Toyota Corolla Cross GR Sport 2022 ใหม่ เปิดตัวแล้วที่ไต้หวัน

Toyota Corolla Cross GR Sport 2022 (โตโยตา โคโรลลา ครอสส์ จีอาร์ สปอร์ท 2022) ใหม่ เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางแล้วที่ประเทศไต้หวัน พร้อมชุดแต่งสปอร์ทรอบคัน ในขณะที่ญี่ปุ่น เปิดตัว Toyota Corolla Cross ที่มีรูปโฉมด้านหน้าแตกต่างจากรุ่นที่ขายในไทย เมื่อวันที่ 14 กันยายน ที่ผ่านมา

Toyota ได้เพิ่มรุ่นพิเศษอย่าง GR Sport ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น Fortuner (ฟอร์ทูเนอร์) และ Hilux Revo GR Sport (ไฮลักซ์ รีโว จีอาร์ สปอร์ท) ในประเทศไทย Yaris GR Sport (ยารีส จีอาร์ สปอร์ท) ในอินโดนีเซีย และล่าสุดกับ Toyota Corolla Cross GR Sport ที่ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลกที่ประเทศไต้หวัน มาพร้อมชุดแต่งที่สปอร์ทดุดัน ทั้งภายนอก และภายใน ภายนอกของ Toyota Corolla Cross GR Sport ติดตั้งกระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมรมดำดีไซจ์นใหม่ ไฟ LED พร้อม Daytime Running Lights หลังคาสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินที่ราวหลังคา, บริเวณกันชนหน้า/หลัง และชายประตู ไฟท้ายแบบ LED รมดำ และล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยโทนสีดำ พร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง พนักพิงศีรษะปั๊มตราสัญลักษณ์ GR ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ก็มีสัญลักษณ์ GR ด้วยเช่นกัน เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ MID (Multi Information Display) ขนาด 7 นิ้ว พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS (Electric Power Steering) หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Bluetooth และ USB ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone ปรับอุณหภูมิด้านซ้าย/ขวาอย่างอิสระ พร้อมช่องระบายอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ (Push Start) พนักพิงเบาะนั่งด้านหลังปรับเอนได้ 6 องศา เบาะนั่งด้านหลังแยกพับได้แบบ 60:40 พนักวางแขนด้านหลัง พร้อมที่วางแก้วน้ำ ช่องต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีความจุมากถึง 487 ลิตร ขุมกำลังเป็นเครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-I ขนาด 1.8 ลิตร รหัส 2ZR-FE 140 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิด 177 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รตน. จับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ และเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid ขนาด 1.8 ลิตร 2ZR-FXE ให้กำลัง 98 แรงม้า ที่ 5,200 รตน. แรงบิด 142 นิวตัน-เมตร ที่ 3,600 รตน. จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 72 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตัน-เมตร ทำให้ได้แรงม้ารวมถึง 122 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ E-CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า มีโหมดการขับขี่ให้เลือกทั้ง EV, SPORT, ECO นอกจากนี้ Toyota Corolla Cross GR Sport ยังถูกปรับปรุงชอคอับ และสปริง เพื่อเน้นความหนึบมากยิ่งขึ้น ขณะที่พวงมาลัยไฟฟ้า EPS มีการปรับทูนเพื่อเน้นความสปอร์ท ซึ่ง Toyota ระบุว่า ช่วยเพิ่มความแม่นยำของพวงมาลัย ส่งผลให้สามารถควบคุมทิศทางได้ง่ายขึ้น ระบบกันสะเทือนแบบสปอร์ทที่ปรับแต่งด้วยมืออาชีพจากทีม GR ปรับเปลี่ยนค่าสัมประสิทธิ์สปริง และการลดแรงกระแทกของชอคอับหน้า และหลัง เพิ่มการยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง เพิ่มความแข็งแกร่งของแชสซีส์ และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการบิดงอได้อย่างมาก นอกจากนี้ ระบบช่วยบังคับเลี้ยวอีเลคทรอนิคส์ EPS ที่ปรับแต่งแบบสปอร์ท ทำให้การตอบสนองของพวงมาลัย การบังคับเลี้ยว แม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับเพลิดเพลินในการขับขี่รถยนต์ ระบบความปลอดภัยมาพร้อม Toyota Safety Sense 2.0 ไม่ว่าจะเป็น ระบบควบคุมและปรับลดความเร็วอัตโนมัติ พร้อมช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน Full-Speed Dynamic Radar With Lane Tracing Assist ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ Automatic High Beams ระบบความปลอดภัยก่อนการชน Pre-Collision System ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ Rear Cross Traffic Alert Hill-Start Assist Control ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC (Traction Control System) ระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน Hill-Start Assist Control ถุงลมเสริมความปลอดภัยระบบ SRS 7 ตำแหน่ง สัญญาณไฟฉุกเฉินขณะเบรคกะทันหัน Emergency Brake Signal Toyota Corolla Cross GR Sport วางจำหน่ายแล้วที่ประเทศไต้หวัน ราคาเริ่มที่ 875,000 เหรียญไต้หวัน หรือราว 1,041,000 บาท ในรุ่น 1.8 เบนซิน และ 1.8 Hybrid ราคา 945,000 เหรียญไต้หวัน หรือราว 1,124,000 บาท Hetai Motors กล่าวว่า Toyota Gazoo Racing เป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันภายใต้ Toyota Motor Corporation of Japan ด้วยความหลงใหลของ Akio Toyoda ประธานคนปัจจุบัน ที่ชื่นชอบกีฬามอเตอร์สปอร์ท ทีมงาน GR ยังได้ใช้ประสบการณ์ที่สะสมมาในการแข่งขันเพื่อพัฒนารถยนต์สมรรถนะสูงหลากหลายรุ่น ได้แก่ "Bull Devil" GR Supra และ "Violent Duck" GR Yaris ทำให้จิตวิญญาณของ GR เข้าใกล้ชีวิตของสาธารณชนมากขึ้น ในเมืองไทยก็มีสิทธิ์ลุ้น เพราะใกล้ถึงระยะเวลาที่ต้องไมเนอร์เชนจ์แล้ว เพื่อรับมือรถเอสยูวีจากประเทศจีน ที่กำลังรุกหนักทำตลาดในประเทศไทย