ทดลองขับ Mitsubishi 2 พี่น้องอีโคคาร์ Mirage และ Attrage

มิตซูบิชิ มอเตอร์สฯ จัดกิจกรรมทดลองขับอีโคคาร์โฉมใหม่ รุ่นปี 2017 ทั้งแฮทช์แบค Mirage และซีดาน Attrage ที่ปรับโฉมภายนอก เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังคงสมรรถนะและความประหยัดเชื้อเพลิงกับเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 3 สูบ ซึ่งครั้งนี้เน้นรุ่นเกียร์อัตโนมัติ จีแอลเอส ลิมิเทด โดยเลือกใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง ระยะทางประมาณ 300 กม. ภายนอก ปรับเล็กน้อย แต่ลงตัว มิตซูบิชิ มิราจ โฉมใหม่ปี 2017 ภายนอกปรับเปลี่ยนจากรุ่นปี 2016 เพียงเล็กน้อย แค่เพิ่มชุดไฟแอลอีดีเหนือไฟตัดหมอกบนแถบโครเมียมในรุ่น 2016 เพื่อให้ดูทันสมัยขึ้น แต่เก็บไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบ Bi-Xenon HID พร้อมไฟหรี่แบบ Spectrum LED กระจังหน้า ด้านหลังกันชนแบบสปอร์ท มีเส้นสายกรอบและทับทิมสะท้อนแสง อีกทั้งสปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรคดวงที่ 3 และไฟท้ายแบบแอลอีดี พร้อมล้ออัลลอยดีไซจ์นใหม่แบบทูโทน 15 นิ้ว เอาไว้ทั้งหมด มิตซูบิชิ แอททราจ โฉมใหม่ หน้าตาสวยคม ตั้งแต่กระจังหน้าโครเมียมรมดำ โคมไฟหน้า กันชนและไฟตัดหมอก ฝากระโปรงหน้า ชุดไฟแอลอีดีเหนือไฟตัดหมอก กระจกมองข้างปรับและพับด้วยไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยวแบบแอลอีดี ล้อแมกขนาด 15 นิ้ว สีเงินรมดำ แต่เปลี่ยนไฟท้ายและกันชนหลังดีไซจ์นใหม่ลงตัวกว่าเดิม ภายในรุ่นทอพ ฟังค์ชันครบ ห้องโดยสารโทนสีดำดูทันสมัย เบาะนั่งสีดำเดินด้ายสีแดง หัวเกียร์หุ้มหนังสีดำแนวสปอร์ท เบาะคนขับปรับสูง/ต่ำแบบหมุน ปรับได้ตามสรีระ ที่วางแก้วน้ำมากถึง 5 จุด ใต้คอนโซลหน้า 2 จุด กลาง 1 จุด และที่พักแขนผู้โดยสารด้านหลังอีก 2 จุด พร้อมช่องเก็บของข้างประตูคู่หน้า และช่องใส่ขวดน้ำ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมจอแสดงผล และระบบกุญแจอัจฉริยะ สามารถลอค/ปลดลอคประตูหน้าขวา และฝากระโปรงท้าย และสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ เมื่อกุญแจอยู่ในรัศมี 70 ซม. วิทยุ/เครื่องเล่น ดีวีดี/เอมพี 3/จอภาพแบบสัมผัส ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง และภาพจากกล้องมองหลังเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง ในรุ่น 2017 ยังสามารถทำงานเชื่อมต่อกับไอโฟน ด้วย Apple Car Play   และเพิ่มระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) บนพวงมาลัยด้านขวา ด้านซ้ายยังคงเป็นสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย ติดตั้งช่องต่อ USB ที่คอนโซลกลาง ทำให้สะดวกกว่าเดิม ในรุ่นปี 2017 มิตซูบิชิ เพิ่มพนักพิงศีรษะเบาะหลังแบบปรับระดับได้ พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง และจุดยึดเบาะเด็ก (Isofix) 2 ตำแหน่ง มิราจ และแอททราจ ยังใช้เครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน คือ MIVEC 1.2 ลิตร 3 สูบ 12 วาล์ว กำลังสูงสุด 78 แรงม้า ตอบสนองได้ดีทั้งในช่วงออกตัว และเร่งแซง เกียร์อัตโนมัติ CVT ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์อัจฉริยะ INVECS III ใช้รอบไม่ถึง 2,000 รตน. ซึ่งเป็นผลจากการวิเคราะห์ลักษณะนิสัยการขับของผู้ขับ ควบคุมการทำงานด้วยระบบอีเลคทรอนิค ทำให้การปรับเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล ทำงานควบคู่กัน ช่วยรักษารอบเครื่องยนต์ต่อเนื่อง และประหยัดน้ำมัน ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อผู้ขับใช้รอบเครื่องยนต์และความเร็วช่วงที่ประหยัดน้ำมัน จะมีไฟสัญญาณ Eco แสดงขึ้นด้วย ซึ่ง มิตซูบิชิ แจ้งอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดถึง 23.8 กม./ลิตร ใน มิราจ และ 23.3 กม./ลิตร ใน แอททราจ ระบบรองรับในเมืองคล่องตัว ทางไกลขับสบาย ช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม นุ่มนวล แต่ไม่ยวบยาบ เมื่อนั่งหลายคน นั่งสบายเมื่อผ่านพื้นผิวถนนที่กำลังปรับปรุง ไม่โยนตัวตามแรงเหวี่ยง ทำให้รู้สึกมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง และในทางโค้ง แอททราจ ยังคล่องตัวด้วยรัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 4.6 ม. ใน มิราจ 4.8 ม. ใน แอททราจ มิตซูบิชิ เพิ่มความปลอดภัยด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) (FCM-LS) และระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างแรงและเร็ว (เดินหน้า) (RMS-Forward) จะแสดงสัญลักษณ์พร้อมเสียงเตือน รูปร่างหน้าตาลงตัวกว่าเดิม ห้องโดยสารกว้างขวาง โทนสีดำเรียบหรู อุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้มาครบ ตั้งแต่ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และกุญแจอัจฉริยะ จอกับระบบนำทาง เอาใจคนใช้ไอโฟน ด้วย Apple Car Play และคนรักครอบครัวด้วยพนักพิงศีรษะเบาะหลังแบบปรับระดับได้ พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 3 ตำแหน่ง และจุดยึดเบาะเด็ก (Isofix) 2 ตำแหน่ง เสริมความปลอดภัยอีกระดับ ส่วนเรื่องความประหยัดก็ทำได้ดีทั้ง 2 รุ่น