ธุรกิจ
ฮันนีเวลล์ ตอกย้ำความร่วมมือ พัฒนา "ประเทศไทย 4.0"
ฮันนีเวลล์ ประกาศย้ำแผนการลงทุนและขยายธุรกิจในไทย ที่มุ่งเน้น "พลังแห่งการเชื่อมต่อด้วยระบบอัจฉริยะ (Power of Connected)" สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และรัฐบาลไทย
ในฐานะที่เป็นองค์กรแถวหน้าด้านซอฟท์แวร์อุตสาหกรรม ฮันนีเวลล์ มีความพร้อมช่วยสนับสนุนและส่งเสริม "วิสัยทัศน์ ประเทศไทย 4.0" ของรัฐบาลไทย ซึ่งมุ่งเน้นยกระดับประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทอลที่เน้นการเพิ่มคุณค่าและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความสำเร็จด้านอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและยาวนานของ ฮันนีเวลล์ ทำให้บริษัทมีศักยภาพเฉพาะตัวในการผนวกความสามารถของซอฟท์แวร์เข้ากับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ทำให้เกิดเป็นโซลูชันส์ที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบอัจฉริยะ มากด้วยประสิทธิภาพและประสิทธิผลกว่าที่เคย ทั้งนี้ ราวครึ่งหนึ่งของวิศวกรของ ฮันนีเวลล์ ที่มีอยู่ทั่วโลกถึง 23,000 คน ล้วนเป็นวิศวกรด้านซอฟท์แวร์ ซึ่งบริษัทคาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้ กว่าร้อยละ 60 ของอัตราการเติบโตจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับซอฟท์แวร์
“ประเทศไทยเป็นตลาดเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูง (HGRs) ซึ่งเป็นผลพวงจากการมีภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการเติบโตและเปิดรับด้านนวัตกรรม เราจึงคาดว่าการเติบโตของตลาด HGRs จะมีอัตราสูงกว่าระดับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมไทยในช่วงระยะ 5 ปีข้างหน้า” เชน เทดจาราติ กรรมการผู้จัดการ ฮันนีเวลล์ ดูแลภูมิภาค HGRs กล่าว
“ไม่ว่าลูกค้าของเราจะบริหารโรงงานปิโตรเคมี สายการบิน หรือตึกสูงเสียดฟ้า การปฏิบัติการต่างๆ ล้วนมีข้อมูลเกิดขึ้นมหาศาลที่ยังไม่ได้นำมาทำให้เกิดคุณค่าสำหรับลูกค้า เทคโนโลยีอันล้ำหน้าของเราจะเข้ามาช่วยสกัดเอาคุณค่าที่ซ่อนอยู่ออกมา ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ดีขึ้นด้วยข้อมูล และช่วยยกระดับความปลอดภัย ความมั่นคง ประสิทธิภาพและผลิตภาพในการปฏิบัติการ”
นับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ ฮันนีเวลล์ ได้เติบโตควบคู่กับอุตสาหกรรมไทย มีส่วนช่วยพัฒนาเครือข่ายโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และสนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำได้อย่างแข็งแกร่งในการให้บริการด้านเทคโนโลยีคุณภาพสูงสำหรับอาคารและที่พักอาศัย โซลูชันส์ด้านความปลอดภัยและการเพิ่มผลผลิต เทคโนโลยีวัตถุดิบเพื่อการอุตสาหกรรม รวมทั้งระบบและผลิตภัณฑ์ด้านการบินและอวกาศ รองรับการพัฒนาของไทยที่มุ่งไปสู่สังคมที่ล้ำสมัย ปลอดภัย และยั่งยืนยิ่งขึ้น
“เราเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตอีกมาก เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านประชากรและการพัฒนาที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ ฮันนีเวลล์ และแนวโน้มระดับมหภาคของโลก เช่น การเติบโตอย่างเห็นได้ชัดของชนชั้นกลาง สังคมเมืองที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความต้องการพลังงานที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยและมั่นคง และการก้าวสู่ยุคดิจิทอล ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าล่าสุดส่วนใหญ่มีทิศทางบวก และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยเติบโตร้อยละ 4 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 และคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้” ไม ชาง ทัน กรรมการผู้จัดการ ฮันนีเวลล์ ประจำภูมิภาคอินโดจีน กล่าว “เราตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้มาดำเนินธุรกิจในไทย และจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย”
เมื่อเร็วๆ นี้ ฮันนีเวลล์ ได้สนับสนุนและส่งเสริมโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคของไทย ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยต่างๆ อาทิ :
- เทสโก โลตัส ซึ่งเป็นซูเพอร์มาร์เกทค้าปลีกชั้นนำในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทเทสโก ได้เริ่มปรับเปลี่ยนการใช้สารทำความเย็นใน เทสโก โลตัส เอกซ์พเรสส์ 900 สาขา ไปเป็นสารทำความเย็น Solstice® N40 ของ ฮันนีเวลล์ เพื่อลดการปล่อยแกสคาร์บอนฯ โดยสมัครใจ และมีแผนจะปรับไปใช้สารทำความเย็น Solstice N40 (R-448A) ของ ฮันนีเวลล์ กับทั้ง 1,500 สาขาทั่วประเทศ ภายใน 2 ปี โดยยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกแห่งนี้ได้ตั้งเป้าประหยัดพลังงานให้ได้สูงสุดร้อยละ 10 ซึ่งเทียบเท่ากับการเอารถถึง 67,000 คัน ออกไปจากท้องถนน
- ฮันนีเวลล์ เป็นผู้จัดหาแหล่งพลังงานสำรอง (APUs) ระบบเครื่องยนต์และอีเลคทรอนิคส์การบิน ผลิตภัณฑ์ล้อและเบรค บริการอะไหล่ทดแทน อาทิ การปรับปรุงเครื่องจักรเก่าหรือรีโทรฟิท การปรับและอัพเกรดระบบหรืออุปกรณ์สำหรับสายการบิน ไม่ว่าจะเป็นการบินไทย บางกอกแอร์เวย์ส์ นกสกูต นกแอร์ และสายการบินอื่นๆ รวมทั้งงานของศูนย์ซ่อมบำรุงต่างๆ ในไทย
ABOUT THE AUTHOR
ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)