อาร์มสตรอง ซิดเดอลีย์ เฮอร์ริเคน

วิรุฬห์ ปริวุฒิพงศ์ หนุ่มใหญ่อารมณ์ดี เจ้าของรถ อาร์มสตรอง ซิดเดอลีย์ เฮอร์ริเคนบอกเล่าถึงเรื่องราวประวัติความเป็นมา และขั้นตอนการบูรณะรถคันนี้ว่า เมื่อราวๆ 30 กว่าปีที่แล้วขณะนั้นทำงานอยู่ที่ตึก ไอบีเอม ได้เหลือบมองลงมาชั้นล่าง ซึ่งเป็นบริเวณลานจอดรถบังเอิญสายตาไปสะดุดเข้ากับ อาร์มสตรอง ซิดเดอลีย์ สีขาวนวล ที่จอดตระหง่านอยู่ในช่องลานจอด เกิดความสนใจอยากได้เป็นเจ้าของ จึงให้ลูกน้องในบริษัท ไปลองติดต่อทาบทามดู ตามตื๊ออยู่นานสุดท้ายก็ได้มาในราคา 23,000 บาท เมื่อได้มาครอบครองสมใจแล้ว ขั้นตอนการบูรณะก็เริ่มต้นทันที ด้วยการตัดผุ ทำสีใหม่แต่ยังคงอนุรักษ์โทนสีเดิมไว้ หลังคาผ้าใบเสื่อมสภาพเต็มที จึงสั่งซื้อจากต่างประเทศคอนโซลหน้าลายไม้ ลิ้นชัก ยางรถ เปลี่ยนมาใช้ของใหม่หมด ยกเว้นอะไหล่บางอย่างที่เห็นว่าสั่งซื้อแล้วไม่คุ้มค่า ก็หันมาพึ่งพาโรงกลึงบ้านเราบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งคุณภาพฝีมือก็ไม่หนีกันสักเท่าไร ส่วนเครื่องยนต์ และช่วงล่าง ก็ปรับปรุงใหม่ให้พร้อมใช้งาน จนมีสภาพเหมือนเช่นทุกวันนี้ รูปลักษณ์ภายนอกโดนใจ ด้วยตัวรถสีขาวนวล ซึ่งตัดกับหลังคาผ้าใบสีดำสุดคลาสสิคอุปกรณ์ตกแต่งทุกอย่างที่เป็นโลหะสมบูรณ์ และมีสภาพใหม่มาก เรียกได้ว่าดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา กระจังหน้าแนวตั้ง สีโครเมียมขนาดใหญ่ กันชนหน้าออกแบบอย่างเรียบง่ายเพิ่มลูกเล่นด้วยสปอทไลท์คู่ซึ่งสร้างความโดดเด่นให้กับหน้ารถ ไฟหน้าทรงกลมอยู่เหนือไฟเลี้ยวขนาดกะทัดรัดยังคงใช้งานได้ดี ฝากระโปรงหน้าทรงสามเหลี่ยม ประทับโลโก อาร์มสตรอง อยู่ด้านบนบ่งบอกยุคสมัยได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญวัสดุผลิตจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบาอีกต่างหาก ด้านข้างสวยสะดุดตา ด้วยซุ้มล้อหน้าขนาดใหญ่ ที่โค้งรับจากด้านหน้ารถไปจรดกับแนวประตูซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความเก่าแก่ ตามแบบฉบับรถรุ่นหลังสงครามโลกซุ้มล้อหลังทรงกลมโค้งรับกับตัวรถได้อย่างลงตัว บานประตูเปิดแบบหน้าไปหลัง ผิดกับรถรุ่นใหม่ที่เปิดแบบหลังมาหน้า ซึ่งจะหาดูได้ยากในปัจจุบัน กระจกมองข้างติดตั้งอยู่บนซุ้มล้อหน้าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถรุ่นนี้ กระทะล้อเหล็กสีเดียวกันกับตัวรถ พร้อมฝาปิดสีโครเมียมสีเงาวับเพิ่มมนต์เสน่ห์ให้ด้านข้างตัวรถ ด้านท้ายออกแบบเรียบง่าย กระโปรงท้ายทรงลาดชัน พร้อมบานพับ และที่เปิดกระโปรงสีโครเมียมไฟเบรคทรงกลมขนาดเล็ก แตกต่างจากรถในปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง กันชนหลังขนาดบางสีโครเมียมแต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแรง หลังคาผ้าใบสีดำที่สั่งซื้อจากประเทศอังกฤษใช้งานได้ทุกเวลาที่ต้องการและสามารถพับเก็บได้ยามขับรถกินลมชมสะพาน ภายใน ถ้าไม่บอกไม่รู้น่ะนี่ว่าเป็นรถสมัยเมื่อ 57 ปีที่แล้ว แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยเพราะมีสภาพใหม่มาก เบาะหนังหุ้มใหม่สีดำ ด้วยวัสดุคุณภาพดี เพิ่มความคลาสสิคภายในห้องโดยสารได้มาก มือหมุนกระจกและที่เปิดประตูสีโครเมียมตัดกับแผงประตูสีดำอย่างลงตัว พวงมาลัยขวาทรง 2 ก้านพร้อมแป้นกดแตรขนาดใหญ่ ใช้งานสะดวก ที่สำคัญยังสามารถปรับตำแหน่งเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของผู้ขับได้ทุกเพศทุกวัย แผงคอนโซลหน้าลายไม้ ฝังเกจวัดทรงกลมที่ยังคงประมวลผลได้อย่างแม่นยำทุกตัว เมื่อให้เจ้าของลองสตาร์ทเครื่อง เสียงเครื่องยนต์คำรามรื่นหู เดินเรียบตามสไตล์รถแดนผู้ดีเป็นเครื่องยนต์ 6 สูบเถียวเรียง 1,991 ซีซี จ่ายน้ำมันด้วยระบบคาร์บูเรเตอร์ขนาดใหญ่ของสตรอมเบิร์ค ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์ธรรมดา 4 จังหวะ ที่สำคัญสามารถเติมน้ำมันเบนซิน 91 ได้ไม่มีปัญหา อีกทั้งอัตราการบริโภคน้ำมันก็สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับรถขนาด 2,000 ซีซีทั่วไป อุปกรณ์ทุกอย่างของเครื่องยนต์ อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ฝาครอบวาล์ว และกรองอากาศชุบโครเมียมเงาวับ ซีลยางต่างๆ อยู่ในสภาพดี ไม่มีการรั่วซึมรอยคราบน้ำมันให้เห็นแต่อย่างใด ตรงจุดนี้แสดงให้เห็นถึงการดูแลรักษาได้เป็นอย่างดี วิรุฬห์ ยังให้ความรู้แก่เราอีกว่า สายพานการผลิตของ อาร์มสตรอง ซิดเดอลีย์ เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1904 ซึ่งคนออกแบบได้แก่ จอห์น ซิดเดอลีย์ รถรุ่นแรกมีกำลังแค่เพียง 6 แรงม้าเท่านั้น ราคาอยู่ที่ 300-500 ปอนด์ วิรุฬห์ ยังฝากถึงคนที่สนใจที่อยากจะเล่นรถโบราณว่า "รถโบราณยังมีในประเทศไทยมาก และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่ถูกปล่อยทิ้งขว้าง อยากให้คนรุ่นหลังตื่นตัว หวงแหนรักษาสมบัติที่ปู่ย่าตายาย ท่านเก็บรักษาไว้ เพราะรถแต่ละคันนั้นย่อมมีประวัติศาสตร์ในตัวของมันเอง และคนที่เล่นรถโบราณไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนร่ำรวยเสมอไป เพราะการเป็นเจ้าของรถโบราณไม่ได้ใช้ทุนทรัพย์มากมายอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแค่สนใจ และใฝ่รู้เป็นพอ"   [table] ข้อมูลจำเพาะ อาร์มสตรอง ซิดเดอลีย์ เฮอร์ริเคน, รูปแบบ ,สปอร์ท เปิดประทุน ปีที่ผลิต (คศ.) ,1949 เครื่องยนต์, แบบ ,6 สูบ แถวเรียง ความจุ (ซีซี) ,1991 กำลังสูงสุด (แรงม้า) ,98 เกียร์ (จังหวะ) ,ธรรมดา 4 น้ำหนักรถ (กก.) ,1500 พวงมาลัย ,ขวา [/table]