ย้อนตำนาน ซูซูกิ จิมนี จิ๋วจอมลุย 4 เจเนอเรชัน

ซูซูกิ จิมนี รถเอสยูวีขนาดเล็ก สัญชาติญี่ปุ่นคืนสู่วงการอย่างฮือฮาหลังห่างหายจากตลาดเมืองไทยเป็นเวลานาน

จิมนี ใหม่ โดดเด่นทั้งดีไซจ์นและสมรรถนะ พร้อมใช้งานในภูมิประเทศที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของผู้ชื่นชอบรถขับเคลื่อน 4 ล้อ และการใช้ชีวิตสมบุกสมบัน จนคาดว่าจะเกิดกระแส จิมนี ฟีเวอร์ อีกครั้ง     ซูซูกิ มอเตอร์ ซึ่งก่อตั้งตั้งแต่ปี 1954 เริ่มผลิต จิมนี ครั้งแรกเมื่อปี 1970 และพัฒนาเรื่อยมา จนประสบความสำเร็จในตลาดทั่วโลก โดยนับจากเดือนเมษายน 1970 ถึงเดือนกันยายน 2018 จิมนี มียอดขายถึง 2.85 ล้านคัน ใน 194 ประเทศทั่วโลก    

รุ่นแรก (1970-1981)

    ซูซูกิ เผยโฉมรถขับเคลื่อน 4 ล้อที่พัฒนาโครงสร้างจาก โฮพสตาร์ โอเอน 360 (HOPESTAR ON360) รถรุ่นแรกของบริษัท ตั้งชื่อว่า จิมนี 360 (JIMNY 360) หรือรู้จักกันในชื่อ แอลเจ 10 (LJ10-LIGHT JEEP 10) เปิดตัวในปี 1970 ใช้เครื่องยนต์ 359 ซีซี 2 จังหวะ 2 สูบ ระบายความร้อนด้วยอากาศ โมดิฟายด์จากเครื่องยนต์ของ มิตซูบิชิ ที่ใช้ในรุ่น โฮพสตาร์ โอเอน 360 การปรับโฉมยังอยู่ภายใต้แนวคิดรถยนต์ขนาดเล็ก ราคาประหยัดเช่นเดิม ทำให้ จิมนี 360 กลายเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อขนาดเล็กคันแรกของญี่ปุ่น   ต่อมา มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ และเครื่องยนต์ให้หลากหลายขึ้น เป็นรุ่น แอลเจ 20 (LJ20) แอลเจ 50 (LJ50) แอลเจ 80 (LJ80) ตามลำดับ และขยายตลาดไปทั่วโลก    

รุ่นที่ 2 (1981-1998)

    หลังจากพิสูจน์ฝีมือในการทำรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดกะทัดรัด ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพเป็นเวลานับ 10 ปี ในปี 1981 ซูซูกิ ก็เปิดตัว ซูซูกิ 4x4 สายพันธุ์ใหม่ นั่นคือ เอสเจ 410 (SJ410) ต้นตระกูลของรุ่น เอสเจ ซีรีส์ตัวเลข 410 หมายความว่า เป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร นอกจากชื่อ เอสเจ 410 ยังมีอีกชื่อ คือ เอสเจ 30 (SJ30) หรือบางประเทศเรียกว่า สิเอร์รา หรือไม่ก็ จิมนี ภายหลังมีการเพิ่มรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 3 จังหวะด้วย มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โคลัมเบีย อินเดีย อินโดนีเซีย เคนยา สเปน และไทย   อีกรุ่นสุดฮิท คือ เอสเจ 413 (SJ413) หรือเรียกอีกชื่อว่า ซามูไร ปรับปรุงใหม่ในปี 1984 ได้รับความนิยมมาก ทำยอดขายให้ ซูซูกิ อย่างถล่มทลาย เพราะเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มีขนาดกะทัดรัด คล่องแคล่ว ว่องไว ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1.3 ลิตร เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบเบรคไฟฟ้า ด้านหน้าแบบจาน และด้านหลังแบบดุม ตัวถังได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด    

รุ่นที่ 3 (1998-2018)

    ในงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว 1997 (TOKYO MOTOR SHOW 1997) ซูซูกิ นำเสนอ จิมนี ใหม่ แทนที่รุ่น ซามูไร รูปลักษณ์ทันสมัยมากขึ้น ใช้ชื่อรุ่น เจบี 23 (JB23) เจบี 33 (JB33) เจบี 43 (JB43) และเจบี 53 (JB53) ตามลำดับ มีฐานการประกอบอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โคลัมเบีย และสเปน เป็นรถเอสยูวี ขับเคลื่อน 4 ล้อ 2 ประตู หน้าต่างบานใหญ่ให้ทัศนวิสัยดีเยี่ยม ในโซนยุโรปจะมีรุ่น HARD TOP และ CANVAS TOP แบ่งเป็น เจเอกซ์ (JX) และเจแอลเอกซ์ (JLX) โดยรุ่น เจแอลเอกซ์ จะหรูหรากว่า มีการเพิ่มรางหลังคา พวงมาลัยเพาเวอร์ ระบบกระจกไฟฟ้า กระจกมองข้างไฟฟ้า และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในหลายอย่าง มีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 4 และ 5 จังหวะ    

รุ่นที่ 4 (2018-ปัจจุบัน)

    ภาพของ ซูซูกิ จิมนี เจเนอเรชัน 4 เริ่มรั่วไหลบนโลกอินเตอร์เนทตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2017 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2018 โดยใช้ชื่อว่า ซูซูกิ จิมนี ใหม่ (ALL NEW SUZUKI JIMNY) ชื่อรุ่น เจบี 64 (JB64) และเจบี 74 (JB74) ผลิตที่เมืองโคไซ (KOSAI) โดยยังคงสไตล์ย้อนยุคทรงกล่องสุดคลาสสิคที่คุ้นตากันดี ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย พร้อมเทคโนโลยีทันสมัย เช่น จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ SEGMENT DISPLAY ระบบเชื่อมต่อ SUZUKI SMART CONNECT ระบบนำทางอัจฉริยะ และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ เป็นต้น วัสดุชิ้นส่วนต่างๆ คุณภาพสูง มีคุณสมบัติลดการสะท้อนแสง ช่วยพรางรอยขีดข่วน พื้นที่เก็บของหลังเบาะกว้างขวาง ทำจากวัสดุเรซิน ทนทาน     มีขุมพลังให้เลือก 3 แบบ ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 660 ซีซี เทอร์โบชาร์จ เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร บูสเตอร์เจท และเครื่อง ยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร ดูอัลเจท ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ และเกียร์ธรรมดา พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ออลล์-กริพ มีให้เลือก 7 สี แบ่งเป็นสีโมโนโทน และทูโทน   ซูซูกิ จิมนี ใหม่ เปิดตัวภายใต้นิยาม “NOBODY BUT JIMNY” กว่า 40 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งนำเข้าโดย บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด