่องยนต์กับสกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร ให้พละกำลังสูงถึง 194 แรงม้า แรงบิด 26.3 กก.-ม. หรือ 258 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT ที่ถูกพัฒนาให้สามารถตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างดีเยี่ยม แม่นยำ ทรงพลัง ให้สมรรถนะการขับขี่ที่คล่องแคล่ว และประหยัดน้ำมันได้ถึง 13.2 กม./ลิตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งตอบโจทย์ทุกรูปแบบการขับขี่ไม่ว่าจะเป็นการขับในเมือง หรือการขับขี่ทางไกลที่ต้องใช้ความเร็วสูงก็ตาม
- คุณค่าการควบคุมการขับขี่จากเทคโนโลยี Skyactiv-Vehicle Dynamic: More Control with Less Effort เพลิดเพลินกับทุกเส้นทาง มั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟที่ผสาน และควบคุมการทำงานของรถทั้งคัน ให้ทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทั้งความแรง ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงโครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ที่ผลิตจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง High Tensile Steel น้ำหนักเบา แข็งแกร่ง ให้การควบคุมรถที่มั่นคง ช่วยลดแรงสะเทือนจากพื้นถนน กระจายแรงปะทะที่จะเข้าสู่ห้องโดยสารในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ช่วงล่าง และระบบบังคับเลี้ยวที่ยึดเกาะถนนมั่นคง ให้ความนุ่มนวลแก่ห้องโดยสาร พร้อมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้เข้าโค้งได้แม่นยำ รวมถึงระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ (GVC) ที่ช่วยให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
- คุณค่าด้านความพร้อมของเทคโนโลยีเพื่อความเพลิดเพลิน: Your World, at Your Fingertips ก้าวสู่ความเหนือระดับด้วยเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสุนทรียภาพในการขับขี่ให้กับผู้โดยสารไปตลอดการเดินทาง Mazda จึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด Mazda Connect เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน ทั้งด้านธุร กิจ และครอบครัว ด้วยการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร หรือรับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟน ผ่านสัญญาณบลูทูธ พร้อมรองรับระบบ Apple Car Play และระบบ Android Auto ที่เชื่อมต่อแอพพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และสามารถใช้งานฟังค์ชันสำคัญได้ โดยแสดงผลผ่านหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Comman der และสร้างสุนทรียภาพรอบทิศทางด้วยระบบเสียงคุณภาพ Bose® พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
- คุณค่าด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย: Unconditional Confidence อีกระดับของความปลอดภัยระดับโลก ด้วยเทคโน โลยีความปลอดภัยสุดล้ำ I-Activsense ถึง 10 ระบบ ที่สามารถคาดการณ์ และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น ได้แก่ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) และระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) เป็นต้น พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดเหตุ (Active Safe ty) และความปลอดภัยเชิงปกป้องเมื่อเกิดเหตุ (Passive Safety) พร้อมระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง และถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัยรวม 6 ตำแหน่ง ที่ช่วยทั้งป้องกัน และปกป้องคนที่คุณรักไปตลอดการเดินทาง
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)