ระเบียงรถใหม่
เบนท์ลีย์ คอนทิเนนทัล จีที
สำหรับผู้คนจำนวนหลายพันล้านคนทั่วโลก วันที่ 1 มกราคม 2003 ที่ล่วงเลยมาแล้วมากกว่าสองร้อยวัน อาจไม่ได้มีความหมายอะไรมากไปกว่า วันขึ้นปีใหม่ วันเริ่มต้นของศักราชใหม่ ที่เฉลิมฉลองกัน ที่สนุกสนานกัน แล้วก็ลืมๆ กันไป ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เพราะอีกสามร้อยหกสิบห้า หรือสามร้อยหกสิบหกวันข้างหน้า วันอย่างนี้ก็จะหมุนกลับมาอีก ได้เฉลิมฉลองกันอีก ได้สนุกสนานกันอีก ไม่เห็นจะมีอะไรให้ต้องจดจำ
แต่สำหรับวงการรถยนต์ในเมืองอังกฤษ โดยเฉพาะผู้คน ทั้งเพศหญิงและเพศชาย ที่มีส่วนสัมพันธ์เกี่ยวข้อง ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับผู้ผลิตรถยนต์ระดับอัครฐาน ที่รู้จักกันในชื่อ โรลล์ส-รอยศ์ (ROLLS-ROYCE) และ เบนท์ลีย์ (ROLLS-ROYCE) วันที่ 1 มกราคม 2003 คือวันขึ้นปีใหม่ ที่ควรค่าแห่งการจดจำ ยิ่งกว่าวันขึ้นปีใหม่ครั้งใด
ชื่อ โรลล์ส-รอยศ์ กับ เบนท์ลีย์ เคียงคู่กันมาตั้งแต่ปี 1931 จนกระทั่งเมื่อสี่ซ้าห้าปีที่ผ่านมานี้เอง เมื่อมีข่าวแพร่กระจายไปทั่วยุทธจักรยานยนต์ว่า กลุ่มธุรกิจ วิกเคอร์ส์ (VICKERS) ซึ่งเป็นเจ้าเข้าเจ้าของกิจการผลิตรถยนต์สองยี่ห้อนี้ ได้ตอบรับข้อเสนอขอซื้อกิจการในราคา 430 ล้านปอนด์ จากยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์ของเมืองเบียร์ ที่รู้จักกันในชื่อ โฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN)
เป็นข้อตกลงทางธุรกิจที่มีเงื่อนงำ มีเงื่อนไขด้านเวลา และยากแก่การเข้าใจของคนวงนอก ว่าทำไมจึงตกลงกันอย่างนี้ ? แถมเป็นเรื่องของ "รักสามเส้า" เพราะนอกจากโรลล์ส-รอยศ์/เบนท์ลีย์ และ โฟล์คสวาเกน ที่กล่าวข้างต้นแล้ว ยังมีตัวแสดงตัวสำคัญอีกตัวหนึ่ง ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในเรื่องนี้ คือ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันอีกเจ้าหนึ่ง ที่รู้จักกันในชื่อ บีเอมดับเบิลยู (BMW)
อย่างไรก็ตาม นับแต่นั้น ก็เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2003 เดินทางมาถึง โรลล์ส-รอยศ์ กับ เบนท์ลีย์ ซึ่งกอดคอกันมายาวนานกว่าเจ็ดทศวรรษก็จะถึงเวลาต้องจำใจแยกทางกันเดิน โดยที่ โรงงานผลิตรถสองยี่ห้อนี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองครูว์อี (CREWE) ในประเทศอังกฤษ กับชื่อและเครื่องหมายการค้า เบนท์ลีย์ จะตกอยู่ในกรรมสิทธิ์ของ โฟล์คสวาเกน ส่วนสิ่งที่ฝ่าย บีเอมดับเบิลยู จะได้ไปก็คือ ชื่อและเครื่องหมายการค้า โรลล์ส-รอยศ์
ที่กล่าวถึงเรื่องราวของ โรลล์ส-รอยศ์ และ เบนท์ลีย์ เสียยืดยาว เพราะเดือนนี้ "ระเบียงรถใหม่" นำเสนอรถใหม่สัญชาติอังกฤษล้วนๆ โดยเริ่มต้นกันด้วย เบนท์ลีย์คอนทิเนนทัล จีที (BENTLEY CONTINENTAL GT) รถใหม่แบบแรกของ เบนท์ลีย์ในช่วงเวลาห้าทศวรรษ เป็นรถ เบนท์ลีย์ แบบแรก ในยุคที่มี โฟล์คสวาเกน เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ และเป็นรถ เบนท์ลีย์ แบบแรกในประวัติศาสตร์กว่าเจ็ดทศวรรษที่ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ
ปรากฏตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก ที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีสครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายนปีกลาย และกำหนดออกจำหน่ายในเดือนกันยายนปีนี้ ด้วยสนนราคาค่าตัว 110,000 ปอนด์ หรือเท่ากับประมาณ 7.7 ล้านบาทไทย เมื่อคิดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นตัวเลขกลมๆ ว่า มีเงินไทยนอนอยู่ในกระเป๋า 70 บาท จะแลกเงินอังกฤษได้แค่ 1 ปอนด์ เท่านั้นเอง และทั้งๆ ที่ยังไม่ถึงวันออกตลาด ก็มีรายงานข่าวยืนยันว่ายอดสั่งจองจากลูกค้าทั่วโลก พุ่งสูงกว่า 4,000 คันไปแล้ว ทั้งๆที่ในบางตลาด กว่ารถคันแรกจะส่งถึงมือลูกค้าที่สั่งจอง ก็ต้องรอจนถึงปี 2005 นั่นเทียว
ตัวถังสองประตูคูเปสี่ที่นั่ง ยาว 4.807 ม. กว้าง 1.918 ม. และสูง 1.390 ม.เป็นผลงานออกแบบของทีมงานจำนวน 40 คน ที่มี เดิร์ค ฟาน บเรกเคล (DIRK VAN BRAECKEL) อดีตนักออกแบบของ สโกดา (SKODA) เป็นผู้นำ โดยใช้โครงฐานและชิ้นส่วนกลไกหลายชิ้นร่วมกับรถในเครือที่ออกตลาดไปก่อนหน้าแล้ว คือ โฟล์คสวาเกน เฟทัน (VOLKSWAGEN PHAETON) รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอก บเรกเคล และทีมงาน อวดโอ่อย่างภูมิอกภูมิใจเป็นนักเป็นหนาว่า "เป็นประติมากรรมยานยนต์ที่ประสมประสานลักษณะสปอร์ท เข้ากับความงดงามอันแสนพิสุทธิ์" และที่ปฏิเสธไม่ได้ คือการออกแบบและรายละเอียดปลีกย่อยในหลายๆ จุด ซึ่งบ่งบอกเอกลักษณ์ที่เคียงคู่กับชื่อ เบนท์ลีย์ มายาวนาน ตัวอย่างคือ แผงกระจังหน้าเส้นลวดถัก กับไฟหน้าตากลมคู่ โดยที่คู่ในมีขนาดโตกว่าคู่นอก
ที่น่าสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยกว่าตัวถัง คือเครื่องยนต์ DOHC ดับเบิลยู 12 สูบ 48 วาล์ว ความจุ 5,998 ซีซี ติดเทอร์โบชาร์เจอร์ ชนิด AIR-TO-AIR สองชุด ให้กำลังสูงสุด 560 แรงม้า ที่ 6,250 รตน. และให้แรงบิดสูงสุด 66.2 กก.-ม.ที่ 1,600 รตน. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่มีรถตลาดแบบใดๆ ในปัจจุบันสามารถทำได้ ส่วนระบบเกียร์เพื่อถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้าและคู่หลัง เป็นเกียร์อัตโนมัติ ZF TIPTRONIC 6 จังหวะ ซึ่งมีลักษณะการทำงานเหมือนระบบที่ติดตั้งในรถธงของค่าย "สี่ห่วง" คือ เอาดี เอ 8 (AUDI A8)
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของ เบนท์ลีย์ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ใน 4.8 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดคือ สูงกว่า 300 กม./ชม.
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2546