รุ่นนี้พอมีเหลือ
ผู้ชายนี่ครับ !
ต่อให้โลกมีโลกาภิวัฒน์ไปข้างหน้าอีกสักเท่าไร ปัญหาโลกแตกของโลกที่เกี่ยวพันถึงเรื่องลามก และซีดีหนังเอกซ์ ก็คงไม่มีวันจบสิ้น
ปัญหานี้เป็นปัญหาที่มาเคาะทำเนียบรัฐบาลทุกรัฐบาล ไม่มีวันหลงลืมหรือพลาดในการมาเยือน
เรื่องลามก หรือซีดีหนังเอกซ์ เกิดจากผู้ชายและผู้หญิงประกอบกิจกรรมขึ้น ทั้งเป็นการส่วนตัวและเพื่อส่วนรวม
และอันที่จริงในส่วนตัวแล้วก็ไม่มีปัญหา นอกจากลืมปิดประตูห้องหรือลืมปิดหน้าต่างจนข้างบ้านมองเห็นโดยบังเอิญ แต่โลกวันนี้เปลี่ยนไปมาก ทั้งๆ ที่เป็นการส่วนตัวกลับกลายเป็นปัญหาขึ้นมาได้ ก็เพราะเหตุโดยบังเอิญ
เป็นต้นว่า ผมได้รับคำถามบ่อยๆ "ดูแอนนาหรือยัง ?" "ดูน้องแนทหรือยัง ?"
ตัวอย่างเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว หากจะต้องกล่าวโทษใครสักคน ผมสมัครใจกล่าวโทษความก้าวหน้าในทางเทคโนโลยี ความสามารถของคอมพิวเตอร์ และวีดีโอคลิพ
ถ้าต้องซักถามลงไปอีกระดับ ทำไมจึงมีการบันทึกภาพส่วนตัวระหว่างคนสองคน สองเพศ
คำถามนี้น่าเป็นคำถามที่เชยที่สุด พอกันกับที่ถามว่าเกิดมาในชีวิตของความเป็นผู้ชายเคยดูหนังเอกซ์หรือไม่ ? เพราะฉะนั้น เป็นเรื่องปกติของภาวะทางจิตที่ผู้ชายกับผู้หญิงจะทำข้อตกลงกันได้ว่าเรามาบันทึกพฤติกรรมระหว่างสองเรากันเถอะ ไม่ใช่เรื่องปัญหาโรคจิตแต่ประการใด
"TELL ME, LET'S TAPE OUR BEAUTIFUL SEX." เขาอาจบอกหล่อน หรืออีกนัยแห่งประโยคนี้ก็คือฝ่ายชายต้องการคำอนุญาตจากฝ่ายหญิง
เรื่องเล่าขานเกี่ยวกับการบันทึกภาพแบบนี้ได้ยินได้ฟังกันมามาก ทั้งบันทึกภาพแบบรู้ตัวระหว่างชายกับหญิง และแบบลอบบันทึก เช่น ซุกซ่อนกล้องไว้กับเครื่องปรับอากาศ ตั้งเวลาทำงานพร้อมกับการทำงานของเครื่องปรับอากาศ
งานแบบนี้ได้บอกแล้วว่าเป็นงานส่วนตัว เก็บไว้ในคลังภาพส่วนตัว ไม่มีเจตนารมณ์เพื่อแจกจ่ายหรือจำหน่ายหากำไรไม่เสียภาษี แต่งานนี้ชอบหลุดออกไปได้ราวกับปาฏิหาริย์ ทำให้เกิดเป็นปัญหาเถียงกันว่าโพรดิวเซอร์ ต้องการสร้างงานชิ้นนี้ออกสู่สาธารณะหรือเปล่า !
และใครก็ตามที่เป็นเจ้าของภาพหรือเจ้าของเทปเอกซ์ ย่อมต้องบอกเป็นเสียงเดียวว่าทำไว้เพื่อดูกันเอง ซึ่งเป็นคำที่ผมเชื่อเป็นคนแรก
แต่โลกวันนี้เดินเร็วกว่าอินเตอร์เนท เรื่องไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อและลบหลู่ไม่ได้
เพราะอาจมีคำถามต่อไปว่า ความไม่เดียงสานั้น เป็นการจงใจปั้นแต่งขึ้นเพื่อให้เทปเอกซ์ มีคุณค่าเหนือชั้นกว่าเทปเอกซ์ทั่วไป เปรียบเทียบหนังเอกซ์ทั่วไปกับเทปเอกซ์ลับ ในด้านการให้ความรู้สึกผมเชื่อว่าเทปลับกินดิบกว่าหนังเอกซ์ทั่วไป และเชื่ออีกว่าไม่เพียงผู้ชายอย่างผมดูแล้วรู้สึกดีเพียงเพศเดียว แม้ผู้หญิงก็เถอะย่อมเกิดความรู้สึกแตกต่างจากการได้ดูหนังเอกซ์
ทำไมคนเราจึงต้องดูหนังเอกซ์ ? ทำไมต้องมีซีดีหนังเอกซ์ หรือดีวีดีเอกซ์ ? ซึ่งวิธีตอบคำถามง่ายที่สุดก็คือ รีบจับมันยัดไปอีกคำถามหนึ่งโดยทันที
"ทำไมโลกนี้มีคำว่า เอกซ์ ?"
แต่หากถามว่า
"ลามกคืออะไรครับ ?"
คำถามนี้ย่อมเป็นปัญหาใหญ่และเป็นปัญหาโลกแตก ยิ่งตอบมากก็ยิ่งสร้างความแตกแยก ยิ่งสร้างความขัดแย้งในทางความคิด ดีไม่ดีผู้ชายดีๆ อย่างเราก็อาจถูกสังคมตราหน้าว่า เป็นผู้ชายลามกหรือ ลามกจกเปรต
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พศ. 2542 ว่าไว้ดังนี้
"ลามก เป็นคำวิเศษณ์ (เป็นทั้งคุณศัพท์และกิริยาวิเศษณ์) หมายถึง หยาบช้าต่ำทราม, หยาบโลน,อันเป็นที่น่ารังเกียจของคนดีมีศีลธรรม เช่น หนังสือลามก, พูดลามก, ทำลามก" และบันทึกว่ารากศัพท์ของคำนี้มาจากคำบาลี
ส่วนมากคนที่ถามความหมายของคำว่า "ลามก" คงไม่ใช่ผู้ชายประเภท "เฒ่าหัวงู" คงเป็นเด็กหนุ่มๆรุ่นกะทงที่ยังไม่หลงทาง และความอยากรู้ของเด็กๆ ก็เป็นเพราะมาตราหนึ่งในประมวลกฎหมายอาญาคือ มาตรา 267 (1) มีประโยคที่บัญญัติว่า
"ซึ่งเอกสารภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่ายภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันเป็นลามก"
ความหมายของคำว่า "ลามก" ระหว่างผู้ชายรุ่นข้ามรุ่นด้วยกันจึงเพี้ยนกันไป โดยรุ่นแก่ๆ อย่างเราก็คงเข้าใจว่าลามกคืออย่างไร แต่รุ่นหนุ่มอาจคิดบริสุทธิ์กว่าเราก็เป็นได้
เด็กเหล่านั้นอาจนึกไม่ถึงว่ามันคือความหยาบช้าต่ำทราม หรือหยาบโลน พวกเขาอาจคิดถึงความหมายของความหยาบช้าต่ำทราม ความหยาบโลกอันเป็นที่น่ารังเกียจ น่าจะได้แก่ บรรดาภาพ หรือการโฆษณา เกี่ยวกับการรบราฆ่าฟัน เกี่ยวกับการทำร้ายระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เช่น ผลจากการระเบิดทำให้ร่างกายฉีกขาดกระจายเลือดสาดไปทั่วบริเวณ หรือชิ้นส่วนของร่างกายที่ให้ภาพแสนทุเรศ
หรือเป็นภาพของภูติผีปีศาจ มีจริงหรือไม่มีจริงก็แล้วแต่หรือเป็นภาพน่าเกลียดน่ากลัวขยะแขยงผิดมนุษย์
แต่สำหรับภาพเปลือยของผู้หญิง หรือภาพแสดงพฤติกรรมทางเพศ บางทีเด็กๆ อาจมองไปในแง่ของความสวยงาม เป็นความงามของธรรมชาติ ดูยังไงก็ไม่เกี่ยวกับคำว่า "ลามก"
ความทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นความตอแหลจากผู้ชายอย่างเรา กาลครั้งหนึ่งผมเคยไปเมืองผู้ดีและได้ไปดูละครที่พวกเขาชอบแสดงกันยืดเยื้อนานเป็นปีๆ
การแสดงที่ผมได้มีโอกาสเข้าไปนั่งดูนั้น เป็นเหมือนรีวิวสั้นๆ หลายชุด โดยทุกชุดเป็นการแสดงของผู้แสดงที่เปลือยกายทั้งสิ้น ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง
ขึ้นต้นฉากแรกมาผมก็สะอึกนิ่งไปกับเก้าอี้แล้ว เขาจัดผู้ชายสูงๆ ต่ำๆ มาเรียงหน้ากระดานแล้วก็เล่นซอ..."ซอ" ในที่นี้หมายถึง ซอสากลที่ทุกคนทั้งโลกสามารถเล่นได้ ผู้ชายรุ่นผมเรียกซอนี้ว่า "ซอกะดั่น"
พวกเขาเล่นซอเป็นบทเพลง มีสูงต่ำ ทำให้ผมมองแล้วนึกถึงการเล่นดนตรีพื้นเมืองชนิดหนึ่งคือการเล่นอังกะลุง
และในฉากหนึ่งซึ่งผมจำได้จนถึงวันนี้มีชื่อ "ONE ON ONE" เป็นการแสดงระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงแสดงพฤติกรรมปกติทั่วไปของผู้ชายและผู้หญิงบนโลกนี้ แต่เป็นการแสดงแบบจินตลีลาใช้ความสวยงามเป็นหลัก พลิ้วกายระหว่างกันอย่างงดงาม กลิ้งกายไปมาตามจังหวะบทเพลงประกอบฉาก
ผมยืนยันได้เลยว่า ดูเท่าไรก็ไม่เกิดความรู้สึกทางเพศ แต่กลับเห็นเป็นภาพที่วิจิตรงดงาม สวยจนลืมไปว่านี่มันเป็นการแสดงสงครามทางเพศอันโลดโผนโจนทะยาน เพราะมันกลิ้งเกลือกไปกับพื้นเวที
ตรงกับคำว่า "หยาบ" ทั้งๆ ที่พื้นเวทีก็เรียบดี แต่ไม่ตรงกับคำว่า "ทราม" เพราะสวย
ก็เลยเป็นเรื่องยากครับที่จะตัดสินว่า อะไรคือ "ลามก" และความทั้งหมดที่ผมนำมาเล่าขานนี้ มีความแตกต่างกับมนุษย์ประเภทที่สารภาพกับศาลว่า "ผมข่มขืนก็เพราะสื่อลามก"
ซึ่งปัญหานี้เราก็ต้องยอมรับว่า มันยังมีอยู่แน่นอน เพราะสื่อลามกยังไม่มีทางสูญพันธุ์ไปจากโลก
ผมเองในชีวิตก็เคยผ่านสื่อลามกมาจนนับไม่ถ้วน ก็ต้องยอมรับว่า หลายครั้งได้เห็นแล้วก็เป็นความหยาบช้าต่ำทรามจริง หาความสวยงามไม่ได้เลยสักนิดเดียว เพราะสัจธรรมของโลกสื่อลามกนั้นมันมีสารพัดสารพันทั้งน่าเกลียดและน่าดู
แล้วแต่จะตรงสเปคใครเท่านั้น !
ABOUT THE AUTHOR
ไ
ไก่อ่อน
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : รุ่นนี้พอมีเหลือ