ระเบียงรถใหม่
BUGATTI VEYRON 16.4 SUPER SPORT
ในบรรดา BRAND หรือยี่ห้อรถที่เกิดขึ้นแล้วและตายไปแล้วดังที่กล่าวใน 3-4 หน้าก่อน ชื่อหนึ่งที่สมควรจะหยิบยกขึ้นมากล่าวถึงคือ บูกัตตี (BUGATTI) รถสปอร์ทสัญชาติฝรั่งเศสที่คนรักรถสปอร์ทคงรู้จักกันดี ด้วยเป็นรถที่เกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด วนเวียนกันอยู่ถึงสามครั้งสามคราว
กิจการผลิตรถสปอร์ทติดป้ายยี่ห้อ บูกัตตี (BUGATTI) เริ่มต้นขึ้นที่เมือง MOLSHEIM ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองไวน์เมื่อปี 1909 ผู้ก่อตั้งกิจการคือ เอตโตเร บูกัตตี (ETTORE BUGATTI) ซึ่งเกิดที่เมืองมิลานในอิตาลีเมื่อเดือนกันยายน 1981 และหลงใหลใฝ่ฝันกับเรื่องรถยนต์และกีฬาแข่งรถมาตั้งแต่เด็ก อย่างไรก็ตามกิจการดังกล่าวต้องปิดตัวลงในปี 1939 เมื่อเกิดสงครามโลก หลังจากผลิตรถซึ่งปัจจุบันเป็นที่หมายปองของนักสะสมได้เพียง 7,950 คัน
ครึ่งศตวรรษหลังจากนั้น คือ ในปี 1991 กิจการผลิตรถ บูกัตตี ที่ตายไปแล้ว ก็กลับฟื้นคืนอีกครั้งหนึ่ง เมื่อ โรมาโน อาร์ติโอลี (ROMANO ARTIOLI) นักธุรกิจชาวอิตาลีเริ่มกิจการผลิตรถยี่ห้อนี้ขึ้นมาใหม่ แต่ก็ทำได้เพียง 3-4 ปีและผลิตรถได้เพียง 139 คัน ก่อนจะล้มละลายไปเมื่อปี 1995 การตายครั้งที่ 2 นี้ เป็นการตายในช่วงสั้นๆ เพราะเพียง 4 ปีหลังจากนั้น คือ ในปี 1998 ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ โฟล์คสวาเกน กรุพ (VOLKSWAGEN GROUP) ได้ควักเงินก้อนโตซื้อสิทธิบัตรชื่อ บูกัตตี จากเจ้าของเดิม และกิจการผลิตรถยี่ห้อนี้ ก็ตั้งต้นขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 3
บูกัตตี เวย์รน 16.4 ซูเพอร์ สปอร์ท (BUGATTI VEYRON 16.4 SUPER SPORT) ที่นำมาให้ชื่นชมกันนี้ เป็นพัฒนาการท้ายสุดของ บูกัตตี เวย์รน 16.4 (BUGATTI VEYRON 16.4) รถสปอร์ทระดับ "ซูเพอร์คาร์" อันเป็นรถแบบแรกของ บูกัตตี ในยุคที่อยู่ภายใต้ร่มเงาของค่าย เยอรมนี และจำกัดจำนวนผลิตไว้แค่ 300 คัน
เปิดตัวต่อสาธารณชนที่งานแสดงรถยนต์ PEBBLE BEACH CONCOURS D'ELEGANCE ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อเดือนสิงหาคมปีเสือดุ โดยที่ 1 เดือนก่อนหน้านั้น คือ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2010 รถคันต้นแบบสามารถสร้างสถิติโลกขึ้นใหม่ ในฐานะ THE FASTEST PRODUCTION VEHICLE OF ALL TIME หรือ "รถตลาดเร็วที่สุดที่เคยสร้างกันมา" โดยวิ่งทดสอบที่สนาม เอห์รา-เลสซิเอน (EHRA-LESSIEN) ของค่าย โฟล์คสวาเกน และสามารถทำความเร็วได้ถึง 431.072 กม./ชม. เป็นสถิติที่มีการรับรองอย่างเป็นทางการ และบันทึกไว้เรียบร้อยแล้วใน GUINNESS BOOK OF WORLD RECORDS
รถรุ่นนี้ใช้ตัวถังเดียวกับรถ บูกัตตี เวย์รน 16.4 รุ่นมาตรฐาน เป็นตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์ล้วน ยาว 4.462 ม.กว้าง 1.998 ม. และสูง 1.190 ม. ซึ่งมีน้ำหนักตัวพร้อมขับ 1,838 กก. แต่มีรายละเอียดในบางจุดที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น ช่องดักลมที่ติดตั้งอยู่ใต้ดวงโคมไฟหน้า สปอยเลอร์ที่ติดตั้งอยู่บนบั้นท้าย และยางหน้ายางหลังที่ผู้ผลิตยางมิเชอแลงของฝรั่งเศสผลิตขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถรุ่นนี้โดยเฉพาะ ตัวถังดังกล่าวนี้ เมื่ออยู่ในสภาพปกติ จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.388 แต่จะเพิ่มเป็น 0.471 เมื่อเข้าโค้ง ลดเป็น 0.348 เมื่อใช้ความเร็วสูงสุด และเพิ่มเป็น 0.695 เมื่อเหยียบห้ามล้อลม
เครื่องยนต์ที่วางตัวอยู่ภายใต้ฝากระโปรงหลัง ยังคงเป็นเครื่องดับเบิลยู 16 สูบ 7,993 ซีซี ติดเทอร์โบ 4 ชุด บลอคเดิม แต่ปรับแต่งจนได้ม้าเพิ่มขึ้นถึง 199 ตัว คือ กำลังสูงสุดพุ่งจาก 1,001 เป็น 1,200 แรงม้า ที่ 6,400 รตน. ส่วนค่าแรงบิดสูงสุด คือ 1,500 นิวตัน-เมตร (153.1 กก.-ม.) ที่ 3,000-5,000 รตน. กำลังแรงสุดๆ ที่ว่านี้ ส่งทอดสู่ล้อคู่หน้าและคู่หลัง ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ
เป็นรถที่แรงและเร็วอย่างน่าขนพองสยองเกล้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 2.5 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 415 กม./ชม. เพื่อถนอมยาง ไม่บอกอย่างชัดเจนว่าจะผลิตขายกี่คัน ? แต่เมื่อตอนปลายเดือนมกราคมที่มีผู้สั่งจองรวม 38 คัน บอกว่าขายเกือบหมดแล้ว รถ 5 คันแรก ซึ่งตั้งชื่อรุ่นเป็นพิเศษว่า BUGATTI VEYRON 16.4 SUPER SPORT WORLD RECORD EDITION และมีตัวถังสีดำแสดอย่างที่เห็นในภาพประกอบ มีผู้สั่งจองหมดแล้ว ทั้งๆ ที่ตั้งค่าตัวสุดโหดระดับ 100 ล้านบาทไทย
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2554
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่