จิรายุ ห่วงทรัพย์

จิรายุ ห่วงทรัพย์ ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ ไอทีวี และพิธีกรรายการ บางกอก ออโทแจม การศึกษาจาก คณะนิเทศน์ศิลป์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ขณะนี้กำลังศึกษาปริญญาโทคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มทำงานครั้งแรกที่ บริษัท ทีเอสเค บอสคลาสติ้ง จำกัด เป็นบริษัทโฆษณา รับหน้าที่ กอพพี ไรเตอร์ และ ครีเอทีฟ ได้ทำโฆษณาต่างๆ เช่น ยาตราปลามังกร จากนั้นย้ายมาทำงานที่ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ช่วงแรกเป็นหัวหน้าศูนย์วิทยุคมนาคมเศรษฐกิจ มีหน้าที่ติดตั้งระบบวิทยุสื่อสาร ข้อมูลเทคโนโลยี หลังจากนั้นได้มีโอกาสเป็นหัวหน้าข่าว หนังสือบริการทอง ซึ่งเป็นซัพพลีเมนท์แทรกในหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ สุดท้ายเป็นหัวหน้าข่าว ก่อสร้างที่ดิน เมื่อสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น ก็อยากทำหนังสือพิมพ์รายวัน จึงตัดสินใจทิ้งองค์กรที่มั่นคง ออกมาทำหนังสือ ไทยแฟนแนนเชียล รับหน้าที่ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าวหน้า 1 ทำหน้าที่พาดหัวข่าว แต่ธุรกิจไม่ค่อยมั่นคงนัก จึงหันไปทำงานด้านวิทยุ จนกระทั่ง ไอทีวี เปิดรับฝ่ายข่าว จึงไปสมัคร และได้ทำงานเป็นผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ "เป็นคนชอบรถยนต์ตั้งแต่ทำงานที่ฐานเศรษฐกิจ มีโอกาสเขียนคอลัมน์เกี่ยวกับรถยนต์มาตลอด 10 กว่าปี เลยตัดสินใจทำรายการรถยนต์ทาง ไอทีวี เป็นช่วงแทรกรายการ เปิดโลกธุรกิจมาจนถึงปัจจุบัน" ส่วน บริษัท ทาร์เก็ตมีเดีย จำกัด ของเขา เกิดจากความตั้งใจที่จะจัดรายการแข่งขันรถยนต์ เพราะทั้งเคยดู และเคยเป็นนักแข่ง รู้สึกว่าถ้าจัดเองจะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่มองเห็นได้ง่าย จึงได้จัดรายการแข่งขัน เชลล์ ซูเพอร์แมกซ์ ออฟโรดโทรฟี ขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 และพัฒนาเรื่อยมา โดยพยายามหาจุดบกพร่องแล้วแก้ไขตลอดเวลา จนประสบความสำเร็จแล้วระดับหนึ่ง "ผมมีความฝันหลายอย่าง ที่ผ่านมานับว่าไขว่คว้าได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผู้สื่อข่าว มีรถยนต์ เปิดร้านอาหาร เป็นเจ้าของกิจการ เรียนสูงๆ แต่ก็ยังไม่พอ เพราะชีวิตอยากทำอะไรอีกมาก ตอนนี้อายุยังไม่ถึง 40 อยากทำอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ยังบอกไม่ได้ นอกจากทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้นเรื่อยๆ" "ส่วนเวลาว่างส่วนใหญ่จะไปฝึกยิงปืน ดไรฟกอล์ฟ สะสมของเกี่ยวกับรถยนต์ และชอบรถ ออสติน มีนี ถือเป็นงานอดิเรก ที่มีความสุข ตื่นแต่เช้ามาล้างรถ ทำให้หายเหนื่อย หายเครียดได้" "ทำงานมา 17 ปี สิ่งที่ทำให้อยู่มาได้ นั่นคือ กล้าตัดสินใจ มีการวางแผนในการทำงาน แต่ยังไม่รู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ อาจจะโลภ ไม่ใช่เงิน แต่คิดว่ายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก เพราะมองว่าการเป็นเจ้าของบริษัทใครก็เป็นได้ แต่จะอยู่รอด ทำผลงานออกมาได้ดีแค่ไหน ผมเชื่อว่ารายการรถยนต์ทุกรายการที่ผมทำ ถ้าเอ่ยปากกับใครในบริษัทรถยนต์ เขาก็ต้องช่วย แต่เขาจะช่วยเราสักกี่ครั้ง ฉะนั้นการขายงานนี่เป็นฝีมือจริงๆ ให้ลูกค้าหรือบริษัทรถยนต์เห็นและไว้วางใจ" "อีกเรื่องที่ยึดถือตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงานเกี่ยวกับรถยนต์ คือ เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย ซึ่งเด็กยุคใหม่ จะไม่เสมอต้นเสมอปลาย วันที่เขาเดินเข้ามาเขาเป็นนักข่าว แต่ผ่านไป 5 หรือ 7 ปี เป็น หัวหน้าข่าว บรรณาธิการ เขาจะรู้สึกว่าแจ๋วแล้ว วันแรกยกมือไหว้ พอโตกลับไม่ทำ ผมอยากบอกว่าประเพณีไทยต้องเคารพกัน"