เมื่อพูดถึงการไปดำน้ำที่พัทยา นักดำน้ำส่วนใหญ่จะทำหน้า “ยี้” และพูดว่าไม่เห็นมีอะไร นอกจากพื้นทราย น้ำก็ขุ่น แต่จริงๆ แล้วการดำน้ำที่อ่าวเกาะสากของพัทยานั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าดู ในระดับความลึกไม่มาก แค่ประมาณ 9-12 เมตร ซึ่งเป็นพื้นทราย และมีกองปะการังเล็กๆ คล้ายๆ กองหินก้อนเดียว ที่พื้นทรายนั้นเราได้พบกับปลาซีมอธ (SEA MOTH) ดังในภาพที่มีปีกกับปากแหลมๆ ยื่นออกไปหลายตัวทีเดียว นอกจากนั้นเรายังได้พบ ไพพ์ ฟิช (PIPE FISH) และลูกปลา ไฟล์ ฟิช (FILE FISH) ที่น่ารักหลบอยู่ตามก้อนปะการังเล็กๆ ที่อยู่กลางทราย และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นปูแต่งตัวมากมาย แต่ถ้าไม่รู้จักสังเกตก็จะไม่รู้ว่า นั่นคือ ปูแต่งตัว อย่างหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ได้สังเกตดูเลยก็คือ ตัวปลิงสั้นๆ ที่กางแขนออกมาจับพวกพแลงตอนกิน ดังรูปที่ถ่ายออกมา มีแขนเหมือนใบไม้กางออกนั่นเอง จุดประสงค์ที่เราไปพัทยาครั้งนี้ เพื่อถ่ายรูปม้าน้ำมาให้ดู และเราก็สมหวังที่ได้ถ่ายรูปม้าน้ำตัวเล็ก และตัวใหญ่ถึงกว่า 5 ตัว สังเกตได้ว่าเวลาที่เราถ่าย ม้าน้ำจะขี้อายไม่ยอมมองกล้องเลย เราต้องหันตัวไปหามันตลอดเวลา หมุนกันอยู่อย่างนั้นจนเวียนศีรษะ ที่พัทยานั้นมีม้าน้ำอยู่หลายจุด คือ ที่อ่าวเกาะสาก ที่หาดทรายนวล และ ที่อ่าวเกาะไผ่ ถ้าอยากจะเจอมันจะต้องไปดูที่หอยเม่นหนามทู่ ซึ่งมีตะกอนจับเขรอะไปหมด จะเห็นม้าน้ำเกาะอยู่ระหว่างหนามทู่ๆ นั้น และเมื่อตัวใหญ่ขึ้นกว่าหนามของหอยเม่น มันก็จะอยู่ตามพื้นทราย หรือเกาะอยู่กับปะการัง ที่เรียกว่า ไฮดรอย ที่ม้าน้ำเกาะอยู่ตามหนามของหอยเม่นนั้นเป็นการพรางตัวเอง ถ้าเราไม่สังเกตก็แทบจะไม่เห็นเลย แต่เมื่อโตขึ้นจะเป็นที่สังเกตได้ง่าย ก็เลยเปลี่ยนไปเกาะตามไฮดรอย ซึ่งเป็นปะการังมีพิษร้ายแรง ถ้าเราเผลอไปโดนมันเข้าก็จะเจ็บปวดแสบร้อน นี่คือธรรมชาติของม้าน้ำที่พัทยา นักดำน้ำบางคนชอบไปดำน้ำที่สิมิลัน ถามว่าเจอม้าน้ำบางไหม ก็บอกว่าเจอเพียง 2-3 ตัวจากการดำน้ำหลายวันทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าอยากดูม้าน้ำจริงๆ ต้องไปพัทยา