ทดลองขับ(formula)
Honda BR-V พาลุยกิจกรรม Honda Life Crossover ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กับครอสส์โอเวอร์อเนกประสงค์
ปัจจุบันการใช้งานรถยนต์ของผู้คนในปัจจุบันมีความหลากหลายยิ่งขึ้น การรองรับรูปแบบการใช้งานดังกล่าวต้องอาศัยรถยนต์ที่มีความอเนกประสงค์ ทั้งในแง่ของการโดยสาร และการบรรทุกสัมภาระ รวมถึงความสะดวกสบาย และพื้นที่ใช้สอยมากเพียงพอ นับเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่รถยนต์ครอสส์โอเวอร์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ กิจกรรม Honda Life Crossover ในครั้งนี้จะพาเราเดินทางไกล ภายใต้ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย กับครอสส์โอเวอร์ Honda BR-V มาติดตามไปด้วยกัน
ทริพเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่ร้าน Farm Mu บริเวณซอยลาซาล โดยมีขบวนของ Honda BR-V จอดรออยู่หลายคัน ครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้เพิ่งได้รับการปรับโฉมไปไม่นาน สังเกตเห็นได้จากส่วนหน้าที่มีสันเหลี่ยมบนกันชนหน้าที่ดูบึกบึนขึ้น รวมถึงกันชนท้ายที่มีการปรับรูปทรงเล็กน้อยเช่นกัน โดยรุ่นที่ใช้ คือ ตัวทอพ SV ติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟตัดหมอก เสาวิทยุแบบครีบฉลาม ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว รูปทรงโดยรวมให้ความรู้สึกแข็งแกร่งราวกับเอสยูวี แต่มีระยะฐานล้อที่ยาวคล้ายกับรถยนต์สไตล์เอมพีวี
จุดเด่นของ BR-V รุ่น SV คือ การติดตั้งเบาะนั่ง 3 แถว จำนวน 7 ตำแหน่ง มีความอเนกประสงค์ในแง่ของการโดยสาร และการบรรทุกสัมภาระ (เบาะแถว 3 สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ) นอกจากความกว้างขวางแล้ว รถรุ่นนี้ยังมีการตกแต่งที่ลงตัว ในรุ่น SV จะใช้โทนสีดำ/แดง แฝงอารมณ์สปอร์ท พวงมาลัยหุ้มหนัง เดินด้ายสีแดงสด เช่นเดียวกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ผสมหนังสังเคราะห์ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับการเชื่อมต่อมือถือระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
เมื่อเราเปิดประตูบานท้ายของตัวรถ พบว่ามีสัมภาระบรรจุอยู่เต็ม แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เก็บสัมภาระของรถรุ่นนี้มีให้อย่างเหลือเฟือ ยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 3 คน ในเบาะ 2 แถวแรก พร้อมสัมภาระส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง แต่สัมภาระที่ถูกบรรจุมาพร้อม BR-V จะถูกใช้งานอย่างไร เราจะมาเฉลยในส่วนถัดไป
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นโดยมีจุดหมายแรก คือ ร้านอาหาร La Glace Desserts & Eatery (สาขา อ.มวกเหล็ก) บริเวณ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ระหว่างใช้เส้นทางบนถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ต่อเนื่องถึงถนนมิตรภาพ ตัวรถสามารถขับขี่ได้สะดวกสบาย การเร่งแซง และไต่ความเร็วทำได้อย่างไหลลื่น ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน ใช้งานสำหรับการเดินทางไกลได้สบาย แม้มีสัมภาระบรรทุกมาค่อนข้างมาก ตัวรถไม่อืดแต่อย่างใด ทัศนวิสัยของตัวรถมีความปลอดโปร่ง มองเห็นสภาพแวดล้อมได้ชัด แม้ระหว่างทางจะเจอฝนตกในบางช่วง
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ได้เวลาใช้งานหนึ่งในอรรถประโยชน์ของครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้ โดยสัมภาระที่ถูกบรรทุกมาตั้งแต่ต้นทาง ล้วนเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ เตรียมนำไปมอบให้กับผู้ป่วยที่ โรงพยาบาลปากช่องนานา แน่นอนว่า จำนวนสิ่งของที่บรรทุกควรมีมากพอกับจำนวนผู้ป่วยที่โรงพยาบาล พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เหลือเฟือจึงมีประโยชน์มากๆ ซึ่งครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้สามารถตอบสนองการใช้งานลักษณะดังกล่าวได้ดีมาก เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการบำเพ็ญประโยชน์ในครั้งนี้
จุดหมายถัดมา คือ การเดินทางไปร้าน Tara Cafe ร้านอาหารที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้ง ติดกับลำธารธรรมชาติ และน้ำตก การเดินทางต้องลัดเลาะผ่านถนน 2 เลน เราพบว่า Honda BR-V มีความคล่องแคล่ว ควบคุมง่าย ขับขี่ได้สะดวกไม่แพ้รถเก๋ง แม้ตัวรถมีขนาดใหญ่ แต่ไม่เทอะทะแต่อย่างใด ตัวถังยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย แล่นผ่านหลุม หรือ เนินบนถนนได้สบาย ระบบรองรับเน้นความนุ่มนวล แต่ตัวรถไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใดขณะลัดเลาะไปตามแนวถนนสู่ร้านอาหาร และแล้วกิจกรรมในวันแรกของเรามาถึงที่พัก นั่นคือ โรงแรม Le Monte ไม่ไกลจากสถานที่จัดกิจกรรมสุดท้ายที่รออยู่ในวันรุ่งขึ้น มีความท้าทายทั้งร่างกาย และจิตใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดังนั้น ในมื้อเย็นที่ร้านอาหาร Prime19 ทุกคนต้องตุนพลังงานกันเต็มที่กับอาหารมื้อค่ำ
เช้าวันถัดมา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวร่วมงานวิ่ง Khaoyai Running In The Rain 2019 กิจกรรมวิ่ง 2 ระยะทาง นั่นคือ 12 กม. และ 5 กม. โดยในปัจจุบันงานวิ่งการกุศลกำลังได้ความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งในตัวเมืองกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการวิ่ง เช่น รองเท้า เสื้อผ้า น้ำดื่ม ฯลฯ การเดินทางด้วยครอสส์โอเวอร์สักคันดูมีความลงตัวไม่น้อย โดยเส้นทางการวิ่งมีการผสมผสานความสมบุกสมบัน นับว่าท้าทายนักแข่งพอสมควร แต่สิ่งที่ได้มา คือ ความร่มรื่น และบรรยากาศแบบธรรมชาติที่หาไม่ได้ในงานวิ่งที่เมืองใหญ่ แม้รองเท้าของผู้ร่วมงานวิ่งจะได้เลอะกันถ้วนหน้า จากพื้นถนนที่มีความชื้นแฉะ แต่ทุกคนยังคงมุ่งมั่นสู่จุดหมายปลายทาง โดยมีเหรียญคล้องคอเป็นรางวัลสำหรับทุกคน
หลังจากเสร็จสิ้นงานวิ่งของ Khaoyai Running In The Rain 2019 เหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้เวลาเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ สู่วิถีชีวิตเดิมๆ ที่คุ้นเคย ก่อนเดินทางกลับได้แวะเติมพลังงานอีกครั้งที่ ร้านลูกไก่ หนึ่งในร้านอาหารที่อยู่ใกล้เส้นทางไป เขาใหญ่ มาช้านาน เป็นการปิดท้ายกิจกรรม 2 วันเต็มๆ ที่มีความหลากหลาย สมชื่อ Honda Life Crossover กับรถยนต์คู่ใจที่ไปด้วยกันตลอดเส้นทาง Honda BR-V รองรับการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีเป้าหมายชัดเจนของผู้ใช้งานยุคนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : Honda BR-V
ทริพเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่ร้าน Farm Mu บริเวณซอยลาซาล โดยมีขบวนของ Honda BR-V จอดรออยู่หลายคัน ครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้เพิ่งได้รับการปรับโฉมไปไม่นาน สังเกตเห็นได้จากส่วนหน้าที่มีสันเหลี่ยมบนกันชนหน้าที่ดูบึกบึนขึ้น รวมถึงกันชนท้ายที่มีการปรับรูปทรงเล็กน้อยเช่นกัน โดยรุ่นที่ใช้ คือ ตัวทอพ SV ติดตั้งไฟส่องสว่างเวลากลางวัน และไฟตัดหมอก เสาวิทยุแบบครีบฉลาม ล้อแมกขนาด 16 นิ้ว รูปทรงโดยรวมให้ความรู้สึกแข็งแกร่งราวกับเอสยูวี แต่มีระยะฐานล้อที่ยาวคล้ายกับรถยนต์สไตล์เอมพีวี
จุดเด่นของ BR-V รุ่น SV คือ การติดตั้งเบาะนั่ง 3 แถว จำนวน 7 ตำแหน่ง มีความอเนกประสงค์ในแง่ของการโดยสาร และการบรรทุกสัมภาระ (เบาะแถว 3 สามารถพับเก็บได้เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระ) นอกจากความกว้างขวางแล้ว รถรุ่นนี้ยังมีการตกแต่งที่ลงตัว ในรุ่น SV จะใช้โทนสีดำ/แดง แฝงอารมณ์สปอร์ท พวงมาลัยหุ้มหนัง เดินด้ายสีแดงสด เช่นเดียวกับเบาะนั่งหุ้มหนัง ผสมหนังสังเคราะห์ ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว พร้อมลำโพง 6 ตัว รองรับการเชื่อมต่อมือถือระบบ Apple CarPlay และ Android Auto
เมื่อเราเปิดประตูบานท้ายของตัวรถ พบว่ามีสัมภาระบรรจุอยู่เต็ม แสดงให้เห็นว่าพื้นที่เก็บสัมภาระของรถรุ่นนี้มีให้อย่างเหลือเฟือ ยังสามารถรองรับผู้โดยสารได้อีก 3 คน ในเบาะ 2 แถวแรก พร้อมสัมภาระส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง แต่สัมภาระที่ถูกบรรจุมาพร้อม BR-V จะถูกใช้งานอย่างไร เราจะมาเฉลยในส่วนถัดไป
การเดินทางเริ่มต้นขึ้นโดยมีจุดหมายแรก คือ ร้านอาหาร La Glace Desserts & Eatery (สาขา อ.มวกเหล็ก) บริเวณ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ระหว่างใช้เส้นทางบนถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ต่อเนื่องถึงถนนมิตรภาพ ตัวรถสามารถขับขี่ได้สะดวกสบาย การเร่งแซง และไต่ความเร็วทำได้อย่างไหลลื่น ภายใต้เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน ใช้งานสำหรับการเดินทางไกลได้สบาย แม้มีสัมภาระบรรทุกมาค่อนข้างมาก ตัวรถไม่อืดแต่อย่างใด ทัศนวิสัยของตัวรถมีความปลอดโปร่ง มองเห็นสภาพแวดล้อมได้ชัด แม้ระหว่างทางจะเจอฝนตกในบางช่วง
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแล้ว ได้เวลาใช้งานหนึ่งในอรรถประโยชน์ของครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้ โดยสัมภาระที่ถูกบรรทุกมาตั้งแต่ต้นทาง ล้วนเป็นสิ่งของเครื่องใช้ที่เป็นประโยชน์ เตรียมนำไปมอบให้กับผู้ป่วยที่ โรงพยาบาลปากช่องนานา แน่นอนว่า จำนวนสิ่งของที่บรรทุกควรมีมากพอกับจำนวนผู้ป่วยที่โรงพยาบาล พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่เหลือเฟือจึงมีประโยชน์มากๆ ซึ่งครอสส์โอเวอร์รุ่นนี้สามารถตอบสนองการใช้งานลักษณะดังกล่าวได้ดีมาก เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญสำหรับการบำเพ็ญประโยชน์ในครั้งนี้
จุดหมายถัดมา คือ การเดินทางไปร้าน Tara Cafe ร้านอาหารที่มีจุดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้ง ติดกับลำธารธรรมชาติ และน้ำตก การเดินทางต้องลัดเลาะผ่านถนน 2 เลน เราพบว่า Honda BR-V มีความคล่องแคล่ว ควบคุมง่าย ขับขี่ได้สะดวกไม่แพ้รถเก๋ง แม้ตัวรถมีขนาดใหญ่ แต่ไม่เทอะทะแต่อย่างใด ตัวถังยกสูงขึ้นมาเล็กน้อย แล่นผ่านหลุม หรือ เนินบนถนนได้สบาย ระบบรองรับเน้นความนุ่มนวล แต่ตัวรถไม่มีอาการโคลงแต่อย่างใดขณะลัดเลาะไปตามแนวถนนสู่ร้านอาหาร และแล้วกิจกรรมในวันแรกของเรามาถึงที่พัก นั่นคือ โรงแรม Le Monte ไม่ไกลจากสถานที่จัดกิจกรรมสุดท้ายที่รออยู่ในวันรุ่งขึ้น มีความท้าทายทั้งร่างกาย และจิตใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ดังนั้น ในมื้อเย็นที่ร้านอาหาร Prime19 ทุกคนต้องตุนพลังงานกันเต็มที่กับอาหารมื้อค่ำ
เช้าวันถัดมา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเตรียมตัวร่วมงานวิ่ง Khaoyai Running In The Rain 2019 กิจกรรมวิ่ง 2 ระยะทาง นั่นคือ 12 กม. และ 5 กม. โดยในปัจจุบันงานวิ่งการกุศลกำลังได้ความนิยมอย่างกว้างขวาง ทั้งในตัวเมืองกรุงเทพฯ หรือในต่างจังหวัด โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการวิ่ง เช่น รองเท้า เสื้อผ้า น้ำดื่ม ฯลฯ การเดินทางด้วยครอสส์โอเวอร์สักคันดูมีความลงตัวไม่น้อย โดยเส้นทางการวิ่งมีการผสมผสานความสมบุกสมบัน นับว่าท้าทายนักแข่งพอสมควร แต่สิ่งที่ได้มา คือ ความร่มรื่น และบรรยากาศแบบธรรมชาติที่หาไม่ได้ในงานวิ่งที่เมืองใหญ่ แม้รองเท้าของผู้ร่วมงานวิ่งจะได้เลอะกันถ้วนหน้า จากพื้นถนนที่มีความชื้นแฉะ แต่ทุกคนยังคงมุ่งมั่นสู่จุดหมายปลายทาง โดยมีเหรียญคล้องคอเป็นรางวัลสำหรับทุกคน
หลังจากเสร็จสิ้นงานวิ่งของ Khaoyai Running In The Rain 2019 เหล่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้เวลาเดินทางกลับสู่ กรุงเทพฯ สู่วิถีชีวิตเดิมๆ ที่คุ้นเคย ก่อนเดินทางกลับได้แวะเติมพลังงานอีกครั้งที่ ร้านลูกไก่ หนึ่งในร้านอาหารที่อยู่ใกล้เส้นทางไป เขาใหญ่ มาช้านาน เป็นการปิดท้ายกิจกรรม 2 วันเต็มๆ ที่มีความหลากหลาย สมชื่อ Honda Life Crossover กับรถยนต์คู่ใจที่ไปด้วยกันตลอดเส้นทาง Honda BR-V รองรับการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ไม่หยุดนิ่ง และมีเป้าหมายชัดเจนของผู้ใช้งานยุคนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม : Honda BR-V ABOUT THE AUTHOR
ภูเขม หน่อสวรรค์
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(formula)
