เปิดตัว ซี-คลาสส์ รุ่นพิเศษ สืบสานตำนาน บแลค ซีรีส์ต้นปีหน้าออกขายในเมืองเบียร์ เยอรมนี-เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ดาวสามแฉก" ใช้สังเวียนการแข่ง เยอรมนี กรองด์ปรีซ์ เป็นที่เปิดตัวรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ รุ่นทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ พร้อมประกาศยืนยันว่าเดือนมกราคมปีงูใหญ่ออกขายแน่นอน ที่สนามนืร์บวร์กริง (NURBURGRING) ซึ่งเป็นสังเวียนการแข่งรถ เยอรมนี กรองด์ปรีซ์ เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ดาวสามแฉก" ช่วยแต้มสีสันให้กับการแข่งรถ ฟอร์มูลา วัน ชิงแชมพ์โลกนัดนี้ โดยนำรถรุ่นพิเศษ ติดป้ายชื่อ เมร์เซเดส-เบนซ์ซี 63 เอเอมจี คูเป บแลค ซีรีส์ (MERCEDES-BENZ C 63 AMG COUPE BLACK SERIES) ออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก เป็นรถรุ่นพิเศษที่จะผลิตจำหน่ายในจำนวนจำกัด เพื่อสนองรสนิยมคนรักรถที่ต้องการความแรงและความเร็วระดับที่หาไม่ได้ในรถ ซี-คลาสส์ รุ่นอื่นๆ พัฒนาจากรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 63 เอเอมจี คูเป (MERCEDES-BENZ C 63 AMG COUPE) ซึ่งเพิ่งออกขายในเมืองเบียร์เมื่อตอนกลางปี และ "ข่าวรอบโลก" รายงานรายละเอียดไปแล้วในฉบับเดือนมิถุนายน 2011 โดยปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งในส่วนตัวถังและเครื่องยนต์กลไกอันทรงพลัง ในส่วนตัวถังซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ จุด เมื่อมองจากภายนอก จุดเปลี่ยนที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ช่องดักลมใต้โคมไฟคู่หน้าที่มีขนาดโตกว่าเดิม ช่องเปิด 2 ช่องบนฝากระโปรงหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ และกระทะล้ออัลลอยน้ำหนักเบาเคลือบสีเทา (TITANIUM GREY) ที่ออกแบบและผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถรุ่นพิเศษนี้ด้วยเทคโนโลยีนำสมัยอย่างที่เรียกขานกันในภาษาอังกฤษว่า LIGHT FORGING TECHNOLOGY เมื่อก้าวเข้าไปนั่งในห้องโดยสาร จุดสะดุดตาที่สุด คือ การตกแต่งแบบ"ทู-โทน" ด้วยสีแดงสลับดำกับเก้าอี้ที่นั่ง ซึ่งมีอยู่เพียง 2 ตัว อย่างไรก็ตาม หากต้องการให้เป็นรถที่นั่งได้มากกว่า 2 คน ก็สามารถสั่งได้เป็นพิเศษ แถมยังมีให้เลือกทั้งเบาะหลังที่นั่งเดียว และเบาะหลัง 2 ที่นั่ง ในส่วนของกลไกความเปลี่ยนแปลง ก็มีอยู่มากมายหลายจุดเช่นกัน และจุดซึ่งเป็นสาระสำคัญที่สุดคือ เครื่องยนต์ เครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหน้าบานโต ยังคงเป็นเครื่องบลอคเดียวกับที่เห็นกันมาแล้วในรถ เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี 63 เอเอมจี คูเป แต่มีการปรับแต่งรายละเอียดในบางจุดจนได้ม้าเพิ่มขึ้นถึง 60 ตัว คือ กำลังสูงสุดพุ่งจาก 457 แรงม้า ที่ 6,800รตน. เป็น 517 แรงม้า ที่รอบเดิมผลลัพธ์ในบั้นปลายของพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 13 ดังกล่าวนี้ คือ เวลาที่ใช้ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ลดจาก 4.5 เป็น 4.2 วินาที กินน้ำมันขึ้นอีกนิดหน่อย และปล่อยไอพิษมากหน่อย คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพิ่มจาก12.0 เป็น 12.2 ลิตร/100 กม. หรือ 8.2 กม./ลิตร และอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มจาก 280 เป็น 286 กรัม/กม. จะออกโชว์รูมในเมืองเบียร์เดือนมกราคมปีหน้า โดยติดป้ายค่าตัว 115,430 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 5.0 ล้านบาทไทย เป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้ยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์เคยทำรถ BLACK SERIES มาแล้วรวม 3 รุ่น คือ MERCEDES-BENZ SLK 55 AMG BLACK SERIES ซึ่งผลิตขายเพียง 120 คัน ในช่วงปี 2006-2007 MERCEDES-BENZ CLK 63 AMG BLACK SERIES ซึ่งผลิตรวม 700 คัน ในช่วงปี 2007-2008 และล่าสุด คือ MERCEDES-BENZ SL 65 AMG BLACK SERIES ซึ่งผลิตเพียง 350 คัน ในช่วงปี 2008-2009