"มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 20"

"มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20" พร้อมสร้างความยิ่งใหญ่ปลายปีนี้ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2546 บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้ผลิตนิตยสาร "ฟอร์มูลา" คาร์ สเตริโอ 4WHEELS และโลกรถยนต์ ได้งานแถลงข่าว การจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20" หรือ THAILAND INTERNATIONAL MOTOR EXPO 2003 ขึ้น ณ ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธาน จัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20" เปิดเผยถึงคำขวัญและแนวคิดของงานปีนี้ว่าเนื่องจากไทยได้กลายเป็นชุมทางการผลิตรถยนต์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของโลกไปแล้ว จากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่หลายรายได้ระดมทุนมหาศาลเปิดโรงงานประกอบขึ้นพร้อมย้ายฐานการผลิตรถรุ่นสำคัญๆ ทั้งเก๋ง และพิคอัพ มาที่นี่ซึ่งส่งผลให้ยอดการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปในปี 2545 ที่ผ่านมา สูงเกือบ 2 แสนคัน คิดเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านบาท และจะยิ่งสูงขึ้นในปีต่อๆ ไป ขณะเดียวกัน ในฐานะชุมทางการผลิตรถยนต์ของโลกแห่งใหม่ ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัยและทรงประสิทธิภาพที่สุด ย่อมหลั่งไหลมาสู่ประเทศไทยอย่างคึกคักอันจะนำมาซึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาการ และความมั่นคงทางเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้ ดังนั้นเพื่อร่วมความภาคภูมิใจและเพื่อสนับสนุนการก้าวสู่ตลาดโลกอย่างยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยผู้จัดจึงได้กำหนดคำขวัญประจำงานว่า "ชุมทางยานยนต์ใหม่...ไทยสู่โลก" (NEW AUTOMOTIVE HUB...FROM THAILAND TO THE WORLD) นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงแผนการขยายพื้นที่ของ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้า อิมแพ็คเมืองทองธานี การก่อสร้างฮอลล์ 5-8 ติดต่อกับ ฮอลล์ 1-4 เดิม จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ โดยฮอลล์ 5-6 จะเสร็จในเดือนสิงหาคม ส่วนฮอลล์ 7-8 จะเสร็จสิ้นในเดือนพฤศจิกายน ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 36,000 ตรม. รวมเป็นพื้นที่แสดงภายในอาคารทั้งหมด 64,000 ตรม. สำหรับงาน "มหกรรมยานยนต์" จะจัดแสดงใน ฮอลล์ 1-7 รวมทั้งพื้นที่ภายนอกอาคาร ส่วนในฮอลล์ 8 จะเป็นส่วนของงาน AUTO COMPONENTS & AFTERMARKET 2003 (AA' 03) ซึ่งจัดโดย บริษัท ฮันโนเฟอร์แฟร์ เอเชีย จำกัด ทั้งนี้พื้นที่ในบริเวณฮอลล์ 1-4 จะเป็นการจัดแสดงรถยนต์ จากบริษัทผู้ผลิตทั้งหมดส่วนผู้นำเข้ารถยนต์ บริษัทประกอบรถยนต์ในประเทศ เช่น บริษัท เอส.อี.ซี. กรุพ จำกัด/บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)/บริษัท แกรนด์แครี่บอย มาร์เก็ตติ้ง จำกัด รวมถึงบริษัทรถยนต์ที่ต้องการพื้นที่ขนาดเล็กกว่า 800 ตรม. จะจัดให้อยู่ในฮอลล์ 5 รวมกับผู้จำหน่ายอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ ที่จองพื้นที่ใหญ่กว่า 150 ตรม. ส่วนฮอลล์ 6-7 จะจัดเป็นพื้นที่แสดงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์/เครื่องเสียง/อุปกรณ์ 4X4 รถมือสองพร้อมกันนี้บริเวณลอบบีหน้าฮอลล์ 1-8 จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 6,000 ตรม. ซึ่งจะจัดเป็นร้านอาหาร และร้านจำหน่ายสินค้าจำนวนมากโดยการขยายพื้นที่ในครั้งนี้จะทำให้มีพื้นที่จัดงาน (ฮอลล์ 1-8) ติดต่อกันยาวเกือบ 1 กม. ขวัญชัย กล่าวต่อว่า ในส่วนของการจองพื้นที่ขายในปีนี้จะเปิดให้จองพื้นที่ในวันที่ 11 มิย. ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่เปิดจองพื้นที่พร้อมกับการแถลงข่าวโดยในปีนี้จัดแยกออกมาเพื่อเปิดโอกาสบริษัทผู้ผลิตได้ใช้เวลาในการตัดสินใจจองพื้นที่มากขึ้น สำหรับคู่มือการจองพื้นที่ได้จัดทำเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรายละเอียดทั้งเรื่องของ ขนาดพื้นที่ ราคารวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ โดยบริษัทได้เพิ่มสิทธิพิเศษในการแบ่งสัดส่วนสำหรับบริษัทรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายในปี 2545 ไม่เกิน 50 คัน คือ 1. พื้นที่เพื่อการพาณิชย์ ให้สิทธิ์ 20 % 2. พื้นที่ใช้สอยกึ่งพาณิชย์ 20 % และ 3. พื้นที่แสดงพิเศษ 60 % เพื่อช่วยอุตสาหกรรมรถยนต์ให้บริษัทที่มียอดขายไม่มากนักมีสิทธิ์เข้าร่วมงานซึ่งบริษัทที่สนใจสิทธิพิเศษดังกล่าวสามารถติดต่อมายังผู้จัดได้ ส่วนฮอลล์ 6-7 ซึ่งจัดแสดงอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และนิทรรศการต่างๆ รวมถึงบูธสำหรับสื่อมวลชนได้มีการจัดแบ่งพื้นที่ใหม่ ให้มีขนาดต่างๆ เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ร่วมงานที่ต้องการขนาดพื้นที่ที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 16-300 ตรม. นอกจากนี้ยังมีพื้นที่หัวมุมอีก 16 บูธ ซึ่งแต่ละบูธจะมีพื้นที่ถึง 32 ตรม. การจัดแบ่งพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้แต่ละบริษัทเป็นผู้มาจองพื้นที่ด้วยตนเองไม่ต้องการให้รวมตัวมาจองพื้นที่ขนาดใหญ่ แล้วไปจัดแบ่งพื้นที่กันเองซึ่งหากผู้จัดทราบภายหลังจะยกเลิกสัญญา เพราะต้องการให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ร่วมงานรายอื่น ขวัญชัย กล่าวต่ออีกว่าสำหรับบริษัทที่ต้องการขนาดพื้นที่ไม่ตรงกับที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้ก็สามารถยื่นความจำนงจองพื้นที่ขนาดที่ต้องการไว้ก่อน เมื่อเสร็จสิ้นการจองแล้วหากมีพื้นที่เหลือผู้จัดจะพยายามจัดสรรพื้นที่ให้ตามที่ยื่นความจำนงไว้อย่างไรก็ตามผู้จัดต้องการให้จองพื้นที่ตามที่จัดไว้ให้เพราะหากพื้นที่ถูกจับจองหมดผู้ที่ไม่จองก็จะไม่ได้พื้นที่แสดงเลย พร้อมกันนี้ยังได้มีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขในการก่อสร้างเรื่องการกำหนดความสูงของไฟเพิ่มเติมโดยในปีที่แล้ว กำหนดความสูงไม่เกิน 1.90 ม. ในปีนี้ขยายเพิ่มเป็น 12 ม. ทำให้งานยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าที่ผ่านมา เนื่องจากยังไม่มีที่ใดสามารถจัดทำได้สูงมากขนาดนี้มาก่อน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 20" ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากภาคเอกชนที่ตอบรับเป็นผู้อุปถัมภ์อย่างเป็นทางการ ได้แก่ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน)/เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์/บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด ส่วนผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการนั้นได้รับการสนับสนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย/ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (รยสท.)/กระทรวงอุตสาหกรรม/กรมการขนส่งทางบก/ กรมควบคุมมลพิษ/การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)/การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)/สถาบันยานยนต์/ สถาบันวิจัยและฝึกอบรมทีเอไอ/สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง/จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/มหาวิทยาลัยศิลปากร/สมาคมวิศวกรรมยานยนต์ไทย/สมาคมรถโบราณแห่งประเทศไทย/สมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทย/สถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5/บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด/บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)/กลุ่มนิตยสาร 4x4 MAGAZINE ประเทศญี่ปุ่น/ศูนย์แสดงสินค้า และการประชุม อิมแพ็คเมืองทองธานี นอกจากนี้ ขวัญชัย ยังเผยด้วยว่า ได้เพิ่มระยะเวลาจัดงานอีก 1 วัน โดยในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2546 จะเป็นวันทำพิธีเปิด และวันสำหรับแขกรับเชิญ และสื่อมวลชน ส่วนวันที่ 29 พฤศจิกายนเป็นวันมหากุศล เปิดให้ประชาชนเข้าชมงานเป็นวันแรกและนำรายได้จากค่าบัตรผ่านประตูทั้งหมดมอบแก่องค์กรการกุศลหลังจากนั้นงานจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2546 รวมระยะเวลาจัดงานทั้งหมดถึง 13 วัน ยิ่งกว่านั้นในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. ส่วนวันธรรมดาเปิด 12.00-22.00 น.