แมกนา สไตร์ (MAGNA STEYR) เป็นรถแนวคิดลำดับที่ 3 ของยนตรกรรมในซีรีส์ มีลา อัลพิน (MILA ALPIN) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายเก่าแก่ของออสเตรีย โดยเริ่มก่อตั้งในปี 1864 มีผลงานการออกแบบที่นำเสนอหลากหลาย ล่าสุดได้เปิดตัวรถแนวคิดรุ่น แมกนา สไตร์ ในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2008 แมกนา สไตร์ รถแนวคิดในรูปลักษณ์รถกิจกรรมกลางแจ้ง เอสยูวี ขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดกะทัดรัด ที่มีห้องโดยสาร และสามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลาย ทุกสภาพการขับขี่ และมีปริมาณไอเสียน้อยกว่า 100 ก./กม. รูปทรงตัวรถมีการออกแบบที่โดดเด่น เร้าใจ โดยใช้ต้นทุนการผลิตที่คุ้มทุน สูงที่สุด ด้วยความสามารถในการใช้งาน ในทุกสภาพพื้นผิว โดยเฉพาะในเส้นทางทุรกันดาร แมกนา สไตร์ ตอบสนองการใช้งานได้เหนือกว่ารถกิจกรรมกลางแจ้งบแรนด์อื่นๆ รูปทรงด้านนอกของ แมกนา สไตร์ โดดเด่น เร้าใจ ด้วยการใช้แนวเส้นที่เน้นหนัก ชัดเจน ที่ได้รับอิทธิพลมาจากโขดหิน และก้อนน้ำแข็ง นับเป็นความสำเร็จอย่างสูงของทีมวิศวกรของ มีลา อัลพิน ที่สามารถพัฒนารถ 4WD ที่มีประสิทธิภาพในการปีนป่ายสูงสุด ด้วยการใช้งบประมาณที่ไม่มากเกินไป เฟรมตัวรถนับเป็นส่วนที่แข็งแกร่งที่สุด ด้วยการใช้วัสดุหลากหลาย เพื่อให้มีน้ำหนักเบา และสามารถให้ตัวได้ตามต้องการ ห้องโดยสารก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ใช้ชิ้นส่วนที่ขึ้นรูปจากวัสดุสังเคราะห์ ทั้งยังสามารถดัดแปลงเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย ห้องโดยสารมีการจัดวางตำแหน่งนั่งแบบ 3+1 และอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ห้องโดยสารถูกจัดวางค่อนไปทางด้านหน้า ด้านบนเป็นหลังคากระจกขนาดใหญ่ เพื่อทัศนวิสัยที่ดี เครื่องยนต์วางกลาง มีให้เลือกทั้งระบบเชื้อเพลิงแกส ซีเอนจี (CNG) ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า หรือเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด พร้อมระบบอัดอากาศซูเพอร์ชาร์จ ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีประสิทธิภาพ สามารถปีนเนินชันได้ถึง 45 องศา หรือ 100 % ตอบสนองการขับขี่บนทางเรียบที่สนุกสนาน ระบบรองรับแบบอิสระ 4 ล้อ และ อีเอสพี ในส่วนของแชสซีส์ก็ได้รับการออกแบบ ที่เน้นความปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการจัดวางเครื่องยนต์กลางลำ ทำให้มีการกระจายน้ำหนักที่ดี ให้การยึดเกาะที่ดีกว่า นอกจากนั้นยังมีระยะห่างใต้ท้องที่สูงมาก และมีมุมเข้า/ออกจากอุปสรรคที่กว้างมาก เพียบพร้อมด้วยชุดทรานสเฟอร์ สำหรับเลือกอัตราทด ให้แรงบิดสูงสำหรับการปีนป่าย หรืออัตราทดปกติ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนอย่างปลอดภัย และผ่อนคลายในเส้นทางทุรกันดาร จากแนวคิดสู่ความจริง เพื่อให้มีต้นทุนการผลิตต่ำที่สุด จึงต้องใช้การออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถลดขั้นตอนการผลิตให้น้อยลง โดยที่ไม่มีปัญหาการผลิตเกิดขึ้น นอกจากนั้นยังมีการวางแผนรองรับการปรับเปลี่ยนในอนาคตอีกด้วย