วิธีใช้ประโยชน์จากแบทเตอรีปลดระวาง

  หลังจากค่ายรถยนต์ต่างๆ ทุ่มเทกับการค้นคว้าแบทเตอรีรุ่นใหม่ๆ ที่ชาร์จได้เร็ว ยืดระยะการเดินทางได้ไกล จนกระทั่งวิทยาการด้านนี้ก้าวหน้ามาพอสมควร สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ค่าย Renault-Nissan วางแผนที่จะสร้างโรงงานเพื่อการผลิตแหล่งสำรองไฟฟ้าในยุโรป โดยจะสามารถนำแบทเตอรีจากรถไฟฟ้าที่หมดอายุแล้ว มาพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งสำรองไฟฟ้า หรือแบทเตอรีสำหรับใช้ในครัวเรือน ในอนาคต เช่นเดียวกับผู้ผลิตรถไฟฟ้า Tesla ที่เล็งเห็นถึงปัญหาของแบทเตอรีจากรถไฟฟ้าที่หมดอายุแล้ว และกำลังจัดการด้านธุรกิจ เพื่อนำเอาแบทเตอรีเหล่านี้ กลับมาใช้ซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ส่วน Renault-Nissan ก็คาดหวังสำหรับตลาดแบทเตอรีมือสอง ที่จะช่วยในการพัฒนาโครงสร้างด้านไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้าในอนาคตเช่นกัน Renault-Nissan วางแผนการใหญ่ ที่จะสามารถให้พลังงานไฟฟ้าแก่บ้านเรือน 120,000 หลัง หรือช่วยสนับสนุนโรงงานไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากน้ำมัน หรือถ่านหิน ในขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้ามีปริมาณมาก แบทเตอรีที่จะผลิตนี้ ไม่ใช่เพื่อเป็นการสร้างพลังงานไฟฟ้าขึ้นใหม่ แต่เป็นการเก็บรักษาพลังงานชาร์จเป็นกำลังสำรองขณะที่ความต้องการมีน้อย และขายพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าไป เมื่อมีคามต้องการใช้ไฟฟ้าในช่วงเร่งด่วน ซึ่งแหล่งเก็บพลังงานสำรองนี้ จะเป็นกำลังสำคัญนอกเหนือจากพลังงานจากแรงลม หรือพลังงานจากแผงโซลาร์ ที่ไม่สามารถคาดเดาการทำงานได้ ต้องขึ้นอย่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ Renault-Nissan จับมือกับพันธมิตรผู้ชำนาญด้านนี้ Mobility House ในการผลิตแบทเตอรีขนาดมหึมา ที่นำแบทเตอรีใช้แล้วจากรถไฟฟ้า หรือแบทเตอรีใหม่ มาเป็นแหล่งเก็บกักพลังงาน “เราทำงานร่วมกับ Mobility House ในหลายโครงการ รวมทั้งโครงการผลิตแบทเตอรีขนาดใหญ่นี้ด้วย แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา” Celine Farissier โฆษกของ Renault กล่าว และปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดอื่นใด ผู้ผลิตแบทเตอรีสำหรับรถยนต์ทุกเจ้า จะได้ประโยชน์จากโครงการที่นำแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ใช้แล้ว ที่ไม่สามารถให้กำลังงานกับรถไฟฟ้า ในการเดินทางให้ได้ระยะทางเท่าเดิม มากลับมาใช้ซ้ำ อันจะทำให้ราคาของแบทเตอรีใช้แล้วสูงขึ้น และอาจถึงกับช่วยทำให้ราคารถไฟฟ้าถูกลง ค่าย Nissan พันธมิตรในเครือ ก็ได้ผลิตชุดสำรองพลังงานไฟฟ้า สำหรับแถบอัมสเตอร์ดัม โดย Marcus Fendt กรรมการผู้จัดการ บริษัทที่เพิ่งเริ่มกิจการในเยอรมนี ปฏิเสธที่จะระบุว่าร่วมมือกับกลุ่มใด ระบุเพียงว่าเป็นการตกลงที่จะไม่เปิดเผยชื่อ ก็กำลังศึกษาการก่อตั้งโรงงานขนาด 100 เมกะวัตต์ นักวิเคราะห์ประมาณการว่า ภายในปี 2563 จะมีรถไฟฟ้าวิ่งอยู่บนโลกใบนี้ราว 4 ล้านคัน ซึ่งผู้ผลิตแต่ละราย ต่างพยายามหาวิธีรีไซเคิลแบทเตอรีใช้แล้ว โดย Daimler, BMW, Volkswagen และ BYD จากจีน ต่างก็คาดหวังการค้นคว้าเกี่ยวกับโครงการนำแบทเตอรีกลับมาใช้ซ้ำนี้เช่นกัน