Huracan EVO เหนือกว่า Lamborghini Huracan Coupe

Lamborghini Huracan EVO 2019 ใหม่ พัฒนามาจาก Lamborghini Huracan Coupe ซึ่งการปรับปรุงโฟคัสที่สมรรถนะเป็นหลัก ลักษณะของอากาศพลศาสตร์ และการควบคุมในขณะขับขี่

ช่องดักอากาศด้านหน้าใหม่ รวมถึงด้านท้ายวางตำแหน่งท่อไอเสียไว้สูงขึ้น เหนือครีบดิฟฟิวเซอร์ มิติตัวรถ ยาว 4,520 มม. กว้าง 1,933 มม. (รวมกระจกมองข้าง 2,236 มม.) และสูงเพียง 1,165 มม. ฐานล้อยาว 2,620 มม.

มีสีใหม่ให้เลือก คือ สีส้ม Arancio Xanto และล้อลาย Y-Spoke ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว

ส่วนภายในห้องโดยสาร Lamborghini Huracan EVO 2019 ใหม่ โดยรวมยังคงเหมือน Lamborghini Huracan Coupe แต่ทันสมัยกว่า ด้วยแผงควบคุมแบบ Multi-Touch บนหน้าจอดิจิทอล (human-machine interface หรือ HMI) ขนาด 8.4 นิ้ว บนคอนโซลกลางแทนของเดิมที่เป็นปุ่มกด รวมถึงเพิ่มจุดให้เลือกตกแต่งด้วย Carbon บนแผงหน้าปัดส่วนบน แผงประตู แผงข้างคอนโซลกลางยาวตลอดแนว ซึ่งลดน้ำหนักไปได้อีก 28 %

เมื่อเทียบแรงม้าต่อน้ำหนักแล้ว ม้า 1 ตัว ของ Lamborghini Huracan EVO 2019 แบกน้ำหนักเพียง 2.22 กก./แรงม้า ขณะที่ Lamborghini Huracan Coupe เดิมต้องแบก 2.33 กก./แรงม้า ส่งผลให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.9 วินาที 0-200 กม./ชม. ในเวลาเพียง 9.0 วินาที ส่วนความเร็วตีนปลายเกิน 325 กม./ชม. และสามารถหยุดนิ่งสนิทจาก 100-0 กม./ชม. โดยใช้ระยะเบรคเพียง 31.9 ม.

Huracan EVO 2019 เป็น Lamborghini รุ่นแรกที่ติดตั้งระบบควบคุมพลวัตรของแชสซีส์ (Vehicle Dynamics Control) ประมวลผลด้วยอีเลคทรอนิค ที่มีชื่อว่า Lamborghini Integrated Vehicle Dynamics (LDVI) สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ จากการทำงานในหลายๆ ส่วน ตั้งแต่ ตัวจับอาการแชสซีส์, การหมุนพวงมาลัย และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งสามารถกระจายแรงบิดระหว่างเพลาหน้า/หลัง ได้ตามสถานการณ์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพื่อดึงสมรรถนะออกมาได้อย่างเต็มที่ และระบบจะแสดงการทำงานผ่านหน้าจอ HMI ที่คอนโซลกลางให้ผู้ขับขี่รับรู้ด้วย

ทั้งนี้ Lamborghini Huracan EVO 2019 ใหม่ จะเริ่มส่งมอบถึงมือลูกค้ารายแรกในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยราคาจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการตั้งไว้ที่  24.5 ล้านบาท