ทดลองขับ
ลองขับ Mazda2 2017
Mazda2 เจเนอเรชัน SKYACTIV เปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ภายใต้แนวคิด มนุษย์เป็นศูนย์กลางแบบ จินบะ-อิตไต รูปลักษณ์ทรงพลังแบบโคโดะ ดีไซจ์น และประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G 1.3 ลิตร และดีเซล เทอร์โบ SKYACTIV-D 1.5 ลิตร จนรถรุ่นนี้ได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งประเทศญี่ปุ่น ประจำปี 2014-2015 และในปีนี้ Mazda แนะนำ Mazda2 รุ่นใหม่ ที่เพิ่มระบบ G-Vectoring Control (GVC) แบบเดียวกับใน Mazda3 ใหม่ ปรับแต่งช่วงล่างและพวงมาลัยใหม่ และ i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจาก Mazda
กระจังหน้าใหม่สีเทาเมทัลลิค ในรุ่น High Connect High Plus และ High Plus L และไฟตัดหมอกดีไซจ์นใหม่มาพร้อมไฟ LED และกรอบโครเมียม ไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้างติดตั้งอยู่บริเวณขอบด้านนอก ช่วยให้ผู้ขับคนอื่นๆ บนท้องถนนมองเห็นได้ชัดเจน ในรุ่น Sports (Hatchback) ใช้เสาอากาศแบบครีบฉลามแบบใหม่
ล้ออัลลอยยังคงเป็นดีไซจ์นเดิม แต่เปลี่ยนสีใหม่เป็นสี Gun Metallic ที่ดูเคร่งขรึมกว่ารุ่นเดิม ทั้งขนาด 15 และ 16 นิ้ว สีตัวรถใหม่ น้ำเงิน เอเทอร์นัล บลู (Eternal Blue) แดง โซล เรด (Soul Red) เงิน อลูมินัม เมทัลลิค (Aluminum Metallic) ขาวมุก สโนว์ฟเลค ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White pearl) น้ำตาล ไททาเนียม ฟแลช (Titanium Flash) เทา เมทิเออร์ กเรย์ (Meteor Gray) และดำ เจทบแลค (Jet Black)
ภายในคงดีไซจ์นเดิม แต่ปรับสีสันเป็นแบบทูโทน รถรุ่น High Plus และ High Plus L เป็นเบาะหนังสีดำ กึ่งกลางเป็นหนังสักหลาดเทียม Grand Luxe ที่ให้สัมผัสนุ่มนวล ตะเข็บแนวขวางช่วยเสริมความสปอร์ท คอนโซล แผงข้างประตู และข้างเบาะคู่หน้า ตกแต่งสีน้ำตาลและสีบรอนซ์ ที่ดูภูมิฐานมากขึ้น
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกจัดเต็ม นอกจากพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน ช่องเชื่อมต่อ USB และช่องจ่ายไฟสำรอง ในรุ่น เอกซ์ดี ไฮ พลัส (XD HIGH PLUS) ยังมีปุ่มควบคุมกลาง (CENTER COMMANDER) จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ที่กลางคอนโซลหน้า และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (ACTIVE DRIVING DISPLAY) เหมือนกับ Mazda3 พร้อมบลูทูธ ระบบจดจำเสียง และเพิ่มช่องเชื่อมต่อ USB 2 พอร์ท
ยังมีปุ่มควบคุมกลาง (Center Commander) จอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ที่กลางคอนโซลหน้า ช่องเชื่อมต่อ USB 2 พอร์ท ในมาซดา 2 เบนซิน จะมีสวิทช์เปิด/ปิดโหมดสปอร์ท (Sport) ติดตั้งมาให้ที่ฐานเกียร์ทุกรุ่น
เพิ่มความสบายและความสะดวกที่มากกว่าเดิม พวงมาลัยดีไซจ์นใหม่ที่ช่วยให้ควบคุมได้ง่ายกว่าเดิม ปรับหน้าจอ Active Driving Display และมาตรวัดที่อ่านได้ง่ายขึ้น
พวงมาลัยดีไซจ์นใหม่ แบบเดียวกับ Mazda CX-9 แป้นกลางพวงมาลัยมีขนาดเล็กลง แต่เส้นรอบวงของพวงมาลัยขนาดเท่าเดิม ช่วยให้รูปทรงโดยรวมดูเฉียบคมขึ้น ปุ่มสวิทช์อยู่ในแถวเดียวกัน ใช้งานได้ง่ายขึ้น
อัพเกรดหน้าจอ Active Driving Display ใหม่เป็นหน้าจอสีที่เพิ่มความสว่าง ความคมชัดมากกว่าเดิม สัญญาณเตือนต่างๆ จะเป็นสีแดงและเหลืองอำพัน แสดงข้อมูลได้ราบรื่นขึ้น และมองเห็นได้ชัดเจนกว่าเดิม
หน้าปัดวงกลมแบบแอนาลอกดีไซจ์นใหม่ สีดำ หน้าจอ LCD ที่แสดงผลทั้งด้านซ้าย/ขวาก็ได้ เปลี่ยนให้มีการจัดเรียงแบบแนวนอน ให้ความคมชัดขึ้น และมุมมองที่กว้างขึ้น ช่วยให้อ่านมาตรวัดได้ง่ายขึ้น
Mazda2 ใหม่ มีเครื่องยนต์ให้เลือกทั้งเบนซิน 4 สูบ SKYACTIV-G ขนาด 1.3 ลิตร 93 แรงม้า และดีเซล 4 สูบ SKYACTIV-D ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 105 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-DRIVE ประหยัดน้ำมันสูงสุดได้ถึง 23.3 และ 26.4 กม./ลิตร และยังคงติดตั้งระบบ I-STOP ที่ดับเครื่องเมื่อรถหยุดนิ่งและสตาร์ทใหม่ เมื่อถอนเท้าจากแป้นเบรค และมีระบบแปลงพลังงานจลน์ที่เกิดจากการหยุดรถกลับมาใช้ในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
Mazda ใส่ 3 เทคโนโลยีใหม่ในเครื่องยนต์ดีเซลสะอาด เพื่อเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ และให้เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและนุ่มนวลกว่าเดิม
High Precision DE Boost Control ช่วยเพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่ฉับไวกว่าเดิม ช่วยเพิ่มการควบคุมแรงบิดที่แม่นยำด้วยการปรับและควบคุมแรงดันของการฉีดน้ำมันให้มีประสิทธิภาพสูง
ส่วน Natural Sound Smoother ช่วยลดการสั่นสะเทือนของชุดลูกสูบและก้านสูบในขณะจุดระเบิด ด้วยการใส่แดมเพอร์ลงในช่องว่างของสลักลูกสูบ ช่วยลดเสียงนอคของเครื่องยนต์ดีเซลไปได้กว่า 3.5 กิโลเฮิร์ทซ์ ซึ่งเสียงนี้จะดังเป็นพิเศษเมื่อติดเครื่องอยู่กับที่ หรือกำลังเร่งเครื่องอย่างช้าๆ การขับขี่จะเงียบและนุ่มนวลมากขึ้น เสียงของเครื่องยนต์ก็จะเร้าใจมากขึ้นด้วย
และ Natural Sound Frequency Control ก็ช่วยลดเสียงนอคของเครื่องยนต์ ช่วยทำให้เครื่องยนต์เงียบกว่าเดิมในขณะเร่งด้วย
ระบบ G-Vectoring Control (GVC) นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด หนึ่งใน SKYACTIV-VEHICLE DYNAMICS ซึ่งระบบนี้ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ให้แปรตามการหมุนพวงมาลัยของผู้ขับ ความเร็วของรถ รวมถึงน้ำหนักของเท้าที่กดคันเร่ง เพื่อควบคุมให้แรงจีทั้งแนวดิ่งและแนวนอนเป็นหนึ่งเดียว และเสริมประสิทธิภาพการรับน้ำหนักในแนวดิ่งของยางแต่ละเส้น ให้รถยนต์ขับเคลื่อนไปได้อย่างนุ่มนวลและมีประสิทธิภาพสูงสุด เวลาเข้าโค้งระบบจะลดกำลังเครื่องยนต์ลงมา เพื่อให้น้ำหนักถูกถ่ายไปที่ล้อหน้าจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเกาะถนนให้ดีขึ้น และการตอบสนองของรถดีขึ้น เมื่อออกจากโค้งพวงมาลัยให้อยู่ในองศาที่คงที่แล้ว ระบบจะปรับให้แรงบิดของเครื่องยนต์กลับมาและถ่ายน้ำหนักไปที่ล้อหลังเพื่อเพิ่มเสถียรภาพให้กับตัวรถ
Mazda2 ใหม่มีการปรับทูนหลายองค์ประกอบเพื่อให้ความแม่นยำที่มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นแดมเพอร์หน้าและหลัง บุชของช่วงล่าง และพวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS)
ช่วงล่างนุ่มขึ้นโดยเฉพาะรุ่น ดีเซล หรือ XD ตัวบุชที่เหล็กกันโคลงหน้าให้ตัวได้ และปรับแต่งพวงมาลัยไฟฟ้า เพื่อช่วยให้ควบคุมพวงมาลัยได้ดีขึ้นขณะเข้าโค้ง และมั่นคงขึ้นเมื่อขับรถในทางตรง
โครงสร้างวาล์วภายในแดมเพอร์หน้าและหลัง มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสั่นสะเทือนสู่ห้องโดยสาร การขับขี่จึงนุ่มนวล ราบรื่นและสะดวกสบาย การปรับเปลี่ยนมุมจุดยึดของบุชที่ทอร์ชันบีมนี้ช่วยลดการโยนตัวไปมาของล้อหลังด้วย
i-ACTIVSENSE เทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงจาก Mazda ที่ป้องกันอุบัติเหตุและลดความเสียหายที่เกิดขึ้น สำหรับ Mazda2 ใหม่ ประกอบด้วย
ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring: ABSM) ระบบนี้ใช้เซนเซอร์เรดาร์คลื่นกึ่งสั้น ในการตรวจสอบรถที่เข้าใกล้จากพื้นที่จุดบอดที่ด้านข้างและด้านหลัง เพื่อให้ผู้ขับในการตรวจสอบความปลอดภัยอีกครั้งเมื่อจะเปลี่ยนช่องทาง ระบบนี้จะทำงานตั้งแต่ความเร็ว 30 กม./ชม. เมื่อคนขับเปิดไฟเลี้ยว ถ้าระบบตรวจจับพบรถที่เคลื่อนที่มาด้านหลัง ไฟจะเตือนกะพริบในกระจกมองข้างและส่งเสียงเตือน และใช้เซนเซอร์ตัวเดียวกันกับระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) ซึ่งแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบรถใกล้เข้ามาจากด้านใดด้านหนึ่งของด้านหลังรถ ช่วยให้ถอยออกมาจากโรงรถ หรือที่จอดรถได้ปลอดภัยมากขึ้น
Mazda2 ใหม่ หน้าตาโฉบเฉี่ยว ดึงดูดใจ ห้องโดยสารสไตล์สปอร์ท อุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยจัดเต็มไม่แพ้ Mazda3
ABOUT THE AUTHOR
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ (บก. ออนไลน์)