Deepal S07
ลองขับ e:N1 รถไฟฟ้า 100 % ในร่าง Honda HR-V
Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ ราคา 799,000 บาท ลองขับทั้งทางเรียบ/ทางลุย ระบบไฮบริดขนาดเล็ก แต่ลงตัว
New Mitsubishi Pajero Sport เปลี่ยนเครื่อง และเกียร์ใหม่
Toyota Majesty กลับมาแล้ว
Lexus NX โฉมล่าสุด เพิ่มรุ่นย่อย Overtrail ในรุ่น 450h+ (ราคา 4,180,000 บาท)
Aion Y Plus 490 Premium / Mitsubishi Xpander Cross HEV / Suzuki XL7 Hybrid รวม 3 ครอสส์โอเวอร์สไตล์ MPV น่าพาไปเที่ยว !
Suzuki จัดกิจกรรม “Suzuki Carry X The Nail Bakery On The Road”
Porsche คว้าชัยบนโพเดียมที่สนามอิโมลา
Toyo Tires คว้ารางวัล Red Dot Design Award 2023
Redmi 13C 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นประหยัดตัวใหม่ หน้าจอ 6.74 นิ้ว
Apple เผยโฉม iPad Pro ใหม่ พร้อมจอภาพล้ำ, ชิพ M4 และ Apple Pencil Pro
INFINIX NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จไว ชาร์จได้หลากหลาย
ช่วงล่างระดับเทพ ! Lamborghini ปรับมุมล้ออัตโนมัติ | X-RAY
มุมล้อ 101 : ตั้งมุม Camber มุม Toe อย่างไรถึงจะขับดี | X-RAY
รีวิว ! สงกรานต์ 2024 อุบัติเหตุลด ! ผลงานเยี่ยม แนะ ! เมาแล้วขับ กับความเชื่อผิดๆ
สัญญาณไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ เป็นสิ่งที่ช่วยตรวจสอบความผิดปกติของรถยนต์ และแจ้งเตือนให้เราทราบ autoinfo.co.th จะพามารู้จักความหมายของไฟสถานะต่างๆ บนแผงหน้าปัดรถยนต์ว่าบ่งบอกถึงอะไรบ้าง
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ แบ่งเป็น 3 ระดับสัญลักษณ์หน้าปัดรถยนต์ไฟสีแดง หมายถึง อันตราย ต้องหยุดรถทันที และตรวจสอบหาความผิดปกติตามสัญลักษณ์ที่ปรากฏ สัญญาณไฟสีเหลือง หมายถึง สัญญาณการเตือน แต่รถยังสามารถใช้งานได้ปกติ เช่น น้ำมันรถใกล้หมด สัญญาณไฟสีเขียว หมายถึง ผู้ขับขี่กำลังใช้ระบบนั้นๆ อยู่ เช่น ไฟเลี้ยว, ไฟขอทาง (บางรุ่นมีสีแตกต่างไปจากนี้)
สัญลักษณ์บนหน้าปัดรถ บอกอะไรบ้าง
ไฟเตือนระบบเบรค
สัญลักษณ์นี้ หมายถึง ยังไม่ได้เอาเบรคมือลง หรือลดเบรคมือยังไม่สุด แต่เมื่อเอาลงแล้วยังแสดงอยู่ แปลว่า น้ำมันเบรคอาจจะผิดปกติ หรืออาจจะเกี่ยวข้องถึงระบบลอคล้อ ถ้ามีการใช้สัญญาณร่วมกัน
ไฟเตือนแบทเตอรี
หากรถมีการแสดงสัญลักษณ์ระบบแบทเตอรี หมายถึง แบทเตอรีใกล้หมด หรือไดชาร์จไม่ทำงาน ทำให้ระดับกำลังไฟลดลง จนเครื่องยนต์ดับได้ หากพบสัญลักษณ์แบทเตอรีแสดง ให้นำรถไปเชคที่ศูนย์ หรืออู่ซ่อมรถทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถดับระหว่างทาง
ไฟเตือนระบบลอคล้ออัตโนมัติ (ABS)
เมื่อระบบลอคล้อเกิดความผิดปกติ หรือแสดงสัญลักษณ์ขึ้นมาระหว่างขับขี่ แนะนำให้เข้าศูนย์ หรืออู่ซ่อมรถทันที แต่ระบบเบรคยังสามารถใช้งานได้ปกติ เพียงแต่เมื่อมีการเบรคกะทันหัน ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงาน
ไฟเตือนระบบถุงลมนิรภัย
การแสดงสัญลักษณ์นี้ อาจจะเกิดปัญหาภายในระบบ ต้องเอารถเข้าอู่ หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบการทำงาน เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ถุงลมนิรภัยอาจไม่ทำงานได้
ไฟเตือนอุณหภูมิเครื่องยนต์
เมื่อเกิดสัญญาณไฟนี้ขึ้น แสดงว่าเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่สูงเกินไป และอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ ให้นำรถจอดข้างทางทันที เบื้องต้นให้ดับเครื่องยนต์ และรอจนกว่าเครื่องยนต์จะเย็นตัว แล้วให้เชคระดับน้ำในหม้อน้ำ
ไฟเตือนการควบคุมการทรงตัว
รถทุกคันจะได้รับการติดตั้งระบบการทรงตัวมาแล้ว หากมีสัญลักษณ์ดังกล่าวโชว์หน้าปัด เป็นการแจ้งว่าระบบกำลังถูกปิดใช้งานอยู่ ซึ่งเมื่อรถมีการเสียหลัก ระบบจะไม่ช่วยควบคุมการทรงตัว แต่เมื่อสัญลักษณ์นี้กะพริบระหว่างฝนตกถนนลื่น แสดงว่า กำลังช่วยควบคุมการทรงตัว จะทำให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยขึ้นอีกระดับ
ไฟเตือนระบบพวงมาลัยไฟฟ้า
เป็นสัญลักษณ์เตือนเมื่อพวงมาลัยไฟฟ้าเกิดปัญหา เเละจะทำให้การควบคุมพวงมาลัยยากขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้ประคองรถยนต์เข้าศูนย์ทันที หรือใช้บริการรถยกเพื่อแก้ไขปัญหา
ไฟเตือนประตูรถ
สำหรับสัญลักษณ์นี้ คือ การปิดประตูไม่สนิท ให้ตรวจสอบแล้วปิดใหม่อีกครั้ง
สัญลักษณ์ไฟหน้า
ส่วนใหญ่แล้ว สัญลักษณ์เมื่อเปิดไฟหน้า ตัวดวงไฟจะแสดงเป็นสีเขียว หรือสีส้มอำพัน (แตกต่างกันในแต่ละรุ่น) แต่ถ้ามีดวงไฟสีน้ำเงิน หรือฟ้าขึ้นมา แสดงว่ามีการเปิดไฟสูง ควรใช้ในการขับขี่ตอนกลางคืน และในที่ที่ไม่มีรถคันอื่นอยู่ข้างหน้า และสวนทางมา
ไฟเตือนเครื่องยนต์
ถ้าไฟรูปเครื่องยนต์โชว์ขึ้นมาแล้วไม่ดับ แสดงว่าการทำงานของเครื่องยนต์เริ่มมีปัญหา ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่ครอบจักรวาล เพราะตัวนี้ตัวเดียว อาจแจ้งความผิดปกติหลายอย่าง ต้องนำไปตรวจเชคที่ศูนย์ หรืออู่ซ่อมรถ
ไฟเตือนแรงดันน้ำมันเครื่อง
เมื่อสัญลักษณ์นี้โชว์บนหน้าปัด ต้องจอดรถตรวจเชคทันที เพราะสัญลักษณ์นี้บ่งบอกถึงน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับต่ำเกินไป แต่ถ้าเมื่อตรวจดูแล้วน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ แสดงว่ามีการอุดตัน ไม่มีแรงดันน้ำมันเครื่องไปหล่อเลี้ยงตามจุดต่างๆ ให้นำรถเข้าศูนย์ หรืออู่ เพื่อซ่อมทันที
บทความแนะนำ
Follow Motor Expo Club Network