รายงานข่าวจากกรุงโตเกียว ระบุว่า ค่าย Toyota ที่เพิ่งแนะนำ RAV4 Prime ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลัก-อิน ไฮบริด สำหรับตลาดในประเทศญี่ปุ่น ไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563 แต่หลังจากนั้นอีก 3 สัปดาห์ ก็ประกาศงดการรับจอง โดยให้เหตุผลว่า อันเนื่องมาจากมีความต้องการมากกว่ากำลังการผลิตก่อนหน้านั้น Toyota ได้แนะนำตัวรถสู่ตลาด และประกาศเป้าหมายการขายเพียงเดือนละ 300 คัน หรือน้อยกว่าปีละ 4,000 คัน ซึ่งในเวลาเพียง 2-3 สัปดาห์ ก็มียอดจองจนเต็มแล้ว สื่อมวลชนของญี่ปุ่น ระบุว่า น่าจะเกิดจากปัญหาข้อจำกัด 2 ประการ คือ การจัดหาแบทเตอรี และยังไม่แน่ใจในการสนับสนุนจากภาครัฐในปีหน้า แต่จากการใช้งานชุดแบทเตอรีขนาด 18.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง ใช้งานเพียงเดือนละ 300 ชุด หรือราว 5.43 เมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์แล้ว ถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมาก ทำให้เกิดความสงสัยว่า Toyota มีปัญหาข้อจำกัดอะไร เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับทางค่าย Nissan ที่แนะนำรถไฟฟ้า Leaf เมื่อปี 2553 ในเวลาเพียง 3 เดือน กวาดยอดจองไป 3,600 คัน และ 9,000 คัน ใน 1 ปี ทั้งที่เป็นการแนะนำรถไฟฟ้าครั้งแรกของค่าย