จากกระแสหนังดัง “ฮาวทูทิ้ง...ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ” ทำให้เรานึกถึงรถ ซึ่งก็มีสิ่งของที่ต้องทิ้งตามวาระเช่นกัน แถมของเหล่านั้น ถ้าทิ้งไม่ดี อาจสร้างปัญหาให้สิ่งแวดล้อมอีกด้วย ฉะนั้น มาลองดูว่า เราควรจะทิ้งของเหลือจากรถอย่างไรของเหลว ระบบของเหลวในรถ เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรค น้ำมันเกียร์ น้ำยาหม้อน้ำ น้ำมันเพาเวอร์ มีระยะเวลาในการเปลี่ยนถ่ายที่ค่อนข้างแน่นอน เพื่อให้ระบบต่างๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ฮาวทูทิ้ง: การทิ้งของเหลวใช้แล้วจากรถ ลงท่อน้ำ แหล่งน้ำสาธารณะ หรือเทลงดิน จะทำลายระบบนิเวศ ดังนั้น จึงต้องจัดหาภาชนะที่เหมาะสมมารองรับไปกำจัดอย่างถูกวิธี เช่น น้ำมันเครื่องใช้แล้วอาจนำไป รีไซเคิล เพื่อกลับมาใช้ใหม่ในงานหล่อลื่นเครื่องจักร หรืองานอุตสาหกรรมที่ต้องการคุณภาพการหล่อลื่นไม่สูงนัก รวมถึงนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรม ถ้าไม่รู้จะไปทิ้งที่ไหน ลองหาสถานีบริการน้ำมันดู เพราะบางแห่งเขารับทิ้งของเหลวเหล่านี้ เพื่อรวบรวมนำไปกำจัด หรือรีไซเคิล แบทเตอรี แบทเตอรีซึ่งทำหน้าที่จ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ และหล่อเลี้ยงอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในรถยนต์เพื่อให้ทำงานได้ มีอายุใช้งานประมาณ 2–3 ปี หลังจากนั้นจะเสื่อมประสิทธิภาพลง จนต้องเปลี่ยนใหม่ ฮาวทูทิ้ง: แบทเตอรีรถยนต์หมดสภาพ สามารถเทิร์นกับร้านแบทเตอรี หรือนำไปขายให้ร้านรับซื้อของเก่า (ราคาประมาณ 200 บาท) เนื่องจากส่วนประกอบของแบทเตอรีเป็นวัสดุที่มีค่า เช่น ตะกั่ว สามารถนำไปหลอมใหม่เป็นตะกั่วแท่ง เพื่อใช้ประโยชน์ในลักษณะอื่นได้ ยางรถยนต์ ยางรถยนต์จะเสื่อมสภาพไปตามระยะทาง หรือระยะเวลาใช้งาน โดยทั่วไปกำหนดเปลี่ยนที่ประมาณ 50,000 กม. หรืออายุใช้งาน 3 ปี ฮาวทูทิ้ง: ยางรถยนต์เก่า สามารถสร้างสรรค์ให้กลายเป็นของใช้สารพัดประโยชน์ได้ เช่น โต๊ะรับแขก ชิงช้า โซฟา กระถางปลูกต้นไม้ รั้วประดับสวน หรือรั้วกันกระแทก รวมถึงนำไปย่อยสลายด้วยความร้อน เพื่อสกัดแปรรูปเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้เป็นพลังงานทดแทน ล้อเหล็ก/ล้อแมก ล้อเหล็กที่ผู้ใช้รถมักเปลี่ยนเป็นล้อแมก หรือถ้าไม่เปลี่ยน ก็ใช้จนชำรุด รวมถึงล้อแมกที่หมดสภาพ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของเหลือที่ต้องถูกทิ้ง ฮาวทูทิ้ง: ล้อเหล็กหรือล้อแมกเก่า สามารถนำไปหลอมเหลวแล้วอัดขึ้นรูปใหม่เป็นอุปกรณ์ต่างๆ ได้ เช่น กระทะ เก้าอี้ ของแต่งบ้าน หรืออุปกรณ์ที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน ชิ้นส่วน/อุปกรณ์ ชิ้นส่วน และอุปกรณ์ส่วนต่างๆ ในรถยนต์ทั้งภายใน ภายนอก รวมถึงช่วงล่าง และเครื่องยนต์ เมื่อใช้งานไปนานๆ ย่อมสึกหรอ หรือเสื่อมสภาพต้องเปลี่ยนใหม่ เช่น ชอคอับ กันชน และชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติค ฯลฯ ฮาวทูทิ้ง: อุปกรณ์รถยนต์เก่า แยกเป็นชิ้นส่วนเบา และชิ้นส่วนหนัก โดยชิ้นส่วนเบา เช่น กันชน กระจก และชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติค สามารถตัดเป็นชิ้นเล็กๆ นำเข้าเตาเผาเป็นเชื้อเพลิงให้พลังงานความร้อนในโรงปูนซีเมนต์ หรือโรงผลิตไฟฟ้า ขณะที่ชิ้นส่วนหนัก ทำจากเหล็ก และโลหะต่างๆ สามารถหลอม เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ หรือประดิษฐ์สร้างสรรค์ เป็นเครื่องใช้ ของประดับ ฯลฯ หัวเทียน เมื่อใช้ไปสักระยะ เขี้ยวของหัวเทียนจะสึกกร่อน ทำให้รถสตาร์ทติดยาก เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกให้ต้องเปลี่ยน ฮาวทูทิ้ง: หัวเทียนสามารถนำไปหลอมเป็นเหล็กบริสุทธิ์ เพื่อนำกลับมาใช้งานในลักษณะต่างๆ ได้ หรือทิ้งอย่างสร้างสรรค์ด้วยการรีไซเคิลเป็นสิ่งประดิษฐ์สุดเจ๋งก็สามารถทำได้ แบทเตอรีรถไฟฟ้า ยุคนี้คนใช้ “รถยนต์ไฟฟ้า” กันมากขึ้น ทำให้อีกไม่นานจะเริ่มมีแบทเตอรีรถไฟฟ้าหมดอายุ กลายเป็นขยะพิษ ทำลายสภาพแวดล้อม ฮาวทูทิ้ง: แบทเตอรีรถไฟฟ้าประเภทลิเธียม-ไอออน สามารถซ่อมแซมรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แต่สำหรับแบทเตอรีที่รีไซเคิลไม่ได้ ต้องไม่ทิ้งปะปนกับขยะทั่วไป รวมทั้งไม่นำไปเผา ฝังดิน หรือทิ้งในแหล่งน้ำซึ่งเรื่องนี้ผู้ผลิต และผู้นำเข้าแบทเตอรี และรถไฟฟ้า รวมถึงภาครัฐ ต้องร่วมกันหามาตรการกำจัดแบบครบวงจรอย่างจริงจังเพื่อป้องกันปัญหาขยะพิษล้นประเทศ