Mazda (มาซดา) ประกาศจะกลับมาเดินสายผลิตเต็มกำลังอีกครั้งทั่วโลก ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อตอบรับความต้องการยานยนต์ หลังต้องลดระดับการดำเนินงานทุกด้านเพื่อหลีกเลี่ยงไวรัส COVID-19โรงงานผลิตรถยนต์ของ Mazda ในประเทศญี่ปุ่น เมกซิโก และประเทศไทยจะกลับมาเดินสายการผลิตตามปกติอีกครั้ง หลังต้องมีมาตรการลดระดับกำลังการผลิตเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 โดยนโยบายการทำงานล่วงเวลา และการทำงานในช่วงสุดสัปดาห์จะถูกนำกลับมาใช้เป็นปกติในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งโรงงานยูจินะทั้ง 2 แห่งในเมืองฮิโรชิม่า และโรงงานโฮฟุในยามากูชิ จะเดินสายการผลิต 2 รอบการทำงาน นอกจากนี้ Mazda ยังระบุด้วยว่าปัจจุบันผู้จัดจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงในภูมิภาคยุโรปได้กลับมาดำเนินงานขายตามปกติแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Mazda ได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัส จนต้องกู้เงินจำนวน 3 แสนล้านเยน จากธนาคารยักษ์ใหญ่ 3 แห่งในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นมาตรการเพิ่มสภาพคล่องเหมือนกับบริษัทรถยนต์อื่นๆ อย่าง Toyota (โตโยตา) และ Nissan (นิสสัน) ที่ต้องขอเงินกู้เช่นกัน ทั้งนี้ ความต้องการยานยนต์ในสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายของ Mazda ในอเมริกาเหนือเติบโตราว 11 % จากปีก่อนหน้า โดยมีโมเดลขายดี คือ CX-9 (ซีเอกซ์-9) และ MX-5 (เอมเอกซ์-5) ที่ทำยอดเพิ่มขึ้น 50 % และ 25 % ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม Mazda ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ของภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก และยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกัน COVID-19 รวมถึงติดตามตลาดยานยนต์ ความต้องการ และแนวโน้มเป้าหมายในแต่ละภูมิภาคต่อไป
บทความแนะนำ