ระหว่างเพื่อน
เมื่อ 30 ปีก่อน
ABOUT THE AUTHOR
ส
สยา เมืองยิ้ม
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2555
คอลัมน์ Online : ระหว่างเพื่อน
พลต. สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เผยความรู้สึกถึงความเปลี่ยนไปของการเมืองไทยระหว่างวันนี้กับเมื่อ 30 ปีก่อน ว่าแตกต่างกันมาก จนทำให้ตั้งใจว่าจะยุติการเล่นการเมืองสักระยะหนึ่งเพราะความเปลี่ยนไปผมคุ้นเคยกับท่านผู้นี้ หลายปีก่อนที่ท่านจะเข้าสู่งานทางการเมือง รักใคร่เฮฮากันดี และเข้าใจเรื่องราวที่ท่านกล่าวถึง เพราะวัยวุฒิของเรา 2 คน ดูจะใกล้เคียงกันมาก ต่างกันก็ประเด็นที่ว่าผมไม่ได้ทำงานทางการเมืองเท่านั้น ท่านอ้างความเปลี่ยนไปทางการเมืองว่า ถึงขนาดเข้าไปในรัฐสภา เดินสวนทางกับเพื่อนสมาชิกด้วยกันยังไม่ยอมทักทาย แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันจนเกิดความมั่นใจว่า แผนปรองดองแห่งชาติ ตามวิถีทางของรัฐบาลน่าจะไม่รอด ก็น่าสนใจว่า กรุงเทพมหานครของเราเมื่อ 30 ปีก่อน เป็นยังไง ปีพุทธศักราชที่เสธหนั่นของผมอ้างถึง ตรงกับเหตุการณ์สำคัญของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นปีพุทธศก 2525 ครบรอบปีที่ 200 ของการก่อตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ หรือพูดเรียบง่ายก็คือ กรุงเทพมหานคร มีอายุครบ 200 ปี พอดี มีการจัดงานสมโภชกันใหญ่โต เมืองหลวงของไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ มีการปกครองอยู่ในความรับผิดชอบของกรมนครหลวง อันมี เจ้าพระยายมราช เป็นเสนาบดีปกครอง ขึ้นกับสมุหนายก หัวหน้าข้าราชการฝ่ายพลเรือน และการปกครองแบบกระทรวง ทบวง กรม มาเริ่มในรัชกาลที่ 4 สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมามีการเปลี่ยนแปลง จากระดับมณฑลเป็นระดับจังหวัด เกิดมีจังหวัดพระนครและธนบุรี มีระบบราชการบริหารแบบเทศบาล และสุขาภิบาล ต่อมาในปี 2514 มีประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 20 ธันวาคม 2514 รวมจังหวัดพระนคร กับธนบุรีเข้าด้วยกัน จนถึงเดือนธันวาคมปี 2515 ก็เปลี่ยนชื่อเป็น กรุงเทพมหานคร การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เริ่มมีขึ้นภายหลังที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบ 14 ตุลาคม 2516 โครงสร้างของกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองผู้ว่า ฯ อีก 4 ตำแหน่ง รับการเลือกตั้งจากประชาชนทุก 4 ปี ในขณะนั้น ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นข้าราชการระดับ 11 และมีรองปลัดอีก 4 คน เป็นผู้ช่วย ดูแลเขตต่างๆ ของ กทม. จำนวน 24 เขต ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการเลือกตั้งปี 2524 คือ พลเรือเอกเทียม มกรานนท์ อันที่จริงความเปลี่ยนไปของกรุงเทพ ฯ ก็น่าจะถอยหลังเกินกว่า 30 ปี ที่เสธหนั่นกล่าวถึง โดยเฉพาะในปี 2500 กรุงเทพ ฯ ก็มีงานสำคัญ เรียกว่า งานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ มีการเปิดเขื่อนเจ้าพระยา และเริ่มการก่อสร้างเขื่อนภูมิพล และในปีถัดมา ก็เป็นก้าวใหม่ของประเทศ จากการยึดอำนาจรัฐประหารของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ คุมอำนาจเด็ดขาดไว้แต่ผู้เดียว พร้อมมาตรา 17 ซี่งให้อำนาจสั่งประหารชีวิต เมืองไทยเริ่มมีสภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ และสภาการศึกษาแห่งชาติ ตั้งบริษัทการบินไทย บรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรม องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยว และคณะกรรมการการส่งเสริมการลงทุน เพื่อกิจการอุตสาหกรรม พุทธศก 2525 ก็มีงานสมโภชฉลองกรุงรัตนโกสินทร์ครบ 200 ปี ระหว่างวันที่ 6 ถึง 21 เมษายน มีการถวายพระราชสมัญญานามรัชกาลที่ 1 เป็น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช นายกรัฐมนตรีของเมืองไทยเวลานั้น ได้แก่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งว่าราชการบริหารแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2523 "ป๋าเปรม" เป็นนายกรัฐมนตรียาวนาน เริ่มตั้งแต่ปี 2523 จนถึงปี 2531 และเสธหนั่นของผมสมัยนั้น ยังเป็นพันโท ได้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในคณะรัฐมนตรีคณะที่ 44 (ปี 2529-2531) ซึ่งนายกรัฐมนตรียังเป็น พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และต่อมา เสธของผม ท่านก็ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลคณะที่ 45 (2531-2533) เมื่อเสธหนั่นเริ่มทำงานทางการเมืองระดับเสนาบดี เพื่อนร่วมงานทางการเมืองของท่านก็ล้วนแต่ดังๆ ทั้งสิ้น