เป็นครั้งแรกที่นักแข่งจะได้สัมผัสกับทางลูกรังและหินขนาดใหญ่เกลื่อนถนนในประเทศตุรกีซึ่งจัดขึ้นเพื่อทดแทนสนามเคนยา ที่สภาพทรุดโทรมเต็มที...แต่ถนนในตุรกี กลับโหดร้ายไม่แพ้กันเพราะพายุฝนและหิมะที่ละลาย สร้างความเสียหายให้กับเส้นทางหลายสเตจทีมแข่งจึงวุ่นวายกับการเซทรถให้เหมาะสมและทนทาน ไม่ต่างจากที่เคยเซทเพื่อแข่งในเคนยา และนี่คือสังเวียนที่เป็นทางลูกรังล้วนๆ สนามแรกของปีนี้ การแข่งขันในเลกแรก ถือเป็นวันของ ฮาริ โรวันเปรา นักขับทีม เปอโฌต์เพราะเขาสามารถก้าวขึ้นมานำหัวแถวได้ หลังจากทำเวลาเร็วที่สุดในสเตจ 4 ส่วนเพื่อนร่วมทีมของเขาริชาร์ด เบิร์นส จบการแข่งขันวันนี้ที่อันดับ 6 ในขณะที่ มาร์คุส โกรนโฮล์ม นักแข่งอีกคนของทีมจบเลกนี้เป็นอันดับ 19 เนื่องจากปัญหาระบบบังคับเลี้ยว การ์โลส เซนซ์ จากทีม ซีตรอง เริ่มคุ้นเคยกับรถมากขึ้น จึงทำเวลาได้ดี จนห่างจาก โรวันเปรา อยู่เพียง20 .7 วินาที หนุ่มน้อยชาวเบลเยียม ฟรองซัวส์ ดือวาล นำ ฟอร์ด โฟคัส เข้ามาเป็นอันดับ 3ตามมาด้วย ทอมมี มาคิเนน จากทีมซูบารุ ในอันดับ 4 สถานการณ์เปลี่ยนไปเมื่อเลก 2 สิ้นสุดลง...ระบบรองรับของ เปอโฌต์ 206 ซึ่งขับโดย โรวันเปราเสียหายในสเตจ 10 เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขันอีก 3 สเตจที่เหลือ ทำให้ เซนซ์ และรถ ซีตรองเอกซ์ซารา คันแรง ขึ้นนำในที่สุด แต่ เปอโฌต์ ก็ยังมี เบิร์นส ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะขึ้นนำหัวแถวให้ได้แต่ก็ต้องพลาดท่าในเอสเอส 10 เนื่องจากรถของเขาเสียหลักและหมุน ทำให้เสียเวลาไปพอสมควรโชคดีที่ยังยึดอันดับ 2 เอาไว้ได้ ส่วน ฟรองซัวส์ ดือวาล จากทีม ฟอร์ด ยังคงรั้งอันดับ 3 ไว้เช่นเดิม ในขณะที่ คอลิน แมคเร เพื่อนร่วมทีมของ เซนซ์ ทำเวลาได้ดีขึ้น จนกระโดดจากอันดับ 7 ขึ้นมาอยู่ที่ 4ได้สำเร็จ เลก 3 ยังคงเป็น เซนซ์ ที่ยึดตำแหน่งผู้นำเอาไว้ ด้วยฝีมือการขับอันยอดเยี่ยม แถมรถของเขาก็วิ่งได้ดีจนไร้ที่ติ แม้จะถูก เบิร์นส ไล่เข้ามาใกล้ แต่ก็ยังไม่ใกล้พอที่จะแย่งอันดับ 1มาได้ ทำให้ เซนซ์ ปิดฉากศึกครั้งนี้ด้วยเวลานำ เบิร์นส อยู่ 47.9 วินาที คว้าแชมพ์ประจำสนามไปครองช่วยให้ ซีตรอง รักษาอันดับ 1 ประเภทผู้ผลิตไว้ต่อไป นอกจากนั้น คอลิน แมคเร เพื่อนร่วมทีมยังมีคะแนนสะสมเป็นอันดับ 2 ถึงจะจบการแข่งขันในอันดับ 4 ก็ตาม อีกคนที่ประสบความสำเร็จก็คือ ฟรองซัวส์ ดือวาล จากทีม ฟอร์ด ที่ทำเวลามาเป็นอันดับ 3ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด เท่าที่หนุ่มชาวเบลเยียมคนนี้ได้รับ ตั้งแต่เขาเริ่มเข้าสู่สังเวียน WRC"เป็นความรู้สึกที่เยี่ยมมาก เมื่อได้ขึ้นโพเดียมกับเขาเป็นครั้งแรก...มัลโคล์ม (ผู้จัดการทีม) บอกผมว่า เขาอยากให้ผมขับอย่างไรและผมก็ทำได้อย่างที่เขาต้องการ" แม้ว่าทีม ซีตรอง จะเป็นผู้ชนะในสนามนี้ แต่ตำแหน่งหัวแถวซึ่งเคยอยู่ในมือของ โลบ์ และ แมคเร (คะแนนสะสมเท่ากัน) เมื่อสนามที่แล้ว มาวันนี้ กลับเปลี่ยนไปอยู่ในมือของ เบิร์นส จากทีม เปอโฌต์ซึ่งขึ้นนำด้วยคะแนน 18 แต้ม ในขณะที่ทีม ซีตรอง ทั้ง แมคเร และ เซนซ์ มี 17 และ 16 แต้มตามลำดับ ส่วน โลบ์ สะสมไว้ 12 แต้ม ร่วงลงไปอยู่อันดับ 5 โดยมี มาร์คโค มาร์ทิน นักแข่งทีม ฟอร์ดก้าวเข้ามาคั่นอันดับ 4 เอาไว้ การแข่งขันผ่านไปเพียงแค่ 3 สนาม แต่ความร้อนระอุในศึกครั้งนี้ กลับพุ่งขึ้นมาจนเรียกได้ว่า"เกือบถึงขีดสุด" เสียแล้ว การขับเคี่ยวกันระหว่าง เปอโฌต์ ซีตรอง และ ฟอร์ด ในอีก 11 สนามที่เหลือจะต้องเข้มข้นกว่านี้แน่นอน นอกจากนั้น ทีมอื่นๆ ที่เหลือ ต่างซุ่มปรับปรุงรถของตัวเองอย่างเอาจริงเอาจัง หนึ่งในนั้นก็คือทีม สโกดา ซึ่งสร้างรถแข่งปี 2003ออกมาเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงเซทระบบต่างๆ อีกนิดหน่อย ทางทีมก็จะส่งม้าศึกคันใหม่เข้าสู่สมรภูมิทันที...เมื่อการแข่งขันเริ่มดุเดือดขึ้นเช่นนี้ คงเดายากว่าใครจะเป็นผู้ขึ้นบัลลังก์แชมพ์ประจำปี !?! [table] ผลการแข่งขัน WORLD RALLY CHAMPIONSHIP 2003 สนาม 3 อันดับ, ผู้ขับ, คะแนนสะสม (สนาม 1-2) ,คะแนน (สนาม 3) ,คะแนนรวม ชนะเลิศ, ริชาร์ด เบิร์นส ,10 ,8 ,18 รองอันดับ 1 ,คอลิน แมคเร, 12, 5, 17 รองอันดับ 2, การ์โลส เซนซ์ ,6 ,10, 16 รองอันดับ 3, มาร์คโค มาร์ทิน, 10, 3, 13 รองอันดับ 4, เซบัสเตียง โลบ์, 12, 0, 12 [/table]