Deepal S07
ลองขับ e:N1 รถไฟฟ้า 100 % ในร่าง Honda HR-V
Suzuki XL7 Hybrid ใหม่ ราคา 799,000 บาท ลองขับทั้งทางเรียบ/ทางลุย ระบบไฮบริดขนาดเล็ก แต่ลงตัว
New Mitsubishi Pajero Sport เปลี่ยนเครื่อง และเกียร์ใหม่
Lamborghini Urus SE ซูเพอร์เอสยูวี 800 แรงม้า ระบบ PHEV
C 350 e AMG Night Edition ผสานชุด AMG กับ Night Package
Toyota Majesty กลับมาแล้ว
Michelin ครองอันดับ 1 นโยบายสาธารณะ
Reversharger ส่งแคมเปญชาร์จสุดคุ้ม
Volvo จัดแคมเปญเก่าแลกใหม่
Redmi 13C 5G สมาร์ทโฟน 5G รุ่นประหยัดตัวใหม่ หน้าจอ 6.74 นิ้ว
Apple เผยโฉม iPad Pro ใหม่ พร้อมจอภาพล้ำ, ชิพ M4 และ Apple Pencil Pro
INFINIX NOTE 40 Pro+ 5G ชาร์จไว ชาร์จได้หลากหลาย
มาตรฐานวัดระยะทางรถ EV จะเชื่ออันไหนดี !? | X-Ray
ยางรถยนต์บวม ! เกิดจากอะไร..อันตรายไหม? | Need to Know
Crossover SUV พลังไฟฟ้า คว้ารางวัล CAR OF THE YEAR 2024
หลังจากนั้นพักรับประทานอาหารกลางวัน ณ เรือนจรุง อยุธยา โฮมสเตย์แนวคิดสโลว์ไลฟ์ ลิ้มรสชาติอาหารไทยฝีมือชาวบ้าน ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งนา และบรรยากาศที่อบอุ่นเป็นกันเอง บริเวณโดยรอบปลูกผักสวนครัว ทำกรอบรูป เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการใช้ชีวิตในแบบเรียบง่าย
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง วัดหน้าพระเมรุ เยี่ยมชมความงดงามพร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์สมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งที่นี่เป็นเพียงวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่รอดจากการถูกเผาทำลายจากพม่า และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงทำให้วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดที่ยังคงสืบทอดสถาปัตยกรรมแบบอยุธยา ตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้ชมกันจนทุกวันนี้
ไปต่อกันที่วัดสุดท้ายของทริพนี้ วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดและนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมมากที่สุดวัดหนึ่งในอยุธยา มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและสวยงาม อาทิ เจดีย์ชัยมงคล เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยาและเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ, วิหารพระพุทธไสยาสน์ ที่สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระอุโบสถที่สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทอง เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติกรรมฐานรวมทั้งประกอบพิธีกรรมต่างๆ
ตลอดระยะทางรวมกว่า 140 กม. ในทริพนี้ เราก็ได้สัมผัสกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ช่วงล่างหลังใหม่ที่ติดตั้งให้ความนุ่มนวล และเปลี่ยนบทบาทของรถตู้โดยสารคันเดิมเป็นรถอเนกประสงค์ที่ให้ความสบายตลอดการเดินทาง และนี่น่าจะเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ใช้ Hyundai H-1 และ Hyundai Grand Starex ซึ่งสามารถนำรถยนต์เข้ามาเปลี่ยนชุดชอคอับและสปริงหลังใหม่ได้ ในราคา 24,880 บาท (รวมค่าแรงแล้ว) ที่ศูนย์บริการ Hyundai ทั่วประเทศ
นอกจากความนุ่มนวลมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังได้สัมผัสกับสมรรถนะเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.5 ลิตร 175 แรงม้า และวงเลี้ยวแคบเพียง 5.6 ม. ที่ขับง่ายแม้ในที่แคบๆ ตามแหล่งชุมชน และยังใช้กล้อง Smart View System มุมมองแบบ 360 องศา ช่วยให้สะดวกในการถอยจอด ผู้โดยสารยังสามารถพบความบันเทิงได้จากอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบรับความบันเทิงได้เต็มรูปแบบ ทั้งจอภาพ LCD ติดเพดานขนาด 13.3 นิ้ว มาพร้อมระบบพับไฟฟ้า เชื่อมต่อกับเครื่องเล่น DVD จากด้านหน้า (ในรุ่น Hyundai H-1 Deluxe) และสามารถขึ้น-ลงจากรถทั้ง 2 ฝั่งได้อย่างง่ายดาย ด้วยประตูบานเลื่อนแบบไฟฟ้าที่ควบคุมได้ทั้งจากที่นั่งคนขับ หรือจากรีโมทคอนทโรล
บทความแนะนำ
ทริคเอาตัวรอด ! จอดรถในห้างให้ปลอดภัย จากมิจฉาชีพ
6 มารยาทที่ดี ใช้ EV Charger (ในที่สาธารณะ)
ดีเดย์ ! ยกเลิกน้ำมัน "ดีเซล B10" เหลือ B7 และ B20
มีลุ้น ! "ลดค่าทางด่วน" เหลือไม่เกิน 50 บาท เริ่ม สค. นี้
Hyundai จัดแคมเปญฉลองครบรอบ 1 ปี
Hyundai ยิงโปรโมชันแรงใน Motor Expo 2023
Hyundai เปิดศูนย์บริการ H-Space
Follow Motor Expo Club Network