วงการอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก ได้รับผลกระทบโดยเริ่มจากการระบาดในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการผลิตชิ้นส่วนสำหรับรถยนต์หลากหลายยี่ห้อ ทำให้เกิดการขาดแคลนชิ้นส่วนเพื่อใช้ในการประกอบรถยนต์ ซึ่งก็มี โรงงานประกอบรถยนต์หลายค่ายทั่วโลก ต่างพากันประกาศหยุดไลน์การผลิตมากมายเริ่มจาก แฟร์รารี, กลุ่ม เฟียต คไรสเลอร์, ฟอร์ด, ฮอนดา และ โฟล์คสวาเกน ที่ประกาศหยุดสายการผลิตไปตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้น แฟร์รารี ประกาศจะเริ่มการผลิตที่โรงงานใน มาราเนลโล ในวันที่ 14 เมษายน 2563 โดยเชื่อมั่นว่าจะสามารถจัดหาชิ้นส่วน และมีความปลอดภัยในการทำงานเพียงพอ แม้ประเทศอิตาลี จะเป็นประเทศที่มีการระบาดของไวรัสอย่างหนัก ขณะที่ กลุ่ม เฟียต คไรสเลอร์ เบื้องต้นก็ระบุว่าจะเริ่มสายการผลิตอีกครั้ง ในวันที่ 14 เมษายน 2563 ที่โรงงานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ส่วนโรงงานแห่งอื่นๆ จะแจ้งเพิ่มเติม ค่ายฟอร์ด ยืนยันว่าโรงงานในเมกซิโก จะสามารถเริ่มการผลิตได้ในวันที่ 6 เมษายน 2563 และจะตามมาด้วยโรงงานหลักในสหรัฐอเมริกา อีกหลายแห่งในวันที่ 14 เมษายน 2563 เช่นเดียวกับ ฮอนดา ที่วางแผนจะกลับมาผลิตในโรงงานสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในวันที่ 7 เมษายน 2563 ส่วน โฟล์คสวาเกน วางแผนจะกลับมาผลิตในสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 เมษายน 2563 และค่ายผู้ผลิตจากเยอรมนี จะเริ่มงานในโรงงานส่วนใหญ่ วันที่ 9 เมษายน 2563 ทางฝั่ง โตโยตา ก็เตรียมที่จะเริ่มสายการผลิตทุกโรงงานในยุโรป ยกเว้นประเทศรัสเซีย ซึ่งจะมีประกาศเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง โดยตามแผนงาน น่าจะเริ่มมีรถยนต์ที่ออกจากสายการผลิตคันแรกราว วันที่ 20 เมษายน 2563 เป็นอย่างเร็ว ทั้งนี้ เพราะการระบาดของไวรัสในยุโรป ยังคงมีมาตรการเฝ้าระวังอยู่ในอีกหลายประเทศ และอาจมีการปิดเมืองเพิ่มขึ้นได้ ประกอบกับสภาวะตลาด ที่แทบจะไม่มีการซื้อขายใดๆ เกิดขึ้น รวมทั้งความยุ่งยากในการจัดส่งชิ้นส่วน อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่ง โตโยตา หยุดสายการผลิตในฝรั่งเศส, อังกฤษ, สาธารณรัฐเช็ค, โปแลนด์, ตุรกี และ โปรตุเกส มาตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ส่วนโรงงานในรัสเซีย จะหยุดการประกอบตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ถึง 3 เมษายน 2563 ส่วนในอเมริกาเหนือ ก็ยังไม่มีกำหนดกลับมาขึ้นสายการผลิต ขณะที่ ค่ายเรอโนลต์ ประกาศว่า ได้ประกาศหยุดโรงงานทุกแห่ง อันเนื่องจากผลกระทบของไวรัส COVID-19 ยกเว้นในประเทศจีน และเกาหลีใต้ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานการณ์ในแต่ละประเทศ เพื่อให้สามารถกลับมาเริ่มการผลิตได้เร็วที่สุด โดย เรอโนลต์ ปิดเขตอุตสาหกรรมในฝรั่งเศส, ปิดโรงงานใน สโลเวเนีย, โรงงานอีก 2 แห่ง ใน โมรอคโค, ตุรกี และโรงงานระบบขับเคลื่อนใน โปรตุเกส รวมทั้งโรงงาน 7 แห่ง ในทวีปอเมริกาใต้ และประเทศอินเดีย ทางด้าน กลุ่ม พีเอสเอ แถลงว่าได้เตรียมที่จะเริ่มสายการผลิตของโรงงานในยุโรป อีกครั้ง หลังจากต้องปิดเพราะ ไวรัส COVID-19 แต่ได้รับการทักท้วงจากสหภาพแรงงาน ว่าแผนงานยังไม่พร้อมดำเนินการ แม้ว่าจะประกาศที่จะเริ่มสายการผลิตเครื่องยนต์ ใน ดอฟริน (DOUVRIN) ในวันที่ 3 เมษายน 2563 แต่สหภาพก็ระบุว่า ยังไม่พร้อมดำเนินการเช่นกัน ขณะที่ภาครัฐ ก็ประกาศปิดประเทศจนถึงวันที่ 15 เมษายน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส กลุ่มพีเอสเอ ปิดโรงงานในยุโรป ประกอบด้วย โอเพิล ใน เยอรมัน, สเปน และ โปแลนด์, โรงงาน วอล์กฮอลล์ ใน อังกฤษ เช่นเดียวกับ เปอโฌต์, ซีตรอง และ ดีแอส เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา และมีแผนที่จะกลับมาเริ่มการผลิตอีกครั้งในวันที่ 27 มีนาคม 2563 แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ภาพรวมคือ เบื้องต้นค่ายรถยนต์ต่างๆ กำลังตรวจสอบสถานการณ์ความเป็นไปได้ และเตรียมงานที่จะกลับมาเริ่มสายการผลิต ตามลำดับความจำเป็น แต่นั่นเป็นแผนงานเบื้องต้นที่ส่วนใหญ่จะไม่เป็นไปตามคาดการณ์ เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง