เดือนพฤษภาคม ขณะนี้เป็นวาระครบรอบปีที่ 4 แห่งการยึดอำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าได้ โดยจำเป็นต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อนำทางไปสู่การเลือกตั้งผู้แทนของราษฎร เข้าไปนั่งบริหารราชการแผ่นดินในสภาผู้แทนราษฎร ตามระบอบประชาธิปไตยพร้อมกันกับวาระครบรอบปีที่ 4 ของ คสช. เดือนพฤษภาคมปีนี้เป็นกาลเวลาที่ราษฎรไทยทั้งประเทศ อยู่ในเส้นทาง
Road Map ใกล้ถึงวันเลือกตั้งสมาชิกผู้แทนราษฎร ที่ผู้นำรัฐบาล คือ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
กล่าวว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2562
ห้วงกาลเวลาดังกล่าว ทำให้มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง หรือกลุ่มนักการเมือง โดยเฉพาะการจดทะเบียนเพื่อตั้งพรรคการเมือง
พรรคการเมืองไทยในปัจจุบัน ทั้งเก่าและใหม่ มีด้วยกัน 69 พรรค
พรรคการเมืองที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนเข้าสภาผู้แทนราษฎรหลังสุดในระหว่างปี 2554-2557 ก่อนถูกยึดอำนาจปี 2557 มี 10 พรรคการเมือง คือ พรรคเพื่อไทย (265) พรรคประชาธิปัตย์ (159) พรรคภูมิใจไทย (34) พรรคชาติไทยพัฒนา (19) พรรคชาติพัฒนา (7) พรรคพลังชล (7) พรรครักประเทศไทย (4) พรรคมหาชน (1) พรรครักษ์สันติ (1) และพรรคประชาธิปไตยใหม่ (1)
พร้อมกันกับการเคลื่อนไหวนี้ หน่วยงานสำรวจความคิดเห็นประชาชนก็เริ่มให้ความสนใจ ออกแบบตั้งคำถามราษฎรไทย รวมทั้งถามด้วยว่า ตัดสินใจหรือยัง จะเลือกพรรคไหน ซึ่งน่าจะเป็นคำถามเอก เพราะคำตอบเปอร์เซนต์สูง คือ “เลือกเพื่อไทย”
เพราะเหตุใดคำตอบจึงเป็นเช่นนั้น เราไม่ใช่นักการเมือง ไม่ได้ลงสมัครเลือกตั้ง ทำหน้าที่อย่างเดียว ไปลงคะแนนในคูหา ซึ่งตอนนี้ถ้าจะถาม เราก็ตอบได้ว่า เลือกไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ตัดสินใจ
ปัญหาอื่น ก็คือ มีพรรคการเมืองใดใน 69 พรรค เวลานี้น่าติดตาม นอกจากพรรคใหญ่เดิม 2 พรรค คือ ประชาธิปัตย์ และเพื่อไทย
พรรคการเมืองใดเหมาะสม น่าจะอยู่บนพื้นฐาน “บุคคลผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี” ตามที่พรรคการเมืองนั้นระบุ ซึ่งตามพื้นฐานนี้ ก็คงรวมความหมาย “ลุงตู่” จะเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งหรือไม่
พรรคประชาชนปฏิรูป ของคุณไพบูลย์ นิติตะวัน คงอยู่ในความสนใจของประชาชนพอสมควร เป็นการบ้านที่ไม่ง่ายเท่าไร เช่นเดียวกับพรรคประชาชาติ ของคุณสุรพล นาควานิช ซึ่งน่าติดตามความเคลื่อนไหวอันสับสนของกลุ่มการเมืองภาคใต้
การเมืองไทย คงจะเป็นโจทย์ที่ตอบยากไปอีกนานเท่าไร ไม่มีใครตอบถูก จะเป็นความสำเร็จ หรือความล้มเหลวก็ต้อง Wait and See ถ้ามันยุ่งนัก ก็ต้องร้องออกมาแบบเดียวกับอดีตประธานสภาท่านผู้หนึ่งที่ล่วงลับไปแล้วเคยเปล่งเสียง
“ยุ่งตายห่...” บทความแนะนำ