โฟล์คสวาเกน คาร์มันน์ กิอา เปิดประทุน ปี1961

ธีรพงษ์ ตรงลักขณา เจ้าของรถยนต์ โฟล์คสวาเกน คาร์มันน์ กีอา ไทพ์ วัน เปิดประทุน รุ่นปี 1961 เล่าถึงประวัติความเป็นมาของรถ รวมถึงขั้นตอนการบูรณะว่า เดิมทีเจ้าของรถคันนี้เป็นนักสะสมรถโบราณ สภาพรถตอนที่ซื้อมาทรุดโทรมมาก เรียกว่าต้องเปลี่ยนใหม่เกือบทุกชิ้น ความยากลำบากในการบูรณะ เริ่มตั้งแต่หาอะไหล่ ซึ่งในตลาดมีไม่มากเหมือนรถโฟล์คสวาเกน บีเทิล จำเป็นต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่ได้มาจาก สหรัฐอเมริกา แต่มีบางส่วนเช่นชุดไฟหน้ามาจากยุโรป และถึงกับต้องสั่งเบาะคู่หน้าจากสหรัฐอเมริกา เพราะเบาะที่ติดรถมาไม่ใช่ของเดิมสรุปแล้วเฉพาะหาอะไหล่อย่างเดียวกินเวลาร่วมปี หลังจากอะไหล่ครบ จึงส่งเข้าตัดผุทำสี ขั้นตอนนี้ต้องใช้ทั้งเวลา และความประณีต "คาร์มันน์ กิอา" ต่างจาก "บีเทิล" ตรงที่ตัวรถไม่สามารถถอดแยกชิ้นส่วนบังโคลนได้ ทุกส่วนรวมเป็นชิ้นเดียวกันจึงต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญ และมีความอดทนในการเคาะตัดผุเพื่อคืนรูป สำหรับขั้นตอนนี้ ธีรพงษ์ ต้องขอยืม คาร์มันน์ กิอา ของคนรู้จัก มาเป็นแบบในการจัดรูปทรงรถไม่ให้เส้นสายผิดเพี้ยน เครื่องยนต์ เปลี่ยนขนาดจากเดิมเพื่อสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีกว่า โดยเพิ่มความจุเป็น 1,600 ซีซี (แต่เดิมมีความจุ 1,200 ซีซี) พร้อมติดตั้ง คาร์บูเรเตอร์คู่ และชุบโครเมียมโกร่งพัดลมระบายอากาศ และฝาครอบเครื่องยนต์ให้ดูเงางาม รถ โฟล์คสวาเกน ทั้ง บีเทิล และ คาร์มันน์ กิอา มีแนวทางในการตกแต่งหลายแบบ แต่สำหรับรถคันนี้มีแนวคิดในการคงสภาพเดิม รักษาคุณค่า ไม่มีการดัดแปลงตัวรถ ไม่ติดตั้งแม้กระทั่งระบบปรับอากาศ ส่วนขั้นตอนการดูแลรักษา ธีรพงษ์ เสริมตอนท้ายว่า มีเพียงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเท่านั้น เพราะโฟล์คสวาเกน ออกแบบมาให้ง่ายต่อการดูแลรักษาอยู่แล้ว โฟล์คสวาเกน คาร์มันน์ กิอา ผลิตในช่วงปี 1955-1974 แบ่งเป็นรุ่น คูเป จำนวน 360,000 คัน และเปิดประทุน 80,000 คัน โดยในปี 1961 ผลิตรุ่น คูเป จำนวน 6,706 คัน และ เปิดประทุน 1,891 คัน