พิเศษ
แดนหิมาลายันใต้ (2)
จากบุมทังที่หนาวสะท้านไปด้วยกระแสลมยามเย็น เราใช้เส้นทางเดิมย้อนกลับสู่เมืองตรงซา เป็นเวลาครึ่งวันเต็มๆ กับระยะทางเพียง 68 กม. อาจเป็นเพราะถนนที่คดเคี้ยวของเทือกเขาหิมาลัย และฤดูหนาวที่บางครั้งถนนถูกปกคลุมด้วยหิมะ ทำให้คนขับรถต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
ตรงซาเป็นเมืองประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งด้วยกษัตริย์องค์แรกของภูฐานใช้ดินแดนแห่งนี้เป็นสถานที่รวบรวมประเทศก่อนที่จะไปตั้งเมืองหลวงแห่งแรกที่ปูนากะ (PHUNAKHA) บางคนจึงกล่าวว่าหากมาภูฐานแล้วไม่ได้มาเยือนตรงซาก็เปรียบเสมือนไม่ได้มาภูฐานซองหรือสถานที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดและวัดในตัวอาคาร
เดียวกันนั้นยาวมากทอดไปตามไหล่เขา อีกทั้งยังพิเศษกว่าที่อื่นคือมีวังรวมอยู่ด้วย ภูฐานให้ฐานะของผู้ว่าราชการจังหวัดและเจ้าคณะประจำจังหวัดอยู่ในฐานะที่เท่าเทียมกัน
วันนั้นเราโชคดีได้มาทันชมงานประจำปีของซอง หรือเซซู (TSECHU) ในวันที่สองของงานประเพณีทางวัดจัดแสดงติดต่อกันสามวัน แต่สำหรับเมืองอื่นอาจถึงห้าวัน ซึ่งแต่ละซองจะมีงานประเพณีประจำเมืองแตกต่างกันไปตามปฏิทิน การแสดงและพิธีกรรมทางศาสนาจะคล้ายกันแทบทุกที่ มีทั้งการเต้นรำที่สื่อถึงตัวแทนของ
ความดีชั่ว การแสดงของพระเพื่อเทิดทูนกูรูลิมโปเช การร่ายรำของหญิงสาวในชุดประจำชาติและอื่นๆ ส่วนวันสุดท้ายจะเป็นวันทำพิธีทางศาสนาที่สำคัญ โดยมีเจ้าคณะจังหวัดซึ่งเป็นเจ้าอาวาสเป็นองค์ประธาน มีผู้ว่าและครอบครัวเป็นแขกคนสำคัญ เนื่องจากวันนั้นเป็นวันคลี่ผ้าศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า ธังกา (THANGA) ซึ่งปรากฏ
รูปของกูรูลิมโปเชอยู่ตรงกลาง ซึ่งชาวภูฐานและทิเบตนับถือกันว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่สองต่อจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เช้าวันนั้นเราเห็นชาวตรงซาทั่วทุกหนแห่งมาร่วมงานเพราะเชื่อว่าจะได้บุญ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กจะแต่งกายในชุดที่สวยที่สุด ตามรายทางเราพบเห็นคนหิ้วห่อผ้าสีแดงที่มีปิ่นโตนำมาถวายพระหรือเณรที่เป็นของตนเอง ก่อนจะเข้าสู่ภายในซอง สองข้างทางแน่นไปด้วยเทนท์และร้านแบกะดินที่ออกร้านขายของคล้ายกับงานวัดบ้านเรา เพียงแต่สินค้าและบริการเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคนี้ เช่น มีซุ้มให้ทดลองยิงธนูอันเป็นกีฬาประจำชาติ และมีซุ้มพนันเสี่ยงทายลูกเต๋า ซุ้มแจกถุงยางให้ความรู้เรื่องเอดส์และเพศสัมพันธ์ ที่ประตูทางเข้าอาคารนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะต้องแสดงใบอนุญาตจากเมืองหลวงเพื่อลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่ชาวภูฐานจะต้องห่มสไบ ซึ่งของผู้ชายจะคล้ายผ้าผืนใหญ่สีขาวคลุมไหล่ผูกที่เอว
ตลอดการแสดงทุกชุดของวันที่สอง จะมีตัวตลกคอยมาแซวนักแสดง และเดินหยอกล้อคนดูเพื่อรับบริจาคเป็นการเพิ่มสีสันให้งาน ส่วนวันรุ่งขึ้นเราต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมารอดูธังกาที่สูงเท่ากับตึกสามชั้นเนื่องจากเราเป็นชาวพุทธจึงพอจะแปลความหมายของพิธีบางอย่างได้ เช่น พวกเขาถวายปัจจัยโดยการอธิษฐานแบบบ้านเรา แต่เขาจะนำเงินขึ้นแตะหน้าผากแทนการยกมือไหว้ เขามีการจุดตะเกียงน้ำมันเนยเพื่อบูชากูรูลิมโปเชพวกเขาจะใช้ผ้าแพรสีขาวถวายพระแทนดอกไม้พวงมาลัย ผู้ที่มาแสวงบุญจะก้มหัวลูบไปตามธังกาหนึ่งรอบตามเข็มนาฬิกา โดยต้องปิดจมูกตลอดเวลาเพื่อป้องกันลมหายใจที่ถือว่าไม่สะอาดไปแปดเปื้อนสิ่งที่เคารพบูชา ซึ่งในการแสดงและพิธีกรรมต่างๆ มีรายละเอียดมากมาย เราจึงหยิบยกมาเพียงบางส่วนพร้อมคำบรรยาย
Audience2 - ชาวภูฐานทุกคนจะถือว่างานประจำปีของเมืองเป็นงานที่สำคัญ ทุกคนจะมาร่วมงานเพื่อทำบุญและผลพลอยได้คือความบันเทิงจากการแสดง และเต้นรำ ที่นี่โรงหนังหรือสิ่งบันเทิงอื่นไม่มี เราจะเห็นพวกเขาแต่งตัวโดยชุดประจำชาติอย่างงดงามทั้งชายหญิง
Dance of Hero - การรำชุดนี้เป็นการรำโดยพระสงฆ์ที่มีชื่อว่า ปาจาม หรือหมายถึง การรำของวีรบุรุษจุดประสงค์ของการรำชุดนี้คือ นำผู้เชื่อถือในโลกมนุษย์สู่การปรากฏตัวของกูรูลิมโปเช
Deer Dance - การรำหลายชุดจะมีการใส่หน้ากากต่างๆ เช่น หน้ากากรูปสัตว์
Donation - การมาวัดในเทศกาลก็จะมีการทำบุญเช่นเดียวกับบ้านเรา ในขณะที่เมื่อจะขอพรโดยใช้หน้าผากแตะกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะต้องปิดปากและจมูกของตนเองเพื่อไม่ให้ความไม่สะอาดจากลมหายใจออกมาแปดเปื้อน
Lighting -ตะเกียงน้ำมันเนยเป็นที่นิยมกันมากในแถบเทือกเขาหิมาลัยที่นับถือพุทธศาสนานิกายมหายาน
Mask dance - ผู้คนจากทั่วเมืองจะมาร่วมชมการแสดง รวมทั้งผู้แสวงบุญจากเมืองอื่น ลานที่จัดแสดงนี้เป็นลานกว้างในส่วนของที่ว่าการจังหวัด
Monk_achery2 - ภายนอกงานมีซุ้มต่างๆ ที่จัดให้คนได้เล่น โดยเฉพาะธนูจะเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้ชายแม้แต่พระสงฆ์
Play card - การเล่นพนันเสี่ยงทายสูง/ต่ำก็เป็นที่นิยม แม้แต่กับผู้หญิง
Thanga - ธังกาเป็นผ้าผืนใหญ่ที่จะนำมาคลี่ออกวันสุดท้ายของงานเพื่อให้ชาวพุทธได้บูชานี่เป็นครั้งเดียวในรอบปีที่จะได้เห็นผ้าผืนนี้
Thongsa Dzong2 - ธงซาซองตั้งอยู่บนไหล่เขาที่โอบล้อมด้วยขุนเขาหิมาลัยอันยิ่งใหญ่
ABOUT THE AUTHOR
อ
อุษณีย์ กฤษณาวารินทร์
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2547
คอลัมน์ Online : พิเศษ(4wheels)