WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2004 สนาม 4

การแข่งขัน WORLD RALLY CHAMPIONSHIP ที่ประเทศนิวซีแลนด์ นับเป็นหนึ่งในรายการแข่งขันประจำปีที่มีเส้นทางยาวที่สุดในซีกโลกใต้ นักแข่งต้องเผชิญกับทางลูกรังเต็มไปด้วยฝุ่นที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็นโคลนลื่นทันที เมื่อมีฝนตกหนักลงมา   เลกแรก เพทเทร์ โซลเบร์ก (PETTER SOLBERG) โชว์ดีกรีแชมพ์เก่าข่มคู่ต่อสู้ ด้วยการทะยานรถ ซูบารุ ขึ้นนำไปก่อนในสเตจแรกระยะทาง 2.1 กิโลเมตร ขณะที่ทีม มิตซูบิชิ เริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เมื่อทั้ง คริสเตียง โซห์ลเบร์ก (KRISTIAN SOHLBERG) และ กิลเลส ปานิซซี (GILLES PANIZZI) นักขับมือดีของทีม จบการแข่งขันด้วยอันดับ 10 และ 12   และดูเหมือนว่าโชคร้ายของทีม มิตซูบิชิ จะยังไม่หมด เพราะเมื่อกำลังจะออกสตาร์ทในช่วงที่สองรถเกิดขัดข้องขึ้นมาทั้งสองคัน "ระบบอีเลคทรอนิคของรถทั้งสองคันดูเหมือนว่าจะมีปัญหาเดียวกัน" มาริโอ ฟอร์นาริส (MARIO FORNARIS) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ทีม มิตซูบิชิ กล่าวอย่างผิดหวัง "และตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกสาเหตุที่แท้จริงได้"   ทีม มิตซูบิชิ เพิ่งกลับเข้าสู่การแข่งขันฤดูกาลนี้หลังจากที่หยุดพักไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ต้องประสบปัญหาเรื่องความทนทานของรถ แลนเซอร์ เอโวลูชัน รุ่นล่าสุด จนทำให้ยังไม่สามารถจบการแข่งขันแบบมีแต้มติดมือไปได้เลย   แม้ ฮาร์ริ โรวันเปรา (HARRI ROVANPERA) และมาร์คุส โกรนโฮล์ม (MARCUS GRONHOLM) จะทำเวลาดีที่สุดในช่วงท้ายของการแข่งขันเลกแรก แต่ก็ยังไม่ดีพอที่จะแซง เพทเทร์ โซลเบร์ก ที่จบการแข่งขันในวันแรกด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 25 นาที 9.5 วินาที ขณะที่ เซบัสเตียง โลบ์ (SEBASTIEN LOEB) ผู้ที่มีคะแนนสะสมนำอยู่ในขณะนี้ ขับรถ ซีตรอง เข้าเส้นชัยทำเวลาได้เพียงอันดับห้า หลังจากที่ไปเสียเวลากับสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจอยู่หลายนาที   ในสเตจแรกของเลกที่สอง มาร์คุส โกรนโฮล์ม แก้ตัวหลังจากที่เสียเวลาไปกว่าครึ่งนาที เมื่อรถของเขาไปพลิกคว่ำในช่วงบ่ายของวันแรกได้สำเร็จ ด้วยการประเดิมชัยชนะ ด้วยเวลา 12 นาที 57.2 วินาที เร็วกว่า มาร์คโค มาร์ทิน (MARKKO MARTIN) 1.4 วินาที ขณะที่ โซลเบร์ก จบสเตจนี้เป็นอันดับสามตามหลัง โกรนโฮล์ม แค่ 2.3 วินาที ตอนนี้ โซลเบร์ก ทำเวลารวมนำ โรวันเปรา อยู่เพียง 14.2 วินาทีเท่านั้น   ด้าน ฟรองซัวส์ ดือวาล (FRANCOIS DUVAL) นักขับทีม ฟอร์ด จบเลกสองอันดับร่วงลงไปอยู่ที่ 11หลังจากรถของเขาไปยางแตกในช่วงท้าย จนต้องวิ่งด้วยกระทะล้อมาจนถึงจุดเซอร์วิส   ช่วงท้ายของเลกสอง โกรนโฮล์ม ได้ส้มหล่นอีกครั้งเมื่อคู่ปรับเก่า โซลเบร์ก พลาดท่าไปทำรถ อิมพเรซา หมุน เสียเวลาไปกว่า 17 วินาที ทำให้ขณะนี้ตำแหน่งผู้นำตกเป็นของ โกรนโฮล์ม "รถเราไปชนกับก้อนหินทำให้หมุนไปหลายตลบ เสียเวลาไปมาก แต่ยังดีที่ไม่เป็นอะไรไปมากกว่านี้" โซลเบร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่จุดเซอร์วิส   แต่ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง โกรนโฮล์ม ได้ไม่นาน เพราะในเลกสามเบรคมือซึ่งเป็นระบบไฮดรอลิค ในรถ ฟอร์ด โฟคัส เกิดติดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ทำให้เสียเวลาไป 125 วินาที ในการให้ทีมเซอร์วิศแก้ไข ส่งผลให้ โซลเบร์ก กลับขึ้นมานำหน้าและแซงเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ สร้างสถิติแชมพ์แรลลีนิวซีแลนด์ได้ติดต่อกันเป็นสมัยที่ 4   ผลการแข่งขันครั้งนี้ส่งผลให้ มาร์ทิน มีคะแนนสะสมรวมประเภทผู้ขับขึ้นมานำแซงหน้า โลบ์ ไป 1 แต้ม โดยมี 26 คะแนน และ โกรนโฮล์ม ยังคงรักษาอันดับสาม เนื่องจากเก็บคะแนนได้อีก 8 แต้ม จากการที่เข้าเส้นชัยทำเวลาเป็นอันดับ 2 ส่วนแชมพ์เก่าอย่าง โซลเบร์ก แม้จะเก็บได้ 10 คะแนนเต็มจากชัยชนะในครั้งนี้ แต่ก็เพียงพอแค่ทำให้อันดับรวมของเขาขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 เท่านั้น   ด้านคะแนนสะสมประเภททีมผู้ผลิต ฟอร์ด ยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำ หลังจากเก็บเพิ่มได้อีก 7 คะแนนจาก มาร์ทิน ส่วนอันดับสองยังคงเป็นของทีม ซีตรอง มี 38 คะแนน และอันดับสามเป็นของทีมแชมพ์เก่า เปอโฌต์ มีคะแนนรวม 33 แต้ม   [table]สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 3 สนาม ประเภททีมผู้ขับ อันดับ, ผู้ขับ, คะแนนรวม ชนะเลิศ, มาร์โค มาร์ทิน, 26 รองอันดับ 1, เซบัสเตียง โลบ์, 25 รองอันดับ 2, มาร์คุส โกรนโฮล์ม, 24 [/table] [table]สรุปผลคะแนนการแข่งขันรวม 3 สนาม ประเภททีมผู้ผลิต อันดับ, ทีม, คะแนนรวม ชนะเลิศ, ฟอร์ด, 47 รองอันดับ 1, ซีตรอง, 38 รองอันดับ 2, เปอโฌต์, 33 [/table]