ข่าวรอบโลก
ยอดขายรถเล็กในยุโรป
ขณะที่ประเทศไทยกำลังมุ่งมั่นที่จะให้รถอีโคคาร์กลายเป็นพโรดัคท์ แชมเพียน ตัวต่อไป แต่ลองมาดูตลาดของรถเล็ก หรืออีโคคาร์ในยุโรปกันบ้าง ว่ามียอดขายเท่าใด เอาแค่ 4 เดือนแรกของปีนี้
จากรายงานของ JATO Dynamics ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลก อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์มากกว่า 50 ตลาด มีสำนักงานอยู่ใน 45 ประเทศ สำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงลอนดอน รายงานยอดขายของค่าย เฟียต ไครสเลอร์ กระเตื้องขึ้นมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอิตาลี นับเป็นตลาดใหญ่สุดของรถเล็ก ที่ราคาไม่แพงนัก โดยใน 4 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายกระเตื้องขึ้นมา 20 % ขายได้ 129,770 คัน คว้าส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 25 %
Fiat Panda แย่งตำแหน่งแชมพ์จาก เฟียต 500 เป็นเจ้าตลาด ด้วยยอดขายทั่วยุโรป 74,018 คัน เพิ่มขึ้น 21 % ขณะที่ Renault Twingo เพียงยี่ห้อเดียวในตลาดยุโรปที่ยอดต่ำลงถึง 20 % ตลอด 4 เดือน
ตลาดรถเล็กมียอดขายเพิ่มขึ้นในอิตาลี รวมทั้งสเปน และโปรตุเกส ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของรถเล็กของยุโรปใน 4 เดือนแรก เพิ่มขึ้น 3.8 % แต่ในเซคชันของรถเล็ก หรือยุโรปเรียก เอ-เซกเมนท์ ตามการคาดการณ์ว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นถึงปีละ 1.2 ล้านคัน จากปี 2559 จนถึงปี 2563
ยอดขายรถอีโคคาร์ เติบโตสูงสุดในปี 2552 ที่ขายมากกว่า 1.6 ล้านคัน เพราะเป็นรถเล็ก ราคาถูก และรัฐบาลของประเทศในยุโรปหลายประเทศ เริ่มให้เงินสนับสนุนการนำรถเก่ามาแลกซื้อรถใหม่ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ช่วงระหว่างที่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก แต่ยอดขายก็เริ่มลดต่ำลงเหลือราว 1.13 ล้านคัน ระหว่างปี 2556 ถึง 2557 เพราะกำลังซื้อถูกดึงดูดจากการสนับสนุนก่อนหน้านี้แล้ว เหมือนกับที่รายการรถคันแรกของบ้านเรา ทำตลาดปั่นป่วนให้เห็นกันมาแล้ว
ค่าย ฟอร์ด เตรียมจะยกเลิกการขายรุ่น Ka หลังจากอยู่ในตลาดมาสองศตวรรษ โดยนำเสนอรถเล็กเป็น 2 รุ่น ได้แก่ Ka+ และ Fiesta โดย Ka+ ตัวรถสั้นกว่า Fiesta เล็กน้อย ยาว 3,929 มม. เมื่อเทียบกับรุ่น Ka 3,620 มม. โดยจะทำให้วางตำแหน่งของ Fiesta รุ่นใหม่ในปีหน้าให้สูงขึ้น ขณะที่ 4 เดือนที่ผ่านมา ขายได้เพียง 12,975 คัน
ขณะที่ค่าย นิสสัน ก็อยู่ในเซกเมนท์นี้เช่นกัน ใช้รถประกอบจากอินเดีย รุ่น Pixo เป็นตัวทำตลาด แต่ก็ถอนตัวไปในปี 2556 ก่อนจะส่งรุ่น Kwid ที่ประกอบจากอินเดีย ทำตลาดสำหรับตลาดยุโรป และมองว่ายังพอมีช่องว่างทำการตลาดสำหรับรถเล็กอยู่ เลยร่วมกับพันธมิตร นิสสัน-เรอโนลต์ ส่งรุ่น Twingo ทำตลาด แต่รถขับหลังคันนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะยอดร่วงลงไปถึง 20 % ขายกันได้เพียง 29,081 คัน ตกลงไปอยู่อันดับ 5 ตามหลัง Aygo จากค่ายยักษ์ใหญ่ โตโยตา ขณะที่ยอดขายของ เรอโนลต์ ไปได้ดีในฝรั่งเศส อยู่ในอันดับ 4 ของตลาดรวมยุโรป ตามหลังอิตาลี, อังกฤษ และเยอรมนี ขณะที่ช่วงนี้ยอดขายรถเล็กในฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 2 % เป็น 54,415 คัน
นักวิเคราะห์ต่างพากันหาสาเหตุว่า ทำไม เรอโนลต์ ถึงไม่ประสบความสำเร็จกับ Twingo ที่ประกอบด้วยพื้นฐานเดียวกับ Smart ForFour ในโรงงานที่สโลวาเนีย น่าจะเป็นเพราะขนาดที่เล็กกว่ารุ่น Clio รวมทั้งเป็นรถขับหลัง ที่กินพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังพอควร
ขณะที่ค่าย โตโยตา ทำยอดการขาย Aygo ด้วยการเพิ่มอุปกรณ์เสริมตามแต่ลูกค้าต้องการ แต่ก็ประสบปัญหาว่าทำส่งลูกค้าไม่ทัน เพราะลูกค้ามีความต้องการแตกต่างกันไป ซึ่งซัพพลายเออร์ ไม่สามารถผลิตให้ทันได้ตามความต้องการ โดยที่ Aygo มีให้เลือกทั้งสีที่มากมาย อุปกรณ์เสริมที่ทันสมัย ที่ถูกใจกลุ่มวัยรุ่น
เรอโนลต์ ก็พยายามปรับแต่งรถของตนให้ถูกใจวัยรุ่นเช่นกัน โดยเตรียมออกรุ่น Twingo GT ภายในปีนี้ โดยเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร เทอร์โบ รุ่นปกติให้กำลังเพียง 90 แรงม้า แต่รุ่น GT เพิ่มเป็น 110 แรงม้า ขณะที่ค่าย โฟล์คสวาเกน ก็แต่งหน้าทาปากรุ่น Up ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร เทอร์โบ ทีเอสไอ เป็นครั้งแรก พร้อมแท่นวางสมาร์ทโฟน และระบบเชื่อมต่อเพื่อความบันเทิง ด้วยแอพพลิเคชันของ โฟล์คสวาเกน
สำนักวิเคราะห์ระบุว่า รถยนต์ในเซกเมนท์นี้ ให้ความประทับใจกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งผู้ซื้อรถคันแรก, คนโสด, หรืออาจจะเพราะสัญญาช่วยจอด รวมทั้งไม่เป็นคู่แข่งโดยตรงกับเซกเมนท์ เอสยูวี แต่อย่างใด
ABOUT THE AUTHOR
ม
มือบ๊วย
คอลัมน์ Online : ข่าวรอบโลก (บก. ออนไลน์)