รู้ไว้ใช่ว่า
บรรทุกของใหญ่ ระวัง !...
เวลาที่เราไปไหนมาไหน สิ่งหนึ่งที่เคยเห็นอยู่อย่างหนึ่งก็คือ รถบรรทุกขนเครื่องจักร เครื่องไม้เครื่องมือขนาดใหญ่โตมโหฬาร เทิ่งๆ ไปตามถนน ถ้าเราจำเป็นต้องเข้าไปใกล้ ย่อมจะเกิดความหวาดเสียว กลัวจะโดนแจคพอทโดยไม่ได้ส่งชิ้นส่วนชิงโชค และเคยเกิดขึ้นเสมอ ทำให้ผู้ที่เคราะห์ร้ายพลอยซวยไปด้วย
งานนี้ก็ทำนองเดียวกัน จึงมีคดีให้ศาลต้องออกเหงื่อด้วยความเมื่อยล้าตามสมควร เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อ บริษัท ถนัดขนส่งเหลือเกิน จำกัด ได้งานใหญ่ มีผู้ตกลงว่าจ้างให้ขนเครื่องจักรผลิตเยื่อกระดาษจากท่าเรือ ไปส่งต่างจังหวัด ใช้รถบรรทุกหลายคัน บริษัทจะเป็น ไทเกอร์ สลีพ อีท เสือนอนรับประทานหรือเปล่าไม่รู้ จึงไปว่าจ้าง หจก. แคล้วคลาดขนส่ง อีกต่อหนึ่งในวงเงินตั้ง 1,800,000 บาท ดำเนินการขนส่งให้
ถึงเวลาคนของบริษัทถนัดขนส่งเหลือเกิน นั่นแหละ เลือกรถที่ใช้บรรทุกเครื่องจักร แล้วดันไปเลือกรถบรรทุกที่ไม่สมดุลกับเครื่องจักร หลังจากนั้นรถบรรทุก 10 คันก็เคลื่อนขบวนไปยังเป้าหมายมีรถตำรวจทางหลวงช่วยนำทาง
ยังไงไม่รู้ รถในขบวนเกิดเบรคกะทันหัน ผลที่ตามมา คือ โซ่ที่รั้งเครื่องจักรบนรถบรรทุกรวม 4 คัน ขาดหลุด เครื่องจักรเลื่อนไหลและถ่วงน้ำหนักจนรถทั้ง 4 คันพลิกคว่ำ เครื่องจักรเสียหายตามคุณระเบียบ ผู้ที่รับหน้าเสื่อด่านแรก คือ บริษัท ประกันโอมเพี้ยงเฮง จำกัด ซึ่งรับประกันงานนี้ต้องควักสตางค์จ่ายค่าเสียหายให้เจ้าของเครื่องจักรไปเกือบ 1,500,000 บาท
ต่อจากนั้นบริษัทประกันที่ถนัดเรื่องไสยศาสตร์เหมือนกันต้องค้าความ ไล่เบี้ยหาคนมาจ่ายสตางค์แทน ยื่นฟ้องคนขับรถบรรทุกทั้ง 4 คัน กับ หจก. แคล้วคลาดขนส่ง เถ้าแก่ของโชเฟอร์ทั้งห้า ให้ร่วมกันรับผิด ในคำฟ้องแจกแจงไว้ให้รับผิดในฐานะผู้รับขน ไม่ได้บรรยายข้อหาเรื่องละเมิดเอาไว้ซะด้วย
จำเลยเกือบทั้งหมดสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง อ้างว่าทำดีที่สุดแล้ว เป็นเหตุสุดวิสัย เป็นความผิดของผู้ว่าจ้างที่ไม่แจ้งถึงน้ำหนักและขนาดของสินค้าที่แท้จริง ขอให้ยกฟ้อง ยกเว้นโชเฟอร์คนหนึ่งนอนอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ทำอะไร ปรากฏว่าจำเลยพากันได้เฮ เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว ตัดสินยกฟ้อง ท่านเห็นว่าสาเหตุเกิดจากตัวสินค้า หรือเครื่องจักรที่บรรทุก สุดวิสัยที่ผู้รับขนจะป้องกันได้
บริษัทประกันตาเหลือก รีบให้ทนายยื่นอุทธรณ์ อ้างเรื่องละเมิดขึ้นมาด้วย และจ๋อยอีกเช่นเคย เมื่อศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว เห็นว่าฟ้องให้รับผิดเรื่องรับขนส่งของ แต่มาอ้างในชั้นอุทธรณ์เป็นเรื่องละเมิด จึงไม่รับพิจารณา ยกอุทธรณ์ไปเลย เท่ากับจำเลยชนะในยกที่ 2 อีกจนได้
บริษัทประกันโอมเพี้ยงเฮง อยู่ไม่ได้ ยังไงต้องสู้จนถึงที่สุด จะมาแพ้แบบไม่มีหูรูดไม่ได้เด็ดขาดยืนยันว่าจำเลยต้องรับผิดวันยังค่ำ ในเมื่อขนส่งชุ่ยขนาดนี้
ศาลฎีกาเพ่งดูคดีนี้จนตาลายนิดๆ แล้วชี้ขาดออกมาอย่างแม่นยำว่า
เจ้าของเครื่องจักรไม่ได้ปิดบังขนาดและน้ำหนักของเครื่องจักร คนของบริษัทถนัดขนส่งเหลือเกิน ซึ่งเป็นผู้รับจ้าง เป็นคนชี้นิ้วเลือกรถบรรทุกเอง จึงโยนขี้ปัดความรับผิดให้เจ้าของเครื่องจักรไม่ได้หรอก อีกทั้งบริษัทถนัดขนส่งเหลือเกิน และ หจก. แคล้วคลาดขนส่ง ผู้รับช่วงในการขนส่ง ต่างมีอาชีพรับขน ศาลฎีกาชี้นิ้วว่าพวกนายต้องมีความรู้ความชำนาญเรื่องการขนส่งเป็นอย่างดี
การที่พวกนายทะลึ่งเอารถขนาดเล็ก ไม่สมดุลกับขนาดของเครื่องจักรมาขนเครื่องจักร จนเกิดเรื่องขึ้น รถพลิกคว่ำขมำหงายตั้ง 4 คัน เครื่องจักรของเขาตกหล่นได้รับความเสียหาย จะมามั่วนิ่มอ้างว่าเป็นเหตุสุดวิสัย อ้างว่ารถเกิดการเฉี่ยวชนไม่ได้ มันฟังไม่ขึ้นหรอก
แต่ก็อย่างว่า บริษัทประกันซึ่งมีสิทธิ์ฟ้องไล่บี้หาผู้รับผิด ตั้งฟ้องมาแต่ต้นให้จำเลยพากันรับผิดเรื่องการขนส่ง ไม่ได้อ้างเอ่ยถึงเรื่องละเมิดมาแต่แรก แล้วมาโมเมอ้างในชั้นอุทธรณ์ การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับพิจารณาเอาผิดเหล่าโชเฟอร์ทั้งหลาย นั้นถูกต้องด้วยประการทั้งปวง
ส่วน หจก. แคล้วคลาดขนส่ง นั้นไม่รอด เพราะบริษัทประกันผู้เป็นโจทก์ยันไว้ให้รับผิดเรื่องขนส่งอยู่แล้ว แต่ศาลฎีกามองว่า งานนี้มีผู้รับขนหลายราย ไม่ใช่แต่เฉพาะ หจก. แคล้วคลาดขนส่ง มีบริษัทถนัดขนส่งเหลือเกินอยู่ด้วย บริษัทถนัดขนส่งเหลือเกินมีส่วนผิดอยู่ด้วยในการเลือกรถสำหรับขนส่งแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ทั้ง 2 เจ้าต้องรับผิดตามส่วนเท่าๆ กัน
เมื่อบริษัทประกันคิดยังไงไม่รู้ เชคบิลล์ฟ้อง หจก. แคล้วคลาดขนส่ง เจ้าเดียว ไม่ยักฟ้องมาทั้ง 2 เจ้า ยังงี้แล้วศาลฎีกาจะไปบังคับให้ หจก. แคล้วคลาดขนส่ง จ่ายค่าเสียหายทั้งหมดไม่ได้หรอก
ศาลฎีกาจึงพิพากษาแก้ ให้ หจก. แคล้วคลาดขนส่ง รับผิดค่าเสียหายครึ่งหนึ่งที่ฟ้องเข้ามาคือ 7 แสนกว่าบาท พร้อมดอกเบี้ย
ครับ การขนส่งในบ้านเรา บางทีก็มักง่ายเหลือเกิน ทำให้เกิดเหตุด่วนเหตุร้ายอยู่เสมอ ผู้ที่ซวยพลอยล้มตายลงไปด้วยทรัพย์สินเขาเสียหายก็มี
สำหรับคดีนี้ บริษัทประกันออกจะเป๋ๆ ยังไงชอบกลในการดำเนินคดี เกือบจะเอาอะไรจากใครไม่ได้เลยซะด้วยซ้ำ
เวลาอยู่บนท้องถนน เห็นรถบรรทุกของใหญ่ของหนัก ผมคนหนึ่งละที่ต้องเหลียวหน้าเหลียวหลังระวังตัวไว้ก่อน ไม่อยากเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นนักการเมืองไทย ที่ส่วนใหญ่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวายขายปลาช่อนไงละเพ่
จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6632/2548
ABOUT THE AUTHOR
ณ
ณรงค์ นิติจันทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2551
คอลัมน์ Online : รู้ไว้ใช่ว่า