ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่สร้างเพื่อเอาใจคนอเมริกันเอสยูวี สายเลือดซามูไรอีกแบบหนึ่งที่คัดเลือกมาบรรจุไว้ใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนนี้ คือ ฮอนดา พาสสปอร์ท (HONDA PASSPORT) เป็นตัวอย่างหนึ่งของรถญี่ปุ่นที่ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินหาในญี่ปุ่น เพราะเป็นรถที่ทำไว้โดยเฉพาะสำหรับตลาดอเมริกาเหนือ เป็นรถผลิตในสหรัฐอเมริกา และไม่เคยมีขายในญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ คือ ระหว่างปี 1993-2002 ยักษ์รองเมืองยุ่นเคยจำหน่ายรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดกลางติดป้ายชื่อ ฮอนดา พาส- สปอร์ท (HONDA PASSPORT) มาแล้ว 2 รุ่น ทั้ง 2 รุ่นเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ที่พัฒนาจากรถ พิคอัพ และเป็นผลงานจากความร่วมมือกับค่าย อีซูซุ (ISUZU) ซึ่งขณะนั้นเลิกผลิตรถเก๋งไปแล้ว เป็นรถผลิตจากโรงงานของค่าย ซูบารุ อีซูซุ ออโทโมทีฟ (SUBARU ISUZU AUTOMOTIVE) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองลาฟาเยทท์ (LAFAYETTE) ในรัฐอินเดียนา และผลิตตามแบบรถ เอสยูวี อีซูซุ โรเดโอ (ISUZU RODEO) ซึ่งก็มีขายในตลาดอเมริกาเหนือในช่วงปี 1993-2002 เช่นกัน ความร่วมมือที่กล่าวข้างต้นจบลงเมื่อปี 2002 การผลิตรถตามความร่วมมือก็ยุติด้วย ยักษ์รองเมืองยุ่นต้องเลิกกลยุทธ์แลกจมูกคนอื่นหายใจ แล้วแทนที่ด้วยรถที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นเอง คือ ฮอนดา ไพลอท (HONDA PILOT) รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ซึ่งยังคงผลิตต่อเนื่องมาจนทุกวันนี้ รุ่นล่าสุดซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 3 นี้ ปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิสในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2018 และไม่กี่เดือนหลังจากนั้นก็เริ่มการจำหน่ายในฐานะรถรุ่นปีโมเดล 2019 เป็นรถที่ไม่มีอะไรเกี่ยวเนื่องกันเลยกับรถ 2 รุ่นแรกนอกจากชื่อรุ่น น่าจะกล่าวอย่างรวบรัดได้ว่า รถรุ่นใหม่นี้ คือ ผลลัพธ์ของการนำรถ ฮอนดา ไพลอท (HONDA PILOT) รุ่นปัจจุบันซึ่งเริ่มจำหน่ายในเมืองมะกันเมื่อปี 2015 มาปรับเปลี่ยนรายละเอียดในหลายจุด และจุดสำคัญที่สุด คือ ลดความยาวตัวถังประมาณ 15 ซม. คือ จาก 4.991 เป็น 4.839 ม. กับลดจำนวนเก้าอี้ที่นั่งในห้องโดยสารจาก 3 เป็น 2 แถว และเปลี่ยนป้ายชื่อนั่นเอง ที่แตกต่างเป็นอย่างมากจากรถ 2 รุ่นแรกก็คือ ตัวถังของรถ 2 รุ่นแรกมีโครงสร้างแบบ BODY-ON-FRAME เหมือนรถพิคอัพ แต่รถรุ่นใหม่นี้มีโครงสร้างตัวถังแบบ UNIBODY ซึ่งเป็นตัวถังรับแรงแบบรถเก๋ง จึงเรียกกันอย่างเต็มยศในภาษาอังกฤษว่า MID-SIZE CROSSOVER SUV หรือ “รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดกลาง” ในภาษาไทยสไตล์ “สื่อสากล” รถที่มีขายในสหรัฐอเมริกาขณะนี้และยังไม่มีขายในญี่ปุ่น (ซึ่งในอนาคตก็คงจะไม่มี) มีให้เลือกทั้งแบบขับล้อหน้าและขับทุกล้อ มีการตกแต่งและติดอุปกรณ์ให้เลือก 4 แบบ กำกับด้วยรหัส SPORT-EXL-TOURING-ELITE แต่เครื่องยนต์เลือกไม่ได้เพราะมีขนาดเดียว คือ เครื่องเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง SOHC วี 6 สูบ 3,471 ซีซี 209 กิโลวัตต์/280 แรงม้า ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า หรือทั้งคู่หน้าและคู่หลังแล้วแต่กรณีผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ รถขับล้อหน้ามีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.4 กม./ลิตร ส่วนรถขับทุกล้อ 8.9 กม./ลิตร ค่าตัว MSRP (MANUFAC TURER’S SUGGESTED RETAIL PRICE) อันเป็นราคาขายปลีกที่ผู้ผลิตแนะนำและไม่มีสิ่งใดบังคับว่าต้องเป็นไปตามนี้ เริ่มต้นที่ระดับ 31,990 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 992,000 บาทไทย เมื่อคิดว่าเงินคุณทรัมพ์ 1 เหรียญสหรัฐฯ แลกได้ด้วยเงินลุงตู่ 31 บาทถ้วน เป็นรถที่มีสีตัวถังให้เลือกรวม 8 สี คือ สีขาว PLATINUM WHITE PEARL สีแดงเข้ม DEEP SCARLET PEARL สีเงิน LUNAR SILVER METALLIC สีเทาเข้ม MODERN STEEL METALLIC สีน้ำตาลเข้ม BLACK COPPER PEARL สีเขียวเข้ม BLACK FOREST PEARL สีน้ำเงิน OBSIDIAN BLUE PEARL และสีดำ CRYSTAL BLACK PEARL ส่วนสีของห้องโดยสารมีเพียง 2 สี คือ สีดำ กับสีเทา