ทดลองขับ
Suzuki Ertiga เอมพีวี 7 ที่นั่ง ราคาประหยัด
บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ Suzuki Ertiga ใหม่ ปี 2019 เอมพีวี 7 ที่นั่ง ราคาประหยัด เจเนอเรชันที่ 2 ที่ปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เบนซินใหม่ใหญ่กว่าเดิม จากขนาด 1.4 ลิตร 92 แรงม้า เป็น 1.5 ลิตร 105 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ โครงสร้างตัวถังและชิ้นส่วนใหม่ ทำให้น้ำหนักตัวลดลงมา โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ GL กับ GX ซึ่งในครั้งนี้เราได้รับเชิญให้ไปทดลองขับ Suzuki Ertiga ใหม่ ที่จังหวัดเชียงราย ในสภาพการใช้งานจริงจากริมแม่น้ำกก ตัวเมืองเชียงราย ไร่ชาฉุยฟง สามเหลี่ยมทองคำ สนามบินแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย รวมระยะทางกว่า 160 กม.
Suzuki Ertiga ใหม่ มีมิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,395/1,735/1,690 มม. ยาวกว่ารุ่นเดิม ถึง 130 มม. และกว้าง/สูงขึ้น 40/5 มม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Mitsubishi Xpander แล้วพบว่ามีตัวเลขน้อยกว่า 80/15/10 มม. และมีใต้ท้องรถต่ำกว่า 25 มม. ทำให้ Ertiga มีตัวรถที่หนากว่า (15 มม.) ช่วงล้อหน้า/หลังกว้างกว่าเดิม 30 มม. ระยะฐานล้อ 2,740 มม. เท่าเดิม ในรุ่น GX มีน้ำหนักตัวรถ 1,135 กก. น้อยกว่าเจเนอเรชันแรกถึง 60 กก.
ทีมวิศวกร Suzuki ออกแบบตัวรถ Suzuki Ertiga ใหม่ ตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวด้านข้างตัวรถ ให้ความรู้สึกทันสมัย
กระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าพโรเจคเตอร์ดูดุดันเข้ากับเส้นสายการออกแบบด้านหน้า มองไปแล้วคล้ายกับเอมพีวีรุ่นใหญ่ Kia Grand Carnival รุ่นใหม่ ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
สะดุดตาด้วยไฟท้าย LED และเส้นสายด้านข้าง (เส้นคู่) ส่วนล้อทั้ง 2 รุ่น ใช้ล้ออลูมิเนียมอัลลอยลายเดียวกัน ขนาด 15 นิ้ว กับยางขนาด 185/65 R15 เท่ากับรุ่นแรก แต่เปลี่ยนมาใช้ Dunlop Enasave EC300+ ซึ่งเป็นยางแนวประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ ในรุ่น GX เสริมด้วยไฟตัดหมอกทรงกลม ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง (พับด้วยไฟฟ้า) และมือจับโครเมียม รวมทั้งเส้นนำแสง LED ในชุดไฟท้าย เพิ่มความหรูและดูแตกต่างไปจากรุ่น GL
ภายในดูเรียบหรู ด้วยวัสดุมีคุณภาพและเส้นสายการออกแบบตกแต่ง พื้นที่ภายในห้องโดยสารขนาด 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่กว้างขวาง โปร่งสบาย สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่
พวงมาลัยแบบสปอร์ทรูปตัวดี (D-Shape) เพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น พร้อมฟังค์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วยบลูทูธ เพิ่มเติมความหรูด้วยปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และใส่ลายไม้สีเข้มที่คอนโซลหน้า แผงข้างประตูหน้า พร้อมที่วางแก้วน้ำแบบรักษาอุณหภูมิ (มีช่องลมเย็นจากแอร์) 2 ตำแหน่ง ใต้คอนโซล และปุ่มสตาร์ท/ดับเครื่องยนต์ (Push Start) ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Keyless Entry) แค่พกกุญแจรีโมทไว้กับตัว ในรุ่น GX
เบาะคู่หน้ามีพนักพิง/เบาะนั่งกว้าง นั่งสบาย เบาะนั่งสีดำทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเบาะจะเลอะเหมือนกับสีเบจ (รุ่นเดิม) เบาะนั่งผู้ขับปรับสูง/ต่ำได้ (รุ่น GX)
และเอาใจคนติดโทรศัพท์ด้วยช่องเชื่อมต่อ USB และช่องจ่ายไฟสำรอง 12 โวลท์ ใต้คอนโซลหน้า/ด้านหลังคอนโซลเกียร์ สำหรับคนนั่งหลังอีก 1 จุด
ห้องโดยสารยังเน้นความสะดวกสบายและอเนกประสงค์สไตล์ เอมพีวี เบาะนั่งแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง เบาะแถวที่ 2 แยกพับปรับเอนแบบ 60:40 สามารถขยับเลื่อนหน้า/หลังด้วยการปลดลอคที่พนักพิงเพียงจังหวะเดียว โดยมีระยะเลื่อนเกือบฟุต (240 มม.) คนรูปร่างสูงใหญ่นั่งสบายและเบาะแถวที่ 3 เป็นแบบแยกพับ 50:50 ทำให้สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถจาก 199 ลิตร เป็น 803 ลิตร
กรณีมีผู้ขับกับผู้โดยสารรวม 6 คน ก็พับเบาะหลังซ้ายหรือขวา เพื่อวางสัมภาระ และเก็บอีกด้านไว้นั่ง โดยไม่ต้องไปนั่งเบียดเสียดกันในเบาะแถวที่ 2 และยังมีกล่องเก็บของขนาด 440x170 มม. อีก 2 ชุดใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระท้ายรถไว้ใส่รองเท้า
ระบบปรับอากาศหลังติดตั้งไว้บนเพดานเหนือเบาะคู่หน้า ช่องลมขนาดใหญ่ 4 ช่อง พร้อมสวิทช์ควบคุมแรงลม 3 ระดับ ประกอบกับหลังคาที่สูง ส่งลมเย็นมาถึงผู้โดยสารในเบาะแถวที่ 2 และ 3 ได้สบาย ด้วยพัดลมระดับ 1 เท่านั้น
Suzuki Ertiga ใหม่ ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว รหัส K15B รองรับน้ำมัน อี 20 ตัวใหม่แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น และปรับลดปริมาณไอเสียลงมา ทำให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า เพิ่มขึ้น 13 แรงม้า (92 แรงม้า) ที่ 6,000 รตน. เท่าเดิม แรงบิดสูงสุด 14.1 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. มากกว่าเดิม (13.3 กก.-ม. ที่ 4,000 รตน.) กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะตัวเดิม แต่ปรับช่วงเกียร์ 3 และ 4 ใหม่ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย Suzuki แจ้งตัวเลขเอาไว้ที่ 16.7 กม./ลิตร
จากการทดลองขับ ความเร็ว 100 กม./ชม. ใช้รอบเครื่องยนต์ 2,500 รตน. ความเร็ว 120 กม./ชม. ที่ 3,000 รตน. อยู่ในระดับใกล้เคียงกับคู่แข่งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ส่วนการตอบสนองคันเร่ง เมื่อนั่ง 4 คนพร้อมสัมภาระและกระเป๋าเดินทาง ทำได้ไม่อายใคร ทั้งในช่วงออกตัว และจังหวะเร่งแซง ส่วนความเร็วปลายสามารถพาพวกเราไปได้เกิน 160 กม./ชม.
น้ำหนักตัวที่น้อยลงถึง 60 กก. ลดภาระของช่วงล่าง ด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังทอร์ชันบีม ยังคงความแน่นหนึบ นั่งสบาย ตลอดเส้นทางทดลองขับและทางโค้งในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ส่วนเรื่องเบรคหยุดรถทำได้สบาย โดยมีระบบช่วยเบรคอย่าง เอบีเอส และอีบีดี รวมทั้งระบบช่วยออกตัวบนทางชัน
Suzuki Ertiga ใหม่ น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคนมีครอบครัว และต้องการรถที่สามารถใช้ได้อย่างอเนกประสงค์ ในราคาที่ใกล้เคียงกับคู่แข่งในกลุ่มนี้ อย่าง Honda Mobilio และ Toyota Avanza โดยเริ่มต้นที่รุ่นมาตรฐาน GL ราคา 655,000 บาท และรุ่นทอพ GX ราคา 695,000 บาท
ABOUT THE AUTHOR
thanasan saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
ภาพโดย : SUZUKIคอลัมน์ Online : ทดลองขับ (บก. ออนไลน์)