ระเบียงรถใหม่
TOYOTA MIRAI รถไฟฟ้าพลังไฮโดรเจนเมดอินเจแปน
เมื่อเป็นเดือนแห่งการชุมนุมรถสายเลือดซามูไร ก็อาจเกิดคำถามหากไม่มีผลงานของยักษ์ใหญ่ TOYOTA MOTOR CORPORATION (โตโยตา มอเตอร์ คอร์พอเรชัน) จึงเลือกรถใหม่ของค่ายนี้มา 2 แบบ แบบแรกที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้ คือ รถพลังไฟฟ้า TOYOTA MIRAI (โตโยตา มิราอิ) รุ่นใหม่ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวแบบออนไลน์ และเริ่มการจำหน่ายในเมืองซามูไรเมื่อวันพุธที่ 9 ธันวาคม 2020 พร้อมกับป้ายค่าตัวรวมภาษี ซึ่งเริ่มต้นที่ระดับ 7.100 ล้านเยน หรือประมาณ 2.130 ล้านบาทไทยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นนำรถติดป้ายชื่อ TOYOTA MIRAI ออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกา เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2014 และเดือนถัดมาก็เริ่มการจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองปลาดิบ รถรุ่นดังกล่าวมีตัวถังยาว 4.890 ม. กว้าง 1.815 ม. สูง 1.535 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.29 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่ค่ายนี้เพิ่งออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อในภาษาอังกฤษว่า TFCS (TOYOTA FUEL CELL SYSTEM) เป็นระบบที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 113 กิโล-วัตต์/151 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์หลักอีก 4 ส่วน คือ 1. FUEL CELL STACK ซึ่งเป็นอุปกรณ์ก่อเกิดพลังงานไฟฟ้าจากปฏิกิริยาทางเคมีของแกสไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งให้กำลังสูงสุด 114 กิโลวัตต์/155 แรงม้า 2. FUEL CELL BOOST CONVERTER ซึ่งเป็นอุปกรณ์เพิ่มแรงดันไฟฟ้า 3. แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 1.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 4. ถังบรรจุแกสไฮโดรเจนที่ความดันสูง 700 เท่าของความดันบรรยากาศ จำนวน 2 ถัง บรรจุแกสได้หนักประมาณ 5 กก. ซึ่งผลลัพธ์ คือ หลังจากบรรจุแกสเต็มถังโดยใช้เวลา 3-5 นาที รถจะวิ่งได้ไกลประมาณ 650 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน JC08 ซึ่งเป็นมาตรฐานเดิมของญี่ปุ่น และสามารถทำความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. ตามข้อมูลในสารนุกรมออนไลน์ WIKIPEDIA (วิกิพีเดีย) เมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2019 คือ ประมาณ 5 ปีที่อยู่ในตลาด รถรุ่นนี้มียอดขายรวม 10,250 คัน ตลาดใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกาซึ่งขายได้มากถึง 6,200 คัน ถัดไป คือ ญี่ปุ่น 3,500 คัน และยุโรป 640 คัน รถรุ่นใหม่ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 และยังใช้โรงงานเดิม คือ MOTOMACHI FACTORY (โมโตมาชิ แฟคทอรี) ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัด AICHI (อาอิชิ) ของญี่ปุ่นเป็นที่ผลิต มีขนาดตัวถังยาว 4.975 ม. กว้าง 1.885 ม. และสูง 1.470 ม. คือ ยาวขึ้นถึง 8.5 ซม. กว้างขึ้นถึง 7.0 ซม. และเตี้ยลงถึง 6.5 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นเดิม ส่วนรูปทรงองค์เอว และหน้าตาตัวถังก็เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ยังคงติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วมกันกับอุปกรณ์ซึ่งก่อกำเนิดพลังไฟฟ้าด้วยปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างแกสไฮโดรเจน และออกซิเจนเช่นเดิม แต่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหลายจุด รวมทั้งเพิ่มขนาดมอเตอร์ไฟฟ้าจาก 113 กิโล-วัตต์/151 แรงม้า เป็น 128 กิโลวัตต์/174 แรงม้า เพิ่มจำนวนถังบรรจุแกสไฮโดรเจนจาก 2 เป็น 3 ถัง จุได้รวม 141 ลิตร และปรับปรุงสมรรถนะการทำงานของ FUEL CELL STACK ซึ่งเป็นอุปกรณ์ก่อกำเนิด และป้อนพลังไฟฟ้า ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือ เมื่อเติมไฮโดรเจนเต็มถัง รถจะวิ่งได้ไกลถึง 850 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTC ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ คือ วิ่งได้ไกลกว่ารถรุ่นเดิมประมาณร้อยละ 30 แต่ความเร็วสูงสุดยังอยู่ที่ 175 กม./ชม. เหมือนเดิม ในเมืองปลาดิบ มีรถให้เลือกรวม 5 โมเดล คือ TOYOTA MIRAI G-TOYOTA MIRAI G A PACKAGE-TOYOTA MIRAI G EXECUTIVE PACKAGE-TOYOTA MIRAI Z-TOYOTA MIRAI Z EXECUTIVE PACKAGE โมเดลแรกซึ่งเป็นรถโมเดลพื้นฐาน ค่าตัวรวมภาษีการบริโภคร้อยละ 10 เริ่มต้นที่ 7.100 ล้านเยน (ประมาณ 2.130 ล้าน บาทไทย) และผู้ซื้อจะได้รับส่วนลดที่เกี่ยวเนื่องกับการใช้รถปลอดไอพิษรวม 4 รายการ เป็นเงินประมาณ 1.395 ล้านเยน (ประมาณ 0.419 ล้านบาทไทย) ส่วนโมเดลหลังซึ่งเป็นรถโมเดลหัวกะทิ ค่าตัวรวมภาษีการบริโภคเริ่มต้นที่ 8.050 ล้านเยน (ประมาณ 2.415 ล้านบาทไทย) และผู้ซื้อก็จะได้รับส่วนลดรวม 4 รายการ เป็นเงินประมาณ 1.419 ล้านเยน (ประมาณ 0.426 ล้านบาทไทย) TOYOTA MIRAI
- รุ่นที่ 2 ของรถไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ใช้แกสไฮโดรเจนก่อกำเนิดพลังขับ
- มิติตัวถัง 4.975x1.885x1.470 ม. ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง
- มอเตอร์ไฟฟ้า 128 กิโลวัตต์/174 แรงม้า ถังบรรจุไฮโดรเจน 3 ถัง จุ 141 ลิตร
- ระยะเดินทาง 850 กม. (WLTC) ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม.
- ราคารวมภาษีในญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ 7.100 ล้านเยน (ประมาณ 2.130 ล้านบาทไทย)
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2564
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่