ธุรกิจ
ชไนเดอร์ อีเลคทริค เปิดตัวบริการใหม่ เพิ่มสมรรถนะการทำงานของ PLC
ชไนเดอร์ อีเลคทริค ผู้นำด้านดิจิทอลทรานส์ฟอร์เมชันในการจัดการพลังงาน และระบบออโทเมชัน เปิดตัวบริการใหม่ ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมการผลิตมีความทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการอัพเกรดปรับปรุงและเพิ่มสมรรถนะในตัวอุปกรณ์ระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือ PLC (Programmable Logic Control) ด้วยวิธีที่ง่าย ปลอดภัย และค่าใช้จ่ายไม่สูง อีกทั้งยังใช้เวลาไม่มากในการอัพเกรดปรับปรุงระบบ โดยใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ผลที่ได้นี้จะช่วยลดการดาวน์ไทม์และการหยุดชะงักในขณะดำเนินงาน วิธีการนี้ทำได้ง่ายๆ โดยการอัพเกรด PLC เดิมไปเป็น Modicon™ M580 ePAC ซึ่งมีพื้นฐานการเชื่อมต่อด้วยอีเตอร์เนท มีหน่วยความจำและระบบประมวลผลที่ยอดเยี่ยม ด้วยเหตุปัจจัยเหล่านี้เอง ทำให้ Modicon M580 ePAC เป็นเพียง PLC รุ่นเดียวที่จะทำให้ท่านคืนกำไรจากลงทุน 100 % ภายในระยะเวลา 3 เดือน
อัพเกรดและทำให้ทันสมัยด้วยการเน้นประสิทธิภาพของเทคโนโลยี
“การอัพเกรด PLC รุ่นเก่าซึ่งล้าสมัยและเลิกผลิตไปแล้วนั้น จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย ประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ช่วยเพิ่มผลกำไรจากระบบการผลิตที่ซับซ้อนของลูกค้า นาธาลี มาร์คอทท์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายบริการอุตสาหกรรม ชไนเดอร์ อีเลคทริค กล่าวไว้ว่า “การอัพเกรด PLC ให้ทันสมัยนั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งยังสามารถคืนทุนและสร้างผลกำไรได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ด้วยความเชี่ยวชาญของ ชไนเดอร์ อีเลคทริค เรามุ่งเน้นและให้คุณค่ากับ IIoT ซึ่งช่วยให้การดำเนินงานอุตสาหกรรมของลูกค้ามีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น การอัพเกรดเป็น Modicon M580 ePAC ซึ่งช่วยให้ระบบการดำเนินการผลิตดีขึ้นนั้น จะทำให้การตัดสินใจในทางธุรกิจดีขึ้นและแม่นยำยิ่งขึ้น วัดได้จากความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยของระบบการผลิตมากขึ้น และมีความยั่งยืน”
การอัพเกรดทำได้ด้วย Unity M580 Application Converter (UMAC) บวกกับ expert configuration utility tool ซึ่งทำให้การอัพเกรดเป็นไปอย่างราบรื่น แม้ระบบการผลิตของลูกค้าจะซับซ้อนเพียงใดก็ตาม ดังนั้น ระบบเก่าซึ่งเขียนด้วยซอฟท์แวร์ Unity ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นพแลทฟอร์ม Quantum หรือ Premium ก็สามารถเปลี่ยนไปเป็น M580 ได้อย่างง่ายดาย แม้แต่การวางแผนเปลี่ยนอินพุท/เอาท์พุทและการต่อสายเข้าไปเป็นของ M580 จากตัว TSX Premium ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย และเสร็จได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง
นวัตกรรมในทุกระดับ เพื่อผลกำไรจากการดำเนินงาน
การดำเนินธุรกิจในปัจจุบันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการผลิต จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่สร้างขึ้น เพื่อการดำเนินงานที่รวดเร็วและเชื่อมต่อมากขึ้น ลูกค้าหลายรายของเราใช้ PLC รุ่นเก่า ทำให้มีต้นทุนของการเป็นเจ้าของ (cost of ownership) สูงขึ้น เกิดช่องโหว่ในการดำเนินงาน ตลอดจนเสี่ยงต่อภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้น” มาร์คอทท์ กล่าวว่า “การเปลี่ยนไปใช้ Modicon M580 ePAC ทำให้ลูกค้าของเราอยู่บนพแลทฟอร์มที่พร้อมรองรับการใช้งานแบบ IIoT ซึ่งสามารถช่วยควบคุมการสร้างกำไรในด้านการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วในแบบเรียลไทม์ โดยไม่กระทบกับธุรกิจ
บริการเหล่านี้เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า เราช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถอัพเกรดไปสู่โซลูชัน IIoT ที่เน้นประสิทธิภาพผ่านโซลูชัน EcoStruxure PlantTM ได้อย่างไร สถาปัตยกรรมและพแลทฟอร์มของเราเป็นระบบเปิด ให้ความสามารถในการทำงานร่วมกันและรองรับการใช้ IoT ช่วยให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ และความสามารถในการทำกำไรให้การดำเนินงานของลูกค้าในแบบเรียลไทม์ โดยช่วยลูกค้าแปลงการลงทุนด้านออโทเมชัน เป็นกลไกในการสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจ
Modicon M580 ePAC ช่วยให้บริษัทผู้ผลิตในอุตสาหกรรม บรรลุผลตอบแทนจากการลงทุนก่อนหน้านี้ได้ดียิ่งขึ้น ให้ผลตอบแทนจากการลงทุนในโครงการต่างๆ 100 % ภายในเวลา 3 เดือน โดยประสิทธิภาพที่ได้รับจาก Modicon M580 ePAC จะช่วยเร่งการดำเนินโครงการ และช่วยให้ควบคุมผลกำไรของโรงงานได้ดีขี้น แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากประโยชน์เรื่องการดำเนินงานแล้ว ยังช่วยในประเด็นต่อไปนี้
- ช่วยลดเวลาการผลิตผลิตภัณฑ์มากถึง 25 %
- ลดกระบวนการใช้พลังงาน 30 %
- ลดความเสี่ยงที่จะเกิดจากการโจมตีทางโลกไซเบอร์
- ช่วยปรับปรุงผลิตผลจากการผลิตในปริมาณมาก ได้มากกว่า 66 ล้านบาท/ปี
- สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโรงงานผลิตขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ได้อย่างน้อย 85 ล้านบาท/ปี
ABOUT THE AUTHOR
ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต