ธุรกิจ
เชฟโรเลต์ ตอกย้ำความสำเร็จ ครองใจแฟนพันธุ์แท้ เชฟวี ทรัค
ไพโรจน์ ร้อยแก้ว เจ้าของตลาดนัดรถไฟ ตลาดยอดนิยมที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนยามค่ำคืน สารภาพว่าเขาตกหลุมรักรถกระบะคลาสสิคของ เชฟโรเลต์ มานานกว่า 15 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นของการสะสมรถคลาสสิคเกิดขึ้นเมื่อเขามีอายุ 19 ปี หลังจากได้ชมภาพยนตร์ในยุคทองของวงการฮอลลีวูด ซึ่งมักมีรถยนต์สวยงามปรากฏบนจอเงินบ่อยครั้ง
“ผมเติบโตขึ้นในประเทศที่การดูหนังอเมริกัน และอ่านนิตยสารตะวันตกเป็นสิ่งที่เท่มาก ถึงแม้ในขณะนั้นผมจะไม่รู้ภาษาอังกฤษมากนักก็ตาม” นั่นอาจเป็นที่มาของความรักที่มีต่อความคลาสสิค ของไพโรจน์ “รถยนต์อเมริกันเท่กว่ารถจากประเทศอื่นมาก ผมชอบมองที่ดีไซจ์นเป็นอันดับแรก และเชฟโรเลต์ ใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าเสมอ”
ความรักของเขาที่มีต่อ เชฟโรเลต์ เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา ช่วงเริ่มต้น ไพโรจน์ซื้อรถอเมริกันและรถยุโรปรุ่นคลาสสิค มาฟื้นฟูและปรับปรุงใหม่ บางครั้งเขาใช้อะไหล่และชิ้นส่วนของญี่ปุ่นเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ปัจจุบันไพโรจน์ เป็นผู้ประกอบการวัย 43 ปี ที่ประสบความสำเร็จจากการบริหารตลาดนัด เขาจึงมุ่งเน้นที่รถ เชฟโรเลต์ และซื้อชิ้นส่วนของแท้นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา
“ตอนนี้ผมมีเฉพาะรถ เชฟวี รุ่นคลาสสิค” ไพโรจน์ เผยคอลเลคชันรถกระบะคลาสสิคของเขามีทั้งหมด 10 คัน โดยคันแรก คือ รถกระบะ เชฟโรเลต์ ซี 10 รุ่นปี 1965 ก่อนที่จะสะสมรถคลาสสิคเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่รุ่นปี 1941-1968 ทุกคันล้วนมีราคาสูงและเป็นที่ต้องการของนักสะสมรถโบราณ
“กระบะ เชฟวี รุ่นปี 1941 คือ รถกระบะที่ผมชื่นชอบมากที่สุด เพราะมีดีไซจ์นสวยงามและคลาสสิคมาก ขณะที่รุ่น อาปาเช 1960 มีสมรรถนะดีที่สุด” รถ เชฟโรเลต์ เป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการออกแบบและจัดองค์ประกอบตลาดนัดรถไฟของเขา รถยนต์รุ่นคลาสสิค หลายคันถูกจัดแสดงที่ตลาดนัดกลางคืนของเขา เพื่อสร้างบรรยากาศให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด
ไพโรจน์ กล่าวด้วยความภาคภูมิใจว่า “ไม่มีตลาดนัดไหนเหมือนกับที่นี่ ผมต้องการให้ผู้คนได้เห็นในสิ่งที่พวกเขาอาจไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมเปิดโอกาสให้พวกเขาได้ถ่ายรูปและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย”
ความสำเร็จทางธุรกิจและความรักในรถยนต์ เชฟโรเลต์ ของไพโรจน์ ทำให้เขาโด่งดังในกลุ่มคนรักรถคลาสสิค ซึ่งทำการซื้อขาย และแลกเปลี่ยนรถคลาสสิคกันภายในกลุ่ม
“ผมเคยติดตามรถยนต์รุ่นหนึ่งมานานกว่า 5 ปี รถคันนั้น คือ เชฟวี ที่ผลิตระหว่างปี 1943–1954 ผมตามตื๊อเจ้าของไปเรื่อยๆ จนเขาขายรถให้ผม” ปัจจุบันรถ เชฟโรเลต์ คือ ส่วนหนึ่งในชีวิตของไพโรจน์ “ผมประทับใจทุกครั้งที่ได้ขับรถ เชฟวี ผมมีความสุขที่ทุกคนมองมาที่ผม”
อาภากร ศรีเจริญ-ผู้หลงใหลในความคลาสสิคของ เชฟวี
ประสบการณ์กับรถ เชฟโรเลต์ ครั้งแรกของ อาภากร ศรีเจริญ เกิดขึ้นกับรถกระบะ โคโลราโด รุ่นปี 2004 เครื่องยนต์ที่ทรงพลังและสมรรถนะที่เหนือชั้นของ โคโลราโด ได้สร้างความประทับใจให้ อาภากร นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เมื่อ อาภากร เป็นคอลัมนิสต์ให้นิตยสารท่องเที่ยวฉบับหนึ่ง มีหน้าที่รับผิดชอบการทดสอบขับรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ และเขียนบทความท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ซึ่งนำเขามาให้รู้จักกับบแรนด์ เชฟโรเลต์ ปัจจุบัน อาภากร ในวัย 39 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจบิลล์บอร์ดป้ายโฆษณา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรักที่มีต่อรถคลาสสิคและวัฒนธรรมอเมริกัน ได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รถคลาสสิค บ่งบอกบุคลิกและตัวตนของผู้เป็นเจ้าของ รถคลาสสิคแต่ละคันมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน ทำให้เจ้าของสามารถแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ การเป็นเจ้าของรถคลาสสิคสักคันไม่สามารถทำได้ด้วยการซื้อจากโชว์รูม หรือเลือกจากแคทาลอก แต่ต้องอาศัยความทุ่มเทและใส่ใจรายละเอียดเพื่อชุบชีวิตรถคลาสสิค สักคันขึ้นมาอีกครั้ง
ทุกวันนี้ อาภากร เป็นเจ้าของรถกระบะสุดคลาสสิค เชฟโรเลต์ อาปาเช รุ่นปี 1960 เขาใช้ประสบการณ์การฟื้นฟูรถคลาสสิค ในอดีตมาปรับปรุงรถกระบะ อาปาเช คันนี้ ซึ่งเขามีความภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้นั่งหลังพวงมาลัยและเดินทางไปทุกที่กับรถกระบะคันโปรด
อาภากร เลือกรถรุ่น อาปาเช ซึ่งเหมาะกับบุคลิกของเขา พร้อมกับแสดงออกถึงความชื่นชอบในวัฒนธรรมและสไตล์แบบอเมริกันที่เขาหลงใหล เขามองว่ารถกระบะ อาปาเช คือจุดเปลี่ยนสำคัญในด้านการออกแบบยานยนต์ในยุคทศวรรษที่ 1960 ด้วยกระจกบังลมหน้าที่มีความโค้ง และห้องโดยสารที่กว้างขวางทันสมัย นั่นคือ การเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์ของคนอเมริกันอย่างแท้จริง
ด้วยประวัติศาสตร์ด้านคุณภาพและตำนานความสำเร็จ นานกว่า 100 ปี รถกระบะ อาปาเช รุ่นปี 1960 สุดคลาสสิคของ อาภากร คือตัวอย่างที่แสดงถึงคุณภาพของรถ เชฟโรเลต์ ที่มีมาอย่างยาวนาน
ABOUT THE AUTHOR
ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)