โบช พร้อมนำผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อเพื่อเทคโนโลยีการขับเคลื่อน และการใช้ชีวิตในบ้าน จัดแสดงในงาน CES2020 ที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีไฮไลท์อยู่ที่โซลูชัน ซึ่งนำเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาใช้ หรืออาจเป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาหรือสร้างขึ้นมาโดยมี AI เป็นตัวช่วย ซึ่งผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีต่างมุ่งหวังให้ AI เป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ทรงพลัง และอธิบายได้ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้เพื่อการผลิต ใช้ในบ้านอัจฉริยะ หรือการขับขี่อัตโนมัติ
รางวัล CES 2020 Innovation Awards สำหรับโซลูชันอันโดดเด่นของ โบช
สำหรับงาน CES 2020 ที่ใกล้จะมาถึงนี้ โบช ได้รับรางวัล Innovation Awards ถึง 2 รางวัลด้วยคะแนนสูงสุด จากจอแสดงผล 3 มิติ ในรถยนต์ ผลงานการสร้างสรรค์ครั้งแรกของโลกโดยสายงาน Car Multimedia ของ โบช ยังได้รับรางวัลเกียรติยศสูงสุด Best of Innovation อีกด้วย สำหรับรายละเอียดสามารถติดตามได้ในงาน CES 2020 นอกจากนี้ โบช ยังได้รับรางวัลกิตติมศักดิ์เพิ่มอีก 1 รางวัล ซึ่งนับเป็นการรับรางวัลกิตติมศักดิ์ครั้งที่ 3 แล้ว จากผลงานโซลูชันของ โบช ด้านการดูแลสุขภาพ โดยจะมีการประกาศรางวัลอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงาน CES 2020 สำหรับรางวัล CES Innovation Awards นี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยสมาคม Consumer Technology Association (CTA) ได้แบ่งกลุ่มประเภทรางวัลไว้ 28 ประเภท ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มในอนาคตของอุตสาหกรรม
จอแสดงผล 3 มิติ–เสริมมุมมองมิติที่ 3 ในห้องคนขับ: จอแสดงผล 3 มิติ ของ โบช ใช้เทคโนโลยี 3 มิติแบบ passive เพื่อให้เกิดภาพและสัญญาณเตือนแบบ 3 มิติที่สมจริง จากการจับข้อมูลภาพที่เร็วขึ้นกว่าจอธรรมดา ลดโอกาสที่ผู้ขับขี่จะเสียสมาธิ หรือละสายตาไปที่อื่น นอกจากนี้ หน้าจอยังแสดงผลที่ให้รายละเอียดความลึกของภาพได้ดี โดยไม่ต้องมีฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่างการติดตามการมอง (Eye Tracking) หรือแว่น 3 มิติ
นวัตกรรมของ โบช ที่ “ต้องจับตาดู”
SoundSee ระบบโสตอัจฉริยะสำหรับสถานีอวกาศนานาชาติ (AI inside): ระบบ SoundSee ของ โบช มีขนาดกะทัดรัด ใหญ่กว่ากล่องข้าวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี AI ที่ก้าวล้ำที่สุด ปัจจุบัน ระบบนี้ได้ออกไปท่องวงโคจรในอวกาศ และจะได้ประจำฐานปฏิบัติการของสถานีอวกาศนานาชาติ ระบบ SoundSee ขึ้นไปท่องวงโคจรกับหุ่นยนต์ Astrobee ของ นาซา และทำงานโดยใช้ไมโครโฟนแบบครบวงจร สามารถจับเสียงสภาพแวดล้อมในอวกาศได้ และวิเคราะห์เสียงต่างๆ ด้วยระบบอนาลิทิคจาก AI ทำให้สามารถตรวจจับสิ่งผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น และส่งสัญญาณให้ทราบว่าจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาแล้ว ในช่วงต้นปี 2020 นี้ จะมีการนำส่งข้อมูลเสียงที่ SoundSee ตรวจจับไปให้สถานีควบคุมภาคพื้นดินที่สร้างขึ้นตามแบบของนาซา ซึ่งทำหน้าที่เป็น Bosch Research Center ณ เมืองพิทส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ทั้งนี้ โบช ได้พัฒนา SoundSee ร่วมกับ Astrobotic ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการวิจัยร่วมกับ นาซา
แว่นตาอัจฉริยะ Light Drive–ให้ข้อมูลอยู่ในสายตาตลอด: Bosch Sensortec นำเสนอ แว่นตาอัจฉริยะ Light Drive ที่นับได้ว่าเป็นโซลูชันแรกในโลกที่ทำให้แว่นตาธรรมดากลายเป็นแว่นอัจฉริยะได้ ด้วยการทำงานของระบบฉายภาพครบวงจร ประกอบด้วย กระจกระบบไฟฟ้าเครื่องกลจุลภาค (MEMS mirror) กลไกการมองเห็น ตัวเซนเซอร์ และซอฟท์แวร์เชื่อมต่ออัจฉริยะ สำหรับแว่นตาอัจฉริยะ Light Drive ตัวนี้ มีความบางเพียง 1 ใน 3 ของโซลูชันที่เคยมีในตลาด และมีน้ำหนักไม่ถึง 10 กรัม ให้ภาพที่ใสและคมชัด ผู้ใช้มองเห็นได้ชัดเจนแม้ในภาวะแสงจ้า แสดงข้อมูลและข้อความให้เห็น รวมไปถึงปฏิทินและคำสั่งการทำงานต่างๆ ตามที่ได้รับมาจากสมาร์ทโฟนหรือสมาร์ทวอช
ระบบติดตามภายใน เพื่อความปลอดภัยและสะดวกสบายสำหรับทุกคนในรถ (AI inside): ระบบติดตามภายในรถยนต์ของ โบช สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของเปลือกตา ทิศทางการเหลือบมอง และท่าทางการนั่ง และตรวจจับได้ว่าผู้ขับกำลังง่วงหรือมองที่สมาร์ทโฟนอยู่หรือไม่ จากนั้นจึงส่งสัญญาณเตือนผู้ขับให้ระวังเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ นอกจากนี้ ยังติดตามด้วยว่าภายในรถยนต์นั้น มีผู้โดยสารกี่คนและนั่งอยู่ในที่หรือไม่ เทคโนโลยีนี้จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบความปลอดภัย เช่น ถุงลมนิรภัย จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น ระบบยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทุกคน เช่น จะทำงานโดยอัตโนมัติตามข้อมูลการปรับที่นั่งที่ระบบบันทึกไว้ ในอนาคตเมื่อรถยนต์ขับเคลื่อนในโหมดกึ่งอัตโนมัติสำหรับการเดินทางบางช่วง เช่น บนทางด่วน ระบบติดตามผู้ขับขี่จะกลายเป็นเทคโนโลยีคู่ใจที่ขาดไม่ได้ เพราะกล้องติดตามจะช่วยให้ผู้ขับขี่กลับมาบังคับรถได้อย่างปลอดภัย
Bosch IoT Shuttle–อนาคตแห่งการขับเคลื่อน: ในอนาคต ผู้ให้บริการการขับเคลื่อนจะใช้รถโดยสารมาให้บริการตามสั่งกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้าหรือรับส่งผู้โดยสาร ในงาน CES 2020 ครั้งนี้ โบช ได้นำเทคโนโลยี IoT สำหรับรถโดยสารมาแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะด้านโซลูชันที่ โบช สามารถตอบสนองแก่ค่ายรถต่างๆ ได้ รวมทั้งสามารถให้บริการระบบการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ระบบขับขี่อัตโนมัติ ระบบเชื่อมต่อ และการปรับแต่งรถโดยสารให้เข้ากับความต้องการ ซึ่งยกระดับไปไกลกว่าอุปกรณ์ชิ้นส่วนที่รวมกันเป็นตัวรถ แต่ให้ได้ครอบคลุมถึงบริการการขับเคลื่อนที่มีระบบเชื่อมต่อกัน ให้ความยืดหยุ่นแก่ผู้ใช้ เพราะสามารถปรับให้เข้ากับการใช้งาน การจัดการ การชาร์จพลังงาน และบำรุงรักษา รวมทั้งช่วยให้การเดินทางแต่ละครั้งปลอดภัย
การขับเคลื่อนแห่งอนาคต: โซลูชัน และบริการเด่น
กล้องหน้าอัจฉริยะ: เข้าใจโลกของคอมพิวเตอร์และ AI (AI inside): ตัวกล้องทำหน้าที่ตรวจจับวัตถุ และจำแนกเป็นกลุ่มๆ เช่น กลุ่มรถยนต์ คนเดินเท้า หรือ จักรยาน พร้อมทั้งวัดค่าการเคลื่อนไหวเหล่านั้นด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถแปลสิ่งที่เห็นและแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นช่องทางวิ่ง ไหล่ทางที่มีหญ้า หรือสิ่งก่อสร้างข้างถนน แม้จะไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ บนถนน หากอยู่ในเมืองที่มีรถติด กล้องก็สามารถจับภาพและแยกแยะสิ่งที่เห็นชัดบางส่วนหรือวิ่งตัดหน้า ไม่ว่าจะรถยนต์ คนเดินเท้า หรือคนขี่จักรยาน ได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ ช่วยให้รถยนต์ส่งสัญญาณเตือน หรือเบรคฉุกเฉินได้ ระบบกล้องอัจฉริยะทำงานด้วยความเชี่ยวชาญของ โบช ที่รวมกันอยู่ในชิพหนึ่งตัว เรียกว่า V3H ผลิตโดยบริษัท Renesas จากญี่ปุ่น เทคโนโลยีนี้ ยังช่วยพัฒนาการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ และต่อยอดการนำไปใช้ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่น สามารถนำไปเสริมประสิทธิภาพของระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้รถไปชนสัตว์ต่างๆ ได้
เรดาร์เซนเซอร์–เซนเซอร์รอบด้านเพื่อรับมือกับสถานการณ์การขับขี่ที่ซับซ้อน: เรดาร์เซนเซอร์รุ่นล่าสุดของ โบช มีประสิทธิภาพตรวจจับสิ่งต่างๆ ที่แวดล้อมรถยนต์ได้ดีขึ้น ซึ่งรวมทั้งสภาพอากาศที่ย่ำแย่และแสงที่ไม่เอื้ออำนวย เซนเซอร์ใหม่สามารถตรวจจับในระยะที่ไกลขึ้น รูรับแสงกว้างขึ้น และมีความละเอียดเชิงมุมมากขึ้น ส่งผลให้ระบบเบรคอัตโนมัติมีปฏิกิริยาตอบสนองที่เชื่อมั่นได้มากขึ้น
ระบบบริการที่จอดรถอัตโนมัติอย่างครบวงจร: ผลงานความร่วมมือระหว่าง โบช และเดมเลอร์ (Daimler) ตามมาตรฐานสมาคมวิศวกรรมยานยนต์ (SAE) ระดับ 4 ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นรายแรกในเยอรมนี โดยตัวเซนเซอร์ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของที่จอดรถและเทคโนโลยีการสื่อสารที่ใช้นั้นมาจาก โบช ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปี 2021 จะมีที่จอดรถ 12 แห่งที่ติดตั้งระบบบริการที่จอดรถอัตโนมัติ ปัจจุบัน บ๊อชทำงานร่วมกับผู้ให้บริการที่จอดรถ และผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายสำคัญ
คอมพิวเตอร์ในรถยนต์–สถาปัตยกรรมอีเลคทรอนิคส์ในยุคถัดไป: กุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่อนาคตแห่งระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งเชื่อมต่อกันและทำงานโดยอัตโนมัติ ก็คือสถาปัตยกรรมระบบอีเลคทรอนิคส์ การมีระบบควบคุมรถยนต์แบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่เพียงทำให้ยานยนต์มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต แต่การที่จำนวนกล่อง ECU ก็ลดลงด้วยนั้น ทำให้น้ำหนักของยานยนต์ลดลง และทำให้การทำงานของอุปกรณ์ชิ้นส่วนประสานกับระบบต่างๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ระบบคอมพิวเตอร์ในรถยนต์ของ โบช จะมีพลังการประมวลผลเพิ่มขึ้นได้ถึง 1,000 เท่าในช่วงต้นทศวรรษหน้า โดย โบช ได้เริ่มสร้างคอมพิวเตอร์ลักษณะนี้ขึ้นมาแล้ว เพื่อรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ ระบบส่งกำลังรถยนต์ และการผนวกระบบอินโฟเทนเมนท์เข้ากับฟังค์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่
คีย์เลสอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการใช้สมาร์ทโฟนเป็นกุญแจรถ: ในอนาคต ระบบคีย์เลสสมบูรณ์แบบจะทำได้ โดยอาศัยบลูทูธสื่อสารระหว่างรถยนต์และสมาร์ทโฟน รวมทั้งใช้เทคโนโลยีสื่อสารใหม่บนสัญญาณ UWB (Ultra-Wideband) ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนบางรุ่นแล้ว สัญญาณ UWB จะทำให้สมาร์ทโฟนปรับค่าให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใกล้ๆ ในระยะ 2-3 เซนติเมตร ช่วยให้การสื่อสารกับรถยนต์มีความปลอดภัยมากขึ้นเป็นพิเศษ ปัจจุบัน โบช ทำงานร่วมกับพันธมิตรในการวางมาตรฐานการโอนถ่ายข้อมูลระหว่างสมาร์ทโฟนและรถยนต์ ในงาน CES 2020 ครั้งนี้ โบช จะนำเสนอรถยนต์สาธิตที่ใช้ระบบคีย์เลสสมบูรณ์แบบผ่านทางสัญญาณ UWB เป็นครั้งแรก
ระบบเซลล์เชื้อเพลิง–การขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าสำหรับการเดินทางไกลๆ: เซลล์เชื้อเพลิงเคลื่อนที่ ที่สามารถพกพาไปไหนต่อไหนได้ ทำให้มีพลังงานใช้ได้ยาวนานขึ้น พร้อมกับใช้เวลาเติมเชื้อเพลิงน้อยลง อีกทั้งผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานหมุนเวียน ช่วยให้การใช้รถขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าไม่ก่อให้เกิดแกสเรือนกระจก ปัจจุบัน โบช ร่วมกับบริษัทสัญชาติสวีเดนชื่อ Powercell พัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงในเชิงพาณิชย์ นอกจากมีหน่วยเซลล์เชื้อเพลิงที่แปลงไฮโดรเจนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าได้แล้ว โบช ยังพัฒนาองค์ประกอบที่จำเป็นต่อระบบโดยรวมขึ้นมา เพื่อให้พร้อมก้าวสู่ขั้นตอนการผลิต
ระบบช่วงล่าง (Rolling chassis)–พแลทฟอร์มของระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า: ระบบส่งกำลังด้วยไฟฟ้า ระบบบังคับเลี้ยว และเบรค ต่างเป็นองค์ประกอบของระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าที่ โบช สร้างขึ้นมารองรับ โดยได้พัฒนาร่วมกับบริษัท Benteler ที่มีความเชี่ยวชาญด้านแชสซีส์ และเทคโนโลยียานยนต์ และบริษัทได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ผลิตภัณฑ์ของ โบช ทั้งหมดที่มีสำหรับยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะสามารถนำไปใช้ร่วมกันได้ ระบบช่วงล่างก็เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยให้ โบช ปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ได้
E-axle–เทคโนโลยี SiC สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง: โบช ได้นำเสนอชุดขับเคลื่อนสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ e-axle ที่ใช้โซลูชันเทคโนโลยีใหม่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพ และกำลังไฟฟ้าที่อัดแน่นในระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ชุดส่งกำลังรุ่นใหม่นี้ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพของระบบที่ดีขึ้นได้ถึง 96 เปอร์เซนต์ ทำให้รถเดินทางได้นานขึ้น 6 เปอร์เซนต์ จากรอบการทดสอบตามมาตรฐาน WLTP ด้วยกำลังไฟฟ้า 3 กิโลวัตต์/กิโลกรัม ทำให้ชุดขับเคลื่อนนี้มีกำลังไฟที่หนาแน่นกว่า e-axle รุ่นเดิมถึง 50 เปอร์เซนต์ พัฒนาการเหล่านี้เป็นผลมาจากวิทยาการเชิงวิศวกรรมของซิลิคอนคาร์ไบด์ เซมิคอนดัคเตอร์ในระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า รวมทั้งการจัดวางอุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้า อีเลคทรอนิคส์กำลัง และระบบส่งกำลัง ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก
ระบบ Connected biking–โซลูชันที่ให้ประสบการณ์การขี่ 2 ล้อแบบ 2.0:
สมองกลคอมพิวเตอร์ Kiox ที่ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่อง ช่วยให้ผู้ขี่เห็นข้อมูลการฝึกซ้อม เช่น ความเร็ว จังหวะการเต้นของหัวใจ และสมรรถนะของตนเองได้ตลอดเส้นทาง เมื่อกิจกรรมสิ้นสุดลง ก็สามารถประเมินข้อมูลในแอพพลิเคชัน eBike Connect บนสมาร์ทโฟนหรือทางพอร์ทัลออนไลน์ได้ นอกจากนี้ Kiox ยังเพิ่มฟังค์ชันระดับพรีเมียมให้ด้วย เช่น ฟังค์ชัน Lock ที่ช่วยป้องกันการขโมยข้อมูลดิจิทอล ขณะเดียวกัน SmartphoneHub ก็ช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินไปกับโลกแห่งการเชื่อมต่อในขณะที่ขี่จักรยานอยู่ได้ด้วยแอพพลิเคชัน COBI.Bike ซึ่งมีฟีเจอร์มากมายหลายฟังค์ชัน ทั้งการนำทางและติดตามการออกกำลังกาย ไปจนถึงการเชื่อมต่อกับบริการหรือแอพฯ ภายนอก เช่น Apple Health, Google Fit และ komoot
ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ให้ความปลอดภัยและสะดวกสบาย ไม่ว่าบนท้องถนนหรือที่บ้าน
ระบบ Home Connect–พแลทฟอร์มขยายที่รองรับได้สำหรับทุกคน: โบช กำลังขยายขอบเขตการให้บริการ IoT ในที่พักอาศัย โดย Home Connect เป็นพแลทฟอร์ม IoT แบบเปิดที่เชื่อมต่อทุกอย่างให้เข้ากับอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านได้ ทั้งที่เป็นของ โบช หรือของบแรนด์อื่นๆ ปัจจุบัน มีพันธมิตรร่วมให้บริการประมาณ 40 ราย และจะขยายจากห้องครัวไปยังส่วนอื่นๆ ในบ้าน ในช่วงกลางปี 2020 ระบบ Home Connect จะเริ่มให้บริการการควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ระบบแสง ระบบทำความร้อน ระบบรักษาความปลอดภัย และความบันเทิงต่างๆ จากหลากหลายผู้ผลิต และจะมีกิจการพันธมิตรมาร่วมให้บริการมากขึ้นเป็นทวีคูณ ยิ่งเพิ่มความสะดวกสบายและยกระดับประสิทธิภาพของการใช้ชีวิตในบ้านให้มากขึ้นไปอีก
Application Store–ทุกอย่างมีครบจบในที่เดียว: ระบบเชื่อมต่อ IoT คือ หัวใจสำคัญ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัย ขณะนี้ บริษัทในเครือของ โบช คือ Security and Safety Things ได้พัฒนาพแลทฟอร์มไอทีของตนเองขึ้นมา เพื่อเชื่อมต่อให้อุปกรณ์ ซอฟท์แวร์ และข้อมูลในวีดีโอและแอพพลิเคชันการรักษาความปลอดภัยในอาคารและสำนักงานต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด จึงไม่ต้องเสียเวลาทดสอบว่าแอพพลิเคชันใดจะทำงานเข้ากับระบบที่ต้องการได้หรือไม่ ซึ่งจะเห็นได้จากแอพพลิเคชันตัวอย่างที่แสดงในส่วน “Connected living and mobility” ที่งาน CES 2020
Spexor ให้คุณรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจได้ทุกที่ทุกเวลา: อุปกรณ์เตือนพกพาที่เป็นเพื่อนคู่ใจไปได้ทุกที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ในรถยนต์ รถบ้าน หรือโกดังเก็บของ Spexor จะคอยสอดส่องและรายงานให้ทราบทันทีที่มีการบุกรุก อุปกรณ์ชิ้นนี้มีตัวเซนเซอร์ตรวจจับเสียง การเคลื่อนไหว แรงดันอากาศ รวมทั้งตัวรับสัญญาณ GPS เมื่ออุปกรณ์ตรวจจับได้ว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในบริเวณ จะส่งสัญญาณเตือนเข้ามาที่สมาร์ทโฟนของผู้ใช้ ผ่าน Wi-Fi หรือระบบ LPWA ตามมาตรฐานเทคโนโลยี IoT แบบไร้สาย
เรื่องโดย : ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/310184
BMW
ผู้ผลิตยานยนต์
บมจ.ยนตรกิจบาวาเรีย หรือ BMW เป็นบริษัทผลิตยานยนต์ของประเทศเยอรมนี บริษัทก่อตั้งในปีค.ศ. 1916 เมื่อแรกก่อตั้งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์อากาศยานสำหรับสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
Gallery (10)
Promotions
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.
รุ่นรถเพิ่มเติม
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.
VDO
Lorem ipsum dolor sit amet, consetetur sadipscing elitr, sed diam nonumy eirmod tempor invidunt ut labore et dolore magna aliquyam erat, sed diam voluptua. At vero eos et accusam et justo duo dolores et ea.