โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ ใหม่ เริ่มขายเดือนตุลาคมนี้

เยอรมนี-โฟล์คสวาเกน กรุพ (VOLKSWAGEN GROUP) กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป เปิดเผยโฉมหน้า และรายละเอียดบางส่วนของรถ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ (VOLKSWAGEN GOLF) รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 5 พร้อมประกาศยืนยันว่า ในเดือนตุลาคม 2008 นี้ จะเริ่มนำรถออกจำหน่ายในตลาดยุโรป โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างจุใจถึง 6 ขนาด และทุกขนาดเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงเป็นพิเศษ ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่ารถรุ่นเดิม และปล่อยไอพิษต่ำกว่ารถรุ่นเดิม   หลังจากนำรถเล็กยอดนิยม โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ ออกจำหน่ายไปแล้วรวม 5 รุ่น และทำยอดขายในตลาดทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 26 ล้านคัน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี่เอง โฟล์คสวาเกน ก็ออกข่าวเผยแพร่รูปโฉม และรายละเอียดของ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ รุ่นใหม่ล่าสุด ผ่านเวบไซท์ที่ทำไว้โดยเฉพาะสำหรับสื่อมวลชน โดยจ่าหัวข่าวว่า โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ รุ่นใหม่นี้เป็น THE BEST GOLF OF ALL TIMES หรือ "รถ กอล์ฟ ที่เยี่ยมยอดที่สุดตลอดกาล"   รายละเอียดที่สนับสนุนคำอ้างดังกล่าวมีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบตัวถังทั้งภายนอก และภายในที่กระทำอย่างประณีตพิถีพิถัน และได้คุณภาพที่สูงค่ากว่ารถรุ่นก่อนๆ เครื่องยนต์ทั้งเบนซิน และดีเซล ที่มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน EU-5 ซึ่งกำลังจะประกาศใช้ในอนาคต และระบบช่วยการบังคับขับขี่ที่ไม่ค่อยจะได้พบเห็นกันมาก่อนในรถยนต์ระดับนี้ ตั้งแต่ระบบควบคุมระยะห่างโดยอัตโนมัติ AUTOMATIC DISTANCE CONTROL (ACC) ระบบปรับแชสซีส์ ADAPTIVE CHASSIS CONTROL (DCC) ไปจนถึงระบบช่วยจอดรถ PARK STEERING ASSISTANT   ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์ ยืนยันว่า เดือนตุลาคม 2008 นี้ จะเริ่มนำรถออกจำหน่ายในตลาดยุโรป หลังจากนั้น จึงจะทยอยออกจำหน่ายในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ตามลำดับโดยที่ในระยะแรก โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ รุ่นใหม่นี้ จะมีตัวถังให้เลือกใช้เพียง 2 แบบ คือ ตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค และตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค ผลงานรังสรรค์ของทีมออกแบบ โฟล์คสวาเกน ซึ่งมี วัลแตร์ เด ซิลวา (WALTER DE SILVA) นักออกแบบชาวอิตาลีชื่อดังเป็นผู้กำกับดูแล   ในส่วนของเครื่องยนต์กลไก ในระยะแรก โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ รุ่นที่ 5 จะมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 6 ขนาด โดยแยกออกได้เป็นเครื่องยนต์เบนซินรวม 4 ขนาด คือ 80 แรงม้า 102 แรงม้า 122 แรงม้า และ 160 แรงม้า กับเครื่องดีเซลคอมมอนเรล 2 ขนาด คือ 110 แรงม้า และ 140 แรงม้า   เครื่องยนต์ทุกแบบทุกขนาด ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ ทำให้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่า และปล่อยไอพิษต่ำกว่าเครื่องยนต์ชุดที่เคยใช้อยู่ในรถรุ่นเดิม ตัวอย่าง คือ เครื่องยนต์เบนซินพื้นฐาน ซึ่งให้กำลังสูงสุด 80 แรงม้า มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำเฉลี่ยเพียง 6.4 ลิตร/100 กม. คือ ประหยัดกว่ารถรุ่นเดิมถึง 0.5 ลิตร แถมยังมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียต่ำเป็นพิเศษ คือ แค่ 149 กรัม/กม. ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลพื้นฐานซึ่งให้กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ก็มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแค่ 4.5 ลิตร/100 กม. คือประหยัดกว่าเครื่องยนต์ขนาดเดียวกันในรถรุ่นก่อนถึง 0.6 ลิตร และมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียเพียง 119 กรัม/กม. เท่านั้นเอง