ชีวิตคือความรื่นรมย์
ภาษาไทยในยุคโลกาภิวัตน์
เห็นนักการเมืองที่เป็นคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเรา ดันทุรังพูดภาษาที่เมื่อตอนเราเป็นเด็ก ขืนพูดคำเหล่านั้น จะถูกญาติผู้ใหญ่คาดโทษให้ตบปากตัวเอง มาบัดนี้เขาว่าไม่ใช่คำหยาบเสียแล้ว
เพื่อนซึ่งล้วนเป็นอาจารย์ภาษาไทย (ดีเด่น) หลายคนก็ว่าช่วยไม่ได้ เพราะหลายคนก็เรียกเจ้าคนนั้นด้วยคำเช่นนั้นอยู่เป็นประจำมานานแล้ว และยิ่งมีคู่หูคู่ฮา ที่ซาตานยัดเยียดให้เขาทั้งสองมาเข้าคู่กัน ดูยิ่งเหมาะเจาะเหลือเกิน เหมือน ผีเน่ากับโลงผุ ยังไงยังงั้น
แม้ที่เราคุยกันอยู่นั้น พอหลานๆ ตัวเล็กที่ยังไม่เดียงสาเดินมาใกล้ๆ เรายังรีบหยุดเพื่อมิให้ปากเป็น อัปมงคล กลัวเด็กๆ จะจำไป และต้องเชื่อสำนวนโบราณท่านสอนไว้ว่า อย่าเอาไม้สั้นไปรันขี้ เพราะขืนไม่เชื่อ (รัน=ตี เช่น ตีรันฟันแทง) เดี๋ยวมันกระเด็นมาโดนคนตี ต้องเหม็นตัวเปล่าๆ
มาพูดถึงเรื่องช่วยกันอนุรักษ์ภาษากันน่าจะดีกว่า อย่างที่เมื่อวันภาษาไทย (29 กรกฎาคม 2543) เราเคยไปเล่นสักวากันที่หอประชุมใหญ่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกอากาศทั่วประเทศมาแล้ว โดยเราชาวสโมสรสยามวรรณศิลป์ สมมติว่าใครเป็นคนในอาชีพอะไร จะรู้สึกหรือควรอนุรักษ์อย่างไร
เมื่อเริ่มไหว้ครู คุณประสพโชค เย็นแข เริ่มว่า
สักวาไหว้ครูน้อมบูชิต/ผู้ประดิษฐ์อักษราภาษาสยาม/ขอชูเชิดเทิดพระคุณพ่อขุนราม/เราเกิดความรักหนังสือสานสื่อมา/ถวายบังคมสมเด็จพระปิยะ/กราบองค์พระธีรราชปราชญ์แห่งหล้า/กราบล้นเกล้า ฯ ภูมิพลมหาราชา/ทรงห่วงใยภาษาไทยยิ่งเอย (บทนี้ครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต ศิลปินแห่งชาติให้ขับร้องเพลงครอบจักรวาล)
ตามมาด้วยผู้เขียนเกริ่นชวน ดังนี้
สักวาชวนกวีหนึ่งพี่หกน้อง/เคยท่องท้องธารสวรรค์วรรณศิลป์/คมฝีปากฝากฝีมือลือระบิล/มาเยือนถิ่นอบอุ่นนามจามจุรี/มธุรสบทกวีของสี่สาว/ยังพริ้งพราวเยี่ยงเยาว์วัยไว้ศักดิ์ศรี/หรือจะกร่อนไปตามกาลเพราะนานปี/ชายทั้งสี่ใคร่ขอท้ากล้าไหมเอย (บทนี้ขับร้องเพลงควีนดำรัส)
คุณสายพร แจ่มขำ และคุณดวงใจ รวิปรีชา ช่วยกันตอบเกริ่นว่า
สักวาฟังชายวัยทองแท้/ชวนเผยแพร่แง่คิดมิตรภาษา/แม้จะมีความรู้งูงูปลาปลา/ก็ไม่กล้าบ่ายเบี่ยงเลี่ยงไมตรี/รับเชิญเล่นสักวามาโดยด่วน/หลบขบวน มอบ ต่างต่างกลางวิถี/ทิ้งวิกฤติการเมืองเรื่องไม่ดี/อนุรักษ์ภาษาศรีวันนี้เอย (ขับร้องเพลงอัปสรสำอาง)
แล้วคุณสายพร ในฐานะข้าราชการที่เพิ่งเกษียณ ก็แสดงความรู้สึกว่า
สักวาข้าราชการบำนาญใหม่/เข้ากระทรวงทีไรให้ขัดเขิน/ฟังภาษาแล้วไม่รู้ขู่หรือเชิญ/คงประเมินเราเท่ากับคนรับใช้/ภาษานายหลายระดับนับไม่ถ้วน/มีนุ่มนวลมีกระด้างต่างนิสัย/ฉันอ่อนแอนักหนาภาษาไทย/สุดจะทำวิจัยหลีกภัยเอย (บอกใบ้ให้รู้ว่าการแสดงอยู่ในยุคใด บทนี้ขับร้องเพลงจระเข้ขวางคลอง)
ถ้าเป็นนักธุรกิจ คุณทวีสุข ทองถาวร จะใช้ภาษาอย่างไร
สักวาวาทะนักธุรกิจ/ต้องฟุตฟิตฟอไฟไปตามเรื่อง/จึงเหมือนพูดภาษาไทยไม่ค่อยเปลือง/ทั้งนี้เนื่องจากการค้าเป็นสากล/แต่ใช่ลืมคุณค่าภาษาแม่/เพราะต้องแปลจากคำไทยใช้ทุกหน/แม้จะพูดบางครั้งฝรั่งปน/แต่ว่าต้นแบบได้จากไทยเอย (ช่างมองโลกในแง่ดีนี่กระไร บทนี้ใช้เพลงมาร์ชชิงทูจอร์เจีย เข้าบรรยากาศได้ดี)
ด้าน มรว. อรฉัตร ซองทอง ในฐานะประชาชนทั่วไป เธอรู้สึกอย่างไร
สักวาประชาชนคนยุคใหม่/ไม่ใส่ใจอนุรักษ์ศักดิ์ภาษา/ศัพท์สแลงแผลงออกนอกตำรา/ทำลายค่าภาษาไทยให้ยับเยิน/ทั้ง กับ แก่ แต่ ต่อ ก็ใช้ กับ/ไม่ยอมรับยอมรู้ดูขัดเขิน/มอบให้กับ ยินดีกับ สับสนเกิน/จะสรรเสริญชนยุคใหม่อย่างไรเอย (บทนี้ขับร้องเพลงสาลิกาแก้ว)
ในฐานะที่เคยทำงานหนังสือพิมพ์มาก่อน คุณประสพโชค เตือนสื่อว่า
สักวาสื่อมวลชนเป็นต้นสื่อ/จะเขียนหนังสือหรือโฆษกสาธกภาษา/อย่าชี้บ่งส่งคำนอกตำรา/เปิดพจนานุกรมบ้างตัวอย่างงาน/อย่าใช้ผิดสะกดการันต์เสียงวรรณยุกต์/ศัพท์สแลงอย่าแฝงมุกมาสืบสาน/เรามีภาษาของเราเองแต่เพรงกาล/ควรสื่อให้ลูกหลานตามเยี่ยงเอย (ขับร้องเพลงโยสะลัมเข้ากับคำเตือนรุ่นพี่นี้ดี)
สมมติว่าเป็นนักร้องนักแสดง คุณดวงใจ รวิปรีชา จะมีทัศนะอย่างไร
สักวาเป็นนักร้องต้องร้องชัด/นักแสดงต้องเจนจัดถนัดภาษา/ร้องหรือเล่นความเป็นไทยไม่ขัดตา/จำนรรจาขอบอกออกเสียงดี/เป็นตัวอย่างเยาวชนคนรุ่นใหม่/สร้างกระแสสำนึกไทยไว้ศักดิ์ศรี/อย่ามัวแต่ตะลึงตึงตึงถึงพรุ่งนี้/จะไม่มีภาษาไทยสายเกินเอย (ขับร้องด้วยเพลงไทยน้อย เข้าบรรยากาศมาก)
เกษียณมาตั้งนาน คุณผ่องพรรณ สิงหเสนี ยังได้รับบทนักศึกษาว่า
สักวารับบทหนักนักศึกษา/จะพูดจาพาทีมีเหตุผล/ใช้ภาษาให้ไพเราะเหมาะกับตน/ไม่คิดค้นศัพท์สแลงแผลงตามใจ/เช่นวัยจ๊าบขาโจ๋โม้สะบัด/ออกเสียงชัดคำควบกล้ำทำให้ได้/เราคนไทยควรรู้ค่าภาษาไทย/รักษาไว้ให้หมดจดงดงามเอย (บทที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงปัจจุบันนี้ ครูสุดจิตต์ เลยใส่เพลงสุโขทัย ให้เสียเลย)
ในฐานะเป็นอาจารย์มาจนเกษียน คุณเอนก แจ่มขำ ต้องรับบทอาจารย์
สักวาเป็นอาจารย์ทำงานหนัก/อนุรักษ์ภาษาไทยใช่แค่สอน/ศิษย์จะดีจะร้ายคล้ายวงจร/ภาพสะท้อนที่ได้รับจะกลับมา/ต้องพูดไทยให้ชัดหัดควบกล้ำ/อย่าใช้คำวิปริตผิดภาษา/เป็นอาจารย์อย่าให้ใครตัดอา (ฮา)/เหลือคำว่า จานครับจาน หน้าม้านเอย (บทชวนสนุกอย่างนี้ ขับร้องด้วยเพลงแต่ช้าแต่ก็สนุกสนานเข้ากันดี)
ในฐานะเคยเป็นนักการเมืองจำเป็น ผู้เขียนถูกกำหนดให้ว่าบทนักการเมือง
สักวานักการเมืองเรืองอำนาจ/ให้สัมภาษณ์ขาดลิง-เรือเจือควบ-กล้ำ/เรียก ท่านนี่ ท่านนั่น กันประจำ/วัฒนธรรมทางสภาน่าห่วงจัง/บ้างก็แฉกันและกันท่าน ตัวดูด/บ้างก็ปูด ตกเขียว เสียวสันหลัง/น่าเป็นห่วงเยาวชนคนที่ฟัง/เบื่อเลือกตั้งเพราะภาษาสภาเอย (ไม่รู้เกี่ยวกันไหม ? บทนี้ขับร้องเพลงแขกสุ่ม)
แล้วก็ถึงบทลา ซึ่งครูขับร้องทำนอง เต่ากินผักบุ้งได้ไพเราะยิ่ง
(ทวีสุข ทองถาวร) สักวาเวลาหมดกำหนดจาก/จึงขอฝากภาษาไทยเอาไว้ด้วย/รินน้ำใจใส่วลีที่รื่นรวย/ขอให้ช่วยอนุรักษ์อักษรา
(สร้อย) ดอกเอ๋ยดอกเฟื่องฟ้า เอกราชทางภาษา เป็นศรีสง่าของไทยเอย
เจรจาภาษาไทย ให้ชัดถ้อยชัดคำ รักษาวัฒนธรรม ยึดไว้ประจำใจเอย
(มรว. อรฉัตร ซองทอง) จำลาไกลแต่ไม่ลาภาษาศาสตร์/ภาษาไทยแห่งชาติคงคุณค่า/ฝากผู้ฟังผู้รักสักวา/ช่วยรักษาภาษาไทยไว้ด้วยเอย
(สร้อย) ดอกเอ๋ยเจ้าดอกจามจุรี ภาษาไทยสมัยนี้ค่อนข้างมีวิบัติเอย
ขอคนไทยใส่ใจสักนิด ใช้ความคิดก่อนพูดจา อนุรักษ์อักษรา รักภาษาไทยเราเอย"
ABOUT THE AUTHOR
ป
ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์