ชีวิตอิสระ
หนีร้อน ไปนอนแคมพ์ ที่ราชบุรี กับ MITSUBISHI OUTLANDER PHEV
เข้าสู่เดือนที่ร้อนที่สุดกันแล้ว หลายคนคงอยากไปพักผ่อนคลายร้อน แต่จากสถานการณ์ระบาดของ COVID-19 ทำให้ไม่อยากไปไหนไกล “ชีวิตอิสระ” ขอแนะนำ จ. ราชบุรี สถานที่คลายร้อนใกล้กรุงเทพฯชาร์จแบทเตอรีเต็ม วิ่งได้กว่า 50 กม. การเดินทางครั้งนี้ เรามาพร้อมรถรักษ์โลก MITSUBISHI OUTLANDER PHEV (มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี) รถครอสส์โอเวอร์ ที่ ชูความเป็นเอสยูวีอเนกประสงค์ขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพลัก-อิน ไฮบริด หลังจากเราเสียบปลั๊กชาร์จไฟเข้าแบทเตอรีขนาด 13.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง จนเต็มแล้ว ก็ถึงเวลาออกเดินทางไปตามถนนพระราม 2 สู่จุดหมายที่ อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี ช่วงแรก เราใช้โหมดไฟฟ้าล้วน (EV) 100 % ไม่น่าเชื่อว่ารถคันนี้สามารถวิ่งด้วยโหมด EV ได้ไกลกว่า 50 กม. และตัดเข้าสู่โหมดขับขี่ปกติ (NORMAL) ที่บริเวณ อ. มหาชัย จ. สมุทรสาคร สถานการณ์นี้ เครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 128 แรงม้า จะทำหน้าที่ปั่นไฟเก็บเข้าแบทเตอรี ส่วนการขับเคลื่อนรถทั้งหมด เป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว (คู่หน้า 82 แรงม้า และคู่หลัง 95 แรงม้า) แต่เมื่อกดคันสุดเร่งเพื่อเร่งแซง เครื่องยนต์จะเข้ามาช่วยเสริมในการขับเคลื่อนรถด้วย โดยให้กำลังรวมสูงสุดถึง 305 แรงม้า แถมยังขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลาอีกด้วย ทำให้ผมรู้สึกปลอดภัย และสนุกกับการขับตลอดการเดินทาง หุบผาสวรรค์ UNSEEN ราชบุรี ใครที่ขับรถผ่าน อ. ปากท่อ จ. ราชบุรี คงเคยเห็นสิ่งก่อสร้างบนยอดเขากันมาบ้าง นั่นคือ “หุบผาสวรรค์” เป็นที่รวบรวมศาสนสถานจำลอง ทั้งของศาสนาพุทธ คริสต์ และฮินดู หุบผาสวรรค์ ปัจจุบันถือเป็น UNSEEN THAILAND แห่งใหม่ของ จ. ราชบุรี ตั้งอยู่ในสถาบันพระสังฆาธิการ มีเนื้อที่ประมาณ 118 ไร่ เราสามารถเดินเท้าขึ้นบันไดกว่า 365 ขั้น เพื่อชมสันติเจดีย์, เจ้าแม่กวนอิม, พระเยซูคริสต์, พระพิฆเนศ, พระพุทธรูปนิรภัยทุกทิศ, พระสังกัจจายน์ และถ้ำลับแล นอกจากความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมแล้ว ด้านบนยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของราชบุรี โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก จะสวยงามเป็นพิเศษ สามารถมองเห็นท้องทุ่งนากว้างไกลและทิวเขาสลับซับซ้อน เรียกได้ว่า เป็นสถานที่เที่ยวลับๆ แห่งใหม่ของเมืองราชบุรีก็ไม่ผิด สวยทุกมุม ที่กแรนด์แคนยอน ใครจะไปรู้ว่าที่ราชบุรีก็มีมุมถ่ายรูปสุดอลังการเหมือนกัน นั่นคือ “กแรนด์แคนยอน ราชบุรี” เกิดจากการทำสัมปทานเหมืองหิน แล้วถูกกัดเซาะตามธรรมชาติ จนกลายเป็นทะเลสาบสีฟ้าขนาดย่อมๆ ที่สวยงาม แม้เป็นสถานที่ของเอกชน แต่อนุญาตให้เข้าไปถ่ายรูปได้ และมีร้านค้าหาบเร่คอยให้บริการเรียงรายอยู่ปากทาง พื้นที่แห่งนี้ ปัจจุบันยังได้สัมปทานทำเหมืองหิน สังเกตจากบริเวณรอบๆ มีรถสิบล้อ พร้อมเครื่องจักรหนักกำลังทำงานอยู่ แต่จุดที่เรียกว่า กแรนด์แคนยอน ราชบุรี อยู่ลึกไปด้านใน ดังนั้น จึงควรขับรถอย่างระมัดระวัง และอย่าลืมนำขยะไปทิ้งด้านนอก สถานที่แห่งนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ทั้งประติมากรรมธรรมชาติจากดินที่ยุบตัว แอ่งน้ำสีเขียวฟ้า ริ้วลายดินที่สวยงามจากน้ำกัดเซาะ คล้ายกแรนด์แคนยอน โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นที่แสงอาทิตย์สีทองส่องกระทบลงมา ชวนให้นึกถึงบรรยากาศของเมืองแอริโซนา ในสหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว...ว่าไปนั่น ! ดังนั้น ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุด คือ ช่วงเย็น เพราะแสงจะสวยเป็นพิเศษ อากาศไม่ร้อน มีลมพัดตลอด เดินถ่ายภาพสบายตัว แต่ต้องระมัดระวังให้ดี เพราะดินบางพื้นที่ไม่แน่นนัก อาจมีลื่นไถลได้ น้ำตกเก้าชั้น แหล่งคลายร้อนของคนสวนผึ้ง หลังจากถ่ายรูปจนพอใจ ก็ถึงเวลาเดินทางไปคลายร้อนที่น้ำตกกันบ้าง ในสวนผึ้ง มีน้ำตกหลายแห่ง แต่ที่สวยที่สุดต้องยกให้ “น้ำตกเก้าชั้น หรือน้ำตกเก้าโจน” เป็นน้ำตกขนาดกลาง ที่สามารถเดินชมได้ถึง 9 ชั้น น้ำตกแห่งนี้เดิมเรียกว่า น้ำตกเก้าโจน มาจากคำว่า เก้ากระโจน (น้ำกระโจนลงจากหน้าผา) เมื่ออ่านออกเสียงอาจเข้าใจผิดว่า “เก้าโจร” จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น น้ำตกเก้าชั้น ตั้งอยู่บริเวณสันปันน้ำบนพื้นที่ราบสูงของเทือกเขาตะนาวศรี มีลักษณะเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ ฝนตกชุกต่อเนื่องเกือบทั้งปี ทำให้เกิดธารน้ำจากธรรมชาติไหลผ่านจากตอนกลางของเทือกเขามายังบริเวณด้านล่างนับได้ถึง 14 ชั้น รวมระยะทางกว่า 25 กม. แต่เราสามารถเที่ยวชมได้เพียง 9 ชั้นเท่านั้น เนื่องจากชั้นถัดไปมีสภาพเป็นเขาสูงชัน และหุบเหวลึก อาจเกิดอันตรายได้ น้ำตกเก้าชั้น มีน้ำไหลตลอดทั้งปี เดิมทีรู้จักกันเฉพาะกลุ่มชาวกะเหรี่ยง ต่อมาปี 2484 มีบริษัทต่างชาติได้สัมปทานบัตรเข้ามาทำเหมืองแร่ที่ตอนล่างของน้ำตก ซึ่งเรียกติดปากในกลุ่มชาวกะเหรี่ยงว่า เหมืองนายห้างฝรั่ง และเมื่อเหมืองนายห้างฝรั่งหมดสัมปทานไป ก็มีบริษัทของคนไทยเข้ามารับสัมปทานต่อ จนกระทั่งหมดสัมปทานเมื่อปี 2523 กางเทนท์ตั้งแคมพ์ ริมห้วยคอกหมู ก่อนถึงที่หมาย ผมกดโหมด CHARGE รอไว้เลย เพื่อสั่งให้เครื่องยนต์ตัดระบบขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้ามาเป็นเครื่องยนต์แทน ขณะเดียวกันก็สั่งการให้เครื่องยนต์ผลิตไฟฟ้าเพื่อชาร์จเข้าแบทเตอรีเรื่อยๆ ให้เกือบเต็ม เนื่องจากผมต้องการใช้พลังงานจากแบทเตอรีของรถคันนี้ กับเครื่องไฟฟ้าในตอนแคมพิง ซึ่งสามารถใช้กำลังไฟ AC 220 โวลท์ จากรถได้ถึง 1,500 วัตต์เลยทีเดียว เส้นทางมายังอ่างเก็บน้ำห้วยคอกหมู จะเลยทางเข้าจุดชมวิวห้วยคอกหมูไปเล็กน้อย เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก สำหรับใช้ในการเกษตร เมื่อไปถึง ผมกางเทนท์ ปูเสื่อ นำอุปกรณ์แคมพิงออกมา และไม่ลืมที่จะต่อไฟ AC 220 โวลท์ จากรถคันนี้ มาใช้กับคอมพิวเตอร์โนทบุค และเครื่องใช้ไฟฟ้าของผมด้วย ต้องยอมรับว่า MITSUBISHI OUTLANDER PHEV เป็นรถที่เหมาะกับการมาแคมพิงมาก นอกจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ที่พาเราไปได้ทุกที่แล้ว รถคันนี้ยังสามารถนำไฟจากรถมาใช้งานนอกรถได้ทุกที่ทุกเวลา แถมยังมีกำลังไฟให้ใช้อย่างเหลือเฟืออีกด้วย แผนที่เส้นทาง ที่กิน ใครมาเที่ยวสวนผึ้ง แล้วไม่ได้รับประทานอาหาร “ร้านครัวม่อนไข่” ถือว่าพลาด เนื่องจากร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยมาช้านาน วัตถุดิบที่ใช้ก็สดใหม่ ผมสั่ง ยำผักกูด, ผัดกูดไฟแดง, ต้มยำปลาคังพริกเผา, ไก่บ้านผัดฉ่า และที่ขาดไม่ได้ “ไข่เจียวหมูสับ” จากวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารสดใหม่ ไม่หวงเครื่องแกง (เครื่องแน่นมาก) ทำให้ทุกเมนูอร่อยสุดๆ หากผ่านร้านนี้ จะต้องชิมให้ได้ ที่นอน หากมาเที่ยวสวนผึ้ง แล้วอยากหาที่พักใกล้ตัวอำเภอ บรรยากาศสบายๆ ในราคาไม่แพง แนะนำ “ชาร์มมิ่งโฮมรีสอร์ท” ที่พักสไตล์บ้านสวน เจ้าของเป็นคุณครู อัธยาศัยดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาเริ่มต้น 700 บาท ขอขอบคุณ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อพาหนะในการเดินทางครั้งนี้
ABOUT THE AUTHOR
ว
วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : สายชล อรรถาเวชนิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2564