โลกติดล้อ
ไฮบริดอาจเป็นรถคันแรกของคุณ
ถามว่าคนเราจะมีสักกี่คนที่เป็นนักอุดมคติ อยากให้โลกสะอาดสดใสห่างไกลจากมลพิษ ปากก็อาจจะพูด แต่เมื่อถึงเวลาลงมือทำ เหตุผลที่ผลักดันก็มักจะเป็น "ความจำเป็น" เสียละมากกว่า
เรื่องของพลังงานสีเขียวสำหรับรถยนต์ก็เช่นเดียวกัน มักจะตื่นตัวกันขึ้นมาอีกที ก็เมื่อน้ำมันแพงหรืออาจมีเหตุชักจูงอย่างอื่น ยกตัวอย่างเช่น ตัวผู้เขียนเอง ขับรถคันเดิมมาเกิน 5 ปี ท่อไอเสียชักมีกลิ่นไม่สะอาด แรงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มนึกว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ก็คิดไปถึงรถยนต์ที่ใช้พลังงานสะอาดขึ้นมา ว่าจะลดอากาศเสียลงได้ และตัวเราก็ไม่ต้องสะสมอันตรายในร่างกาย
แต่ร้อยละ 90 ของคนทั่วไป คิดถึงพลังงานทางเลือก เพราะน้ำมันเบนซินราคาแพง
ปัจจุบันนี้ มีรถที่ใช้พลังงานทางเลือกที่สะอาดกว่าน้ำมันเบนซินถึงกว่า 40 รุ่นแล้ว เวลาผ่านไปไม่กี่ปีนับแต่รถ ไฮบริด ปรีอุส ของ โตโยตา ออกขายนำร่องไปก่อน บริษัทต่างๆ ก็พัฒนาเชื้อเพลิงหลากหลายรูปแบบ มีทั้งน้ำมันดีเซลสูตรสะอาด น้ำมันเอธานอลที่ทำจากพืชต่างๆ เช่น ข้าวโพด (รัฐบาลหลายประเทศสนับสนุนให้ปลูกพืชเพื่อเป็นเชื้อเพลิง)
ความตระหนกเมื่อครั้งเกิดสงครามอิรัก หรือการที่ราคาน้ำมันขึ้นไม่หยุด คือ ตัวขับเร่งให้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ของการขับเคลื่อนเครื่องยนต์ บริษัท ฟรอสท์ แอนด์ ซัลลิแวน จำกัด ทำโพลล์ออกมาได้ผลว่าคนใช้รถ 80 % กลุ้มอกกลุ้มใจเรื่องราคาน้ำมันในช่วงนั้น ต่อมา เมื่อเร็วๆ นี้มีการสำรวจโดย เจดี เพาเวอร์ ผลออกมาว่ามีคนถึง 57 % บอกว่าจะซื้อรถยนต์ไฮบริดที่ใช้เชื้อเพลิงร่วมกับไฟฟ้าเป็นคันต่อไป อีก 49 % บอกว่าจะซื้อยานพาหนะที่ใช้เอธานอล E85
ประจักษ์พยานของความสนใจเรื่องรถยนต์สะอาด ก็จะเห็นได้จากงานมหกรรมยานยนต์นั่นเองในงานมหกรรยานยนต์ที่อเมริกาเหนือ เมืองดีทรอยท์แดนรถยนต์ บริษัท เจเนอรัล มอเตอร์ จำกัดเจ้าถิ่นก็เผยโฉมรถ เชฟโรเลต์ โวลท์ (CHEVROLET VOLT) ซึ่งเป็นรถใช้พลังงานไฟฟ้าใหม่เอี่ยมสุดแสนจะทรงประสิทธิภาพ (ULTRA EFFICIENT) สามารถใช้มอเตอร์สำรองที่ใช้ทั้งแกส น้ำมันดีเซล เอธานอล หรือ ไฮโดรเจน ฟังแล้วต้องเรียกว่า อย่างนี้ถึงจะแน่ มาทีหลัง ปรีอุส ทั้งที่ต้องดังกว่า
พูดถึงเรื่องมาทีหลัง ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอย่างแน่นอน ถ้าพัฒนาไปไกลกว่าคนมาก่อน เผลอๆ อีกไม่นานคนอาจลืมคนที่มาเป็นคนแรกเลยก็ได้
เป็นที่คาดหมายกันว่าในงานมหกรรมยานยนต์ที่เจนีวาเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้ รถ ไฮบริดซับคอมแพคท์ขนาดเล็กที่เปี่ยมประสิทธิภาพ จะเป็นตัวหลักโชว์โฉมกันสะพรึบสะพรั่งในงาน
โฟคัสเปลี่ยนไป ยานยนต์แล่นเร็ว แรง จะกลายเป็นอดีต
การแข่งขันชนิดที่ดาหน้ากันมาถึง 40 บแรนด์นี้ ทำให้เกิดการแข่งขันสูงในตลาดรถพลังงานสะอาด โดยเฉพาะรถที่ใช้ไฟฟ้า และน้ำมันไปด้วยกัน โดยมีการติดตั้งทั้งเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันแบบดั้งเดิม และอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ทันสมัย ภายใน 20 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะมี ไฮบริด โมเดลใหม่ๆ ทยอยเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกาไม่ต่ำกว่า 30 รุ่น ซึ่งสถาบันวิจัยชื่อ โกลบัล อินไซท์ ในบอสตันบอกว่าเมื่อรวมกับรุ่นที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็จะเป็นจำนวนมากกว่า 40 โมเดล
อะไรเกิดขึ้นเมื่อสายการผลิตรถยนต์ยี่ห้อต่างๆ พากันหันทิศปรับทางไปประกอบรถยนต์ ไฮบริดกันเป็นการใหญ่ ผู้บริโภค คือ คนที่ได้ประโยชน์ ผู้นำอย่าง โตโยตา ก็คืนกำไรให้ผู้บริโภค โดยราคาหน้าโชว์รูมจะลดลงจากที่เคยบวกราคาจากผู้ผลิต
ตบท้ายข่าวนี้ โตโยตา ผู้นำตลาดแถลงว่า จะเพิ่มยอดขาย ปรีอุส ที่ขายดีอยู่แล้วอีก 50 %เท่ากับยอดขาย 150,000 คันในปีนี้ และพยายามผลักดันให้ ปรีอุส กลายเป็นรถหลัก (MAINSTREAM) ไม่ใช่รถประเภทพิเศษ
นักวิเคราะห์บอกว่า เมื่อตลาดตอบรับกันอย่างคึกคักอย่างนี้ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะคิดถึงการผลิตเพื่อมวลชนกันได้แล้ว ไม่ใช่เป็นของเล่นเฉพาะกลุ่ม
ต่อแต่นี้ไป ตลาดจะคึกคักถึงขนาดที่ว่ารถ ไฮบริด จะเป็นทางเลือกของคนที่ซื้อรถยนต์เป็นคันแรกนั่นทีเดียว สิ่งที่ต้องคำนึงถึง ก็คือ เทคโนโลยีการผลิต
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่เพิ่งผ่านมา ซีอีโอของ โตโยตา คัทสึอากิ วาตานาเบ ยืนยันว่าโตโยตา จะใช้แบทเตอรีแรงสูง ลิเธียม-ไอออน ในรถ ปรีอุส เจเนอเรชันที่ 3 ซึ่งจะเผยโฉมออกมาปลายปี 2008 หรือต้นปี 2009
คุณคิดว่ารถคันแรกหรือคันต่อไปของคุณ จะเป็นรถไฮบริดไหมคะ ? ถ้าใช่คุณจะติดกลุ่มคนทันสมัย หัวใจสีเขียวทีเดียวค่ะ
ABOUT THE AUTHOR
เ
เพ็ญศรี เผ่าเหลืองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2550
คอลัมน์ Online : โลกติดล้อ