รุ่นนี้พอมีเหลือ
รัสปูติน
ผมคงไม่ได้เป็นนักเขียนคนแรกที่เขียนถึงผู้ชายคนหนึ่งของโลกแห่งอดีต ผู้ชายคนนี้เป็นชาวรัสเซีย ชื่อของเขา กเรโกรี เอฟีโมวิช รัสปูติน (GREGORY EFIMOVICH RASPUTIN) และก็คงไม่ได้เป็นคนสุดท้ายที่จะเขียนถึง
เรื่องราวของรัสปูตินได้รับการบอกเล่ามากมายหลายภาษา นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และในด้านพรรณนาโวหาร ข้อความที่บันทึกลงไปในประวัติศาสตร์ก็ดี ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้เขียน ใครเป็นผู้เล่าขาน และเป็นการยากที่จะพิสูจน์ว่าเรื่องราวของเขาเป็นความจริงหรือความเท็จ
ที่รู้ๆ กันก็เป็นช่วงเวลา 40 ปีแรกในชีวิตของรัสปูติน และเป็นความรู้เพียงเล็กๆ น้อยๆ คือรู้กันแต่เพียงว่ารัสปูตินเป็นหมอวิเศษ รักษาโรคได้อย่างเป็นที่อัศจรรย์ กายภาพของรัสปูตินนั้นยากที่จะแยกออกได้ชัดเจนว่าเป็นใครกันแน่ ระหว่างเป็นนักบวชผู้เคร่งในศีล หรือเป็นจอมมายา มีมายาการเหนือกว่าเพื่อนมนุษย์โดยไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา
ลำพังวันเดือนปีเกิดของรัสปูตินก็ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดในปีใดแน่ 1864 หรือ 1869 บ้านเกิดของเขาคือตำบลเล็กๆ ในไซบีเรีย ริมฝั่งแม่น้ำทูรา ไม่ไกลจากเทือกเขาอูราล สภาพท้องถิ่นเป็นชนบทห่างไกลความเจริญพอสมควร มีถนนสายเล็กๆ แต่เต็มไปด้วยบ้านไม้หลังใหญ่โตขนาดสองชั้นและชั้นเดียว เป็นไปตามฐานะของแต่ละครอบครัว
ศูนย์กลางรวมจิตใจของผู้คนในตำบลนี้คือ วัดใหญ่กลางเมืองมีโบสถ์หลังคาเป็นรูปโดม
รัสปูตินน่าจะเกิดวันที่ 10 มกราคม 1869 ครอบครัวของเขาเป็นชาวชนบทเต็มร้อย ชีวิตวัยรุ่นของเขาเป็นเด็กเกเรชอบท้าทายอำนาจรัฐ ถ้าไปเกิดแถบสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็มีหวังเข้าขบวนการท้าทายอำนาจรัฐอย่างสบายๆ นอกจากนี้เขาก็ยังใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า เมาหยำเป ชอบลักเล็กขโมยน้อย และเปลืองชีวิตความเป็นหนุ่มกับผู้หญิงไม่เลือกหน้า
เมื่อชีวิตเข้าสู่วัยสิบแปด วิถีของเขาก็เริ่มเข้าสู่โลกแห่งศาสนาออร์โทดอกซ์รัสเซีย ซึ่งรัสปูตินมีความเชื่อในนิกายหนึ่ง เธอะ สโกปส์ตี (THE SKOPSTY) เป็นนิกายที่มีความเชื่อแปลกมาก คือเชื่อว่า "เพื่อให้หลุดพ้นจากบาป ต้องทำบาป" อันเป็นความเชื่อที่ผู้ชายอย่างรัสปูตินงมงายอย่างยิ่ง
ในที่สุด รัสปูตินก็กลายเป็นนักบวช แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแสดงความเป็นนักบวชผู้เคร่งในศีลในธรรมมุ่งหน้าทำบาปเพื่อชำระบาปอย่างสนุกสนาน
ตอนที่รัสปูตินอายุได้ 19 ปี เขาก็แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งมีลูกด้วยกันสามคน คือ ดีมิตรี, มาเรียและวาร์วารา แต่การมีลูกมีเมียไม่ได้เป็นอุปสรรควิถีชีวิตเสเพลของเขาเลย เขาชอบเดินทางไปยังสถานศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งรวมทั้งเยรูซาเลม ถึงตอนนี้กิตติศัพท์ของรัสปูตินก็กลายเป็นว่าเขามีความสามารถรักษาโรคทุกโรคและทำนายอนาคตได้อย่างแม่นยำ
เป็นทั้งหมอยาและหมอดู แถมยังมีเวลาปลีกย่อยเป็นหมอเสน่ห์อีกต่างหาก
ชื่อเสียงของรัสปูตินเริ่มแพร่หลาย เดินทางไปได้ไกลหลายหลักไมล์ ผู้คนต่างดินแดนพากันเดินทางรอนแรมเข้ามาหารัสปูตินเพื่อรับการบำบัด ค่ารักษาบางทีก็เป็นอาหาร บางทีก็เป็นเงิน
รัสปูตินก็ไม่ว่ากระไร เพราะไม่เคยออกใบเสร็จ ไม่รู้จักภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องฟอกเงินหนี ปปง.
รัสปูตินไม่ใช่ผู้คงแก่เรียน ถ้าเป็นคนไทยก็รู้ภาษาแค่ กอ ขอ จะให้ถึงระดับไฮสคูลมหาวิทยาลัยก็คงไม่ได้ ลักษณะของรัสปูตินได้รับการพรรณนาจากนักเขียนคนหนึ่งว่า เป็นนักบวช มีอำนาจลี้ลับเป็นผู้นำทางศาสนาอันชาญฉลาดหลักแหลม เป็นศิลปินเดี่ยวที่ไม่เหมือนใคร อุทิศชีวิตให้กับการพัฒนาพรสวรรค์ของเขา
พรสวรรค์วิเศษข้อหนึ่งของรัสปูตินก็คือ ทุกคนยอมรับความสามารถอันยอดเยี่ยมเฉพาะตัวที่ทำให้ผู้ตกทุกข์ได้ยากหลุดพ้นเป็นปลิดทิ้ง
เล่ากันว่า วันหนึ่งรัสปูตินเกิดการปรากฏของจินตภาพ เคลิ้มไปว่าได้ใกล้ชิดเข้าเฝ้าพระมารดาเจ้าซึ่งรับสั่งให้เขาเดินทางไปยังเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อไปให้การรักษาเจ้าชายน้อยอเลกซิส (ALEXIS) ซึ่งประชวรด้วยโรคกรรมพันธุ์โลหิตไหลไม่หยุดเป็นเวลานาน
ด้วยเหตุนี้ในปี 1902 รัสปูตินได้เข้าเมืองหลวงเป็นครั้งแรก ก่อนถึงเมืองหลวงเขาได้แวะพักที่เมืองคาซานริมแม่น้ำโวลกา ที่นี่เขาได้เริ่มรู้จักวัฒนธรรมของคนยุโรปและได้พักอาศัยในบ้านแบบยุโรปด้วย
รัสปูตินไม่รอช้าที่จะฉวยโอกาสตักเติมชื่อเสียงของตนเอง ทำตัวเป็นหนุ่มไฮโซเลือกเอาคนชั้นสูงมาเป็นศิษย์และก็ได้ผล
การมาถึงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสปูตินนั้น ถือว่าเป็นห้วงเวลาที่ถูกต้อง รัสเซียในสมัยนั้นผู้นำทางศานากำลังต้องการนักบวชผู้มีอำนาจ สามารถครอบงำประชาชนได้ถึงระดับนักร้องบนเวทีคอนเสิร์ท รัสปูตินเข้าทางราวกับว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้าบนสวรรค์อี-เมล์ลงมาให้แก่คนบนโลก เขาเป็นทั้งคนบ้านนอกและเป็นทั้งพระผู้วิเศษ รักษาโรคได้และทำนายอนาคตได้
แต่ก็อย่างว่าแหละครับ คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ รัสปูตินหนีสัจธรรมนี้ไปไม่พ้นศัตรูของเขาชี้ว่า รัสปูตินไม่ได้เป็นอะไรเลย เป็นแค่สวะสวมหน้ากากพระแล้วทำระยำดำบอนไปตามเรื่อง เพื่อการมีเซกซ์ การมีทรัพย์ และการมีอำนาจ
เมื่อรัสปูตินมาถึงนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เป็นสมัยที่รัสเซียปกครองโดย พระเจ้าซาร์นิโคลัส (TZAR NICHOLAS) และพระราชินีอเลกซานดรา (TZARINA ALEXANDRA) เป็นปี คศ. 1905 แต่ต้องใช้เวลาถึงสองปีรัสปูตินจึงเข้าไปในพระราชวังได้สำเร็จ
รัสปูตินได้รับหน้าที่เป็นหมอรักษาเจ้าชายอเลกซิส อาการประชวรของเจ้าชายได้รับการปกปิด เพราะพระเจ้าซาร์นิโคลัสเกรงว่าจะไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นซาร์ เป็นผู้ปกครองรัสเซีย
ชีวิตรัสปูตินช่วงนี้ถือว่าเป็น THE BEST YEARS OF HIS LIFE อาหารเช้าของเขาร่วมโต๊ะกับเพื่อนสนิท ได้เวลาประมาณสี่โมงเช้าถึงบ่ายโมงเขาก็จะออกตรวจคนไข้ ในช่วงเย็นก็จะเข้าไปในพระราชวังอเลกซานเดอร์เพื่อเก็บข้อมูล เพราะรัสเซียยามนั้นไม่มีหนังสือ 4 WHEELS ไม่มี INTERNET จำเป็นต้องฟังหูไว้หู
และในตอนนี้เอง ครอบครัวของรัสปูตินก็ย้ายตามมาอยู่ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กด้วยทั้งลูกทั้งเมีย
รัสปูตินเป็นผู้ชายที่แปลกไม่เลิก เวลาที่ลูกเมียมาอยู่ใกล้ มักมีพฤติกรรมสำส่อนกับคนทั่วไปเท่าที่คนทั่วไปจะอนุมัติยินยอม รัสปูตินเกี่ยวข้องกับครอบครัวพระเจ้าซาร์นิโคลัส และพระราชินีอเลกซานดราหลายขั้นหลายตอน ระยะเวลานี้เองข่าวลือก็สะพัดไปทั่วรัสเซียว่ารัสปูตินมีความสัมพันธ์กับใครต่อใครยุ่งเหยิงไปหมด
ความยุ่งเหยิงอันนี้ ดูเหมือนจะเกินเลยไปมากๆ จนในที่สุดแล้ว ก็ตีกลับเป็นภัยกับตัวของรัสปูตินเองเดือดร้อนถึงระดับต้องวางแผนฆ่าทิ้ง
คนสามคนคือ เจ้าชายเฟลิกซ์ ยูซูโปฟ (PRINCE FELIKS YUSUPOV) เป็นพระสวามีของหลานสาวซาร์วลาดีมีร์ มิตโรฟาโนวิช ปูริสเกวิช (VLADIMIR MITROFANOVICH PURISHKEVICH) และ กแรนด์ ดุค ดีมิตรี ปาวีโอวิช (GRAND DUKE DIMITRY PAVIOVICH) พระญาติของซาร์ รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้เชิญรัสปูตินไปที่พระตำหนักยูซูโปฟในตอนค่ำของวันที่ 30 ธันวาคม ปี 1916 เพื่อพบกับหลานสาวผู้มีสิริโฉมงดงามของพระเจ้าซาร์ คือเจ้าหญิงอีรีนา (IRINA) ผู้เป็นพระชายาของเจ้าชายเฟลิกซ์นั่นเอง
บางต้นฉบับระบุว่าเป็นวันที่ 16 ธันวาคม ปีเดียวกัน แต่จะเป็นวันใดก็ช่างเถอะ ผลปรากฏว่ารัสปูตินได้เสียชีวิตในวันนั้นเอง
ขณะรัสปูตินรอพบผู้หญิงสวยที่สุดของรัสเซีย คณะผู้วางแผนก็จัดการใส่ยาพิษลงไปในไวน์และขนมเค้ก นำมาให้รัสปูตินดื่มกิน และก็เป็นความอัศจรรย์อีกครั้งในชีวิตของหมอลามกคนนี้เพราะยาพิษนั้นไม่สามารถทำอันตรายเขาได้ เขาก็ยังประคองตัวโซเซออกมาถึงสนามหญ้าหน้าพระตำหนัก เป็นเวลาเดียวกับที่ปูริสเกวิช และปาวีโอวิชเตรียมตัวกลับ
ปูริสเกวิช ยิงรัสปูตินอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะมัดร่างของเขาถ่วงทิ้งลงในแม่น้ำเนวาเป็นเหตุอวสานแห่งชีวิตรัสปูติน
เหตุอ้างฆ่ารัสปูตินนั้น อ้างกันได้ทุกสมัยคือ "รัสปูตินเป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร"
ส่วนรัสปูตินจะมาเกิดเป็นพระที่วัดไหนกันบ้างเวลานี้ หมดปัญญาครับ
ABOUT THE AUTHOR
ไ
ไก่อ่อน
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : รุ่นนี้พอมีเหลือ