โค้งอันตราย
น้ำมันแพง
พาดหัวเรื่องรอบนี้น่ารักดีนะครับ
ทำเหมือนกับว่าไม่รู้เรื่องยังไงก็ไม่รู้ ทั้งที่โดนผลกระทบไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งที่สังเกตด้วยตัวเอง กับที่พรรคพวกมาเล่าสู่กันฟัง
เดี๋ยวนี้ข้าวแกงจานละ 30 บาท เป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว
แล้วคุณรับมือกับค่าครองชีพปัจจุบันอย่างไร ?
เรื่องแรก ก็ต้องประหยัด นั่นน่ะเป็นเรื่องธรรมชาติอยู่แล้ว รายได้เท่าเดิม แต่รายจ่ายมากขึ้นก็ต้องปรับตัวปรับใจกันบ้างละ
มีใครอยากวาดวิมานในอากาศกันมั่งไหมครับ ถ้ามี เชิญทางนี้ เชิญชมวิมานของท่านข้าราชการ ที่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของท่าน ว่ามีวิสัยทัศน์กันอย่างไรบ้าง ?
ก่อนจะอ่านเรื่องต่อไปนี้ ถ้าอ่านแล้วขำกลิ้ง ก็เปิดผ่านไปก่อนน่ะ เอาไว้ตอนเครียดๆค่อยกลับมาอ่านคลายเครียดได้ครับ
ปัจจุบัน ภาคการขนส่งและอุตสาหกรรม เป็นส่วนที่ใช้พลังงานเปลืองที่สุด รวมแล้วประมาณ 73 % แบ่งเป็นภาคขนส่ง 37 % และอุตสาหกรรม 36 % ก็เลยต้องมีมาตรการประหยัดกันออกมา
มาตรการประหยัดพลังงานเรื่องแรก เร่งรัดใช้เชื้อเพลิงอื่นทดแทนน้ำมัน อาทิ แกสเอนจีวี โดยจะใช้มาตรการภาษีศุลกากรและสรรพสามิตสำหรับรถที่ใช้ และมาตรการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับประชาชนที่ใช้ เอนจีวี
นอกจากนั้นยังสนับสนุนผู้ผลิต ให้ผลิตเครื่องยนต์ที่สามารถใช้แกสเอนจีวี ออกสู่ท้องตลาดซึ่งตอนนี้มีรับปากแล้ว 2 ราย ได้แก่ จีเอม และ สามมิตร รวมทั้งจูงใจ แทกซี รถบรรทุก และรถสามล้อเครื่องที่ใช้ เอนจีวี
ตอนนี้ผู้ประกอบการขายรถยนต์กันอยู่ทั้งเบนซินและดีเซลประมาณ เดือนละ 5-6 หมื่นคันก็เลยมีมาตรการที่ 2 สนับสนุนให้ใช้แกสโซฮอล แทนเบนซิน โดยมีเป้าหมายจะยกเลิกเบนซิน 95 ในวันที่ 1 มกราคม 2550
พูดกันง่ายๆ ว่า อีกหน่อยถือเป็นภาคบังคับให้ต้องใช้แกสโซฮอล ส่วนว่ารถใครที่มีเทคโนโลยีสูงๆ ใช้แล้ววิ่งไม่ออก เครื่องรวน คอมพิวเตอร์งง ! นั่นไม่ใช่เรื่องของฉัน ประมาณนั้น
มาตรการถัดไปเล่นเรื่องใกล้ตัวนี่ละ บังคับให้รถราชการและรัฐวิสาหกิจในจังหวัดที่มีแกสโซฮอล จำหน่ายต้องใช้แกสโซฮอล
เพียงแต่ว่าตอนนี้รถเบนซินของราชการที่สามารถใช้แกสโซฮอล 95 ได้มีประมาณ 4,800 คัน ใช้แกสโซฮอล ไปแล้ว 305 คัน หรือประมาณร้อยละ 6 ก็จะรีบเร่งรัดต่อไป
ฟังดูดีนะครับ เพียงแต่ว่าปลายปีนี้ จะมีรถผลิตจากโรงงานออกมาวิ่งกันบนถนนประมาณ 6 แสนคัน ที่ยังไม่ใช้แกสโซฮอล เท่านั้นเอง
ส่วนภาคเอกชน ก็ขอความร่วมมือจากบริษัทน้ำมันให้เป็นจำนวนสถานีบริการจาก 730 เป็น 4,000 แห่ง ภายในปีนี้ ส่วนสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ในพื้นที่ราชการ 413 ปั๊ม บังคับเปลี่ยนให้ขายเฉพาะแกสโซฮอล อย่างเดียวภายใน 2 เดือน
เป้าหมายจากเดิมที่ขอความร่วมมือแล้ว ประชาชนคนไทยยังใช้แกสโซฮอลกัน เฉลี่ยประมาณวันละ 900,000 ลิตร ตั้งเป้าว่าจะให้เพิ่มขึ้น 50 % ของการใช้น้ำมันเบนซิน 95 ทั้งประเทศ หรือประมาณ 4 ล้านลิตร
มาตรการถัดมาคือส่งเสริมการใช้ ไบโอดีเซล จากปาล์ม ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ขอติดเอาไว้ก่อน จะส่งคนไปดูงานที่ประจวบ ฯ เพราะที่นั่นเขาใช้กันจนเป็นเรื่องธรรมดาเสียแล้วส่วนผลที่เกิดกับเครื่องยนต์น่ะ ลองเติมรถหัวฉีดละอองฝอยรุ่นใหม่ๆ ดู ปรากฏว่าเครื่องนอคครับ ใครใจถึงก็ลองดู
ส่วนเป้าหมายในภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจ จะพยายามลดใช้พลังงานให้ได้ 10 %
บีโอไอ ประกาศส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมที่ใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และผู้ประกอบการจัดการพลังงาน โดยยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 8 ปี และภาษีศุลกากร
เร่งโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและน้ำเย็น เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดได้ 30-50 % ในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารขนาดใหญ่ 5 แห่งตามแนวท่อแกส อาทิ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ศูนย์การแพทย์ศิริราช ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ประหยัดพลังงานเกือบ 170 ล้านบาท/ปี
มาตรการต่อมาก็ต้องจูงใจทางภาษี โดยผู้ประกอบการสามารถนำผลประหยัดมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้
แต่ก็ให้บังเอิญว่า ผู้ประกอบการที่ไม่สามารถประหยัดได้จริง ก็ผลักภาระส่วนนี้กลับไปสู่ผู้บริโภคเช่นเดิม
ส่วนในหน่วยงานภาครัฐ โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาค ที่ใช้ไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น 25 % เมื่อปีที่แล้วก็ตจะรณรงค์ให้ลดการใช้ไฟฟ้าอย่างจริงจัง ส่วนใน กทม. ลดลงได้ราว ๆ 0.4 %
ในภาคประชาชน ก็จะเร่งปลูกฝังจิตสำนึก ในการประหยัดไฟฟ้าทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน
และจะปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา และกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนให้เห็นคุณค่าของการใช้พลังงาน
อันนี้คงเหนื่อยน่าดูเลยละครับ เพราะตอนนี้ไม่ใช่แต่ลูกหลานที่บ้านเท่านั้น ที่ติดเกมกันงอมแงม ขนาดผู้ใหญ่เองก็เถอะ ทั้งเกม ทั้งอินเตอร์เนท แทบว่าจะไม่ยอมหลับยอมนอนกันเลย วันหยุด เดี๋ยวนี้ก็พักผ่อนอยู่กับบ้านนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเล่มเกมกัน 3-4 เครื่อง แบบว่าเรียกทานข้าวยังไม่สนใจเลย ขอเล่นเกมก่อน เดี๋ยวหิวแล้วจะไปหาเอง
แล้วไปหามาน่ะ ก็ตักใส่จานมานั่งทานหน้าจอเหมือนเดิม
ขนาดผู้ปกครองที่บ้านปากเปียกปากแฉะเพราะเรื่องนี้ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ยังสามารถทำหูทวนลมได้ แล้วท่านข้าราชการน่ะ จะมาบอกว่าให้ประหยัดไฟฟ้าที่บ้าน เมินเสียเถอะ
ส่วนที่ทำงานน่ะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ดูท่าว่าจะยากเหมือนกันหมด เพราะพนักงานบริษัทเดี๋ยวนี้ จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์ประจำตัวกันหมด แถมผู้บริหารยังต้องมีโนทบุคส่วนตัวกันอีกเช้ามาพอนั่งโต๊ะปั๊บ สิ่งแรกที่ทำคือ เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์
ได้เวลากลับบ้านเมื่อไรถึงจะปิดเครื่อง ไม่เว้นแม้แต่เวลาพักกลางวัน
วิมานในอากาศเท่าที่เล่าสู่กันฟังนี่ เขียนเป็นนวนิยายขนาดยาว แบบที่ พนมเทียน เขียนเรื่อง เพ็ชรพระอุมา ได้เลยนะครับ
แหม เล่นเรื่องประหยัดพลังงานเรื่องเดียวนี่ เลยไม่ได้เขียนเรื่องตัวเลขของรถใช้แหนบกับตัวเลขของรถใช้ชอคอับเลย น่าเสียดายจัง
แต่พี่เขาก็ประกาศหย่าศึกกันแล้วนะครับ ยังไม่ทันสนุกเลย
น่าเสียดายจัง
ABOUT THE AUTHOR
ม
มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2548
คอลัมน์ Online : โค้งอันตราย