ซูซูกิ จิมนี ยามเมื่อลมพัดหวน

คะแนนจากนักออกแบบ

ภายนอก
ภายใน
ภาพรวม

 

ซูซูกิ จิมนี ตัวลุยรุ่นจิ๋ว รถขวัญใจผู้รักชีวิตอิสระ ซึ่งบ้านเราคุ้นเคยกันดีในชื่อ แคริเบียน พี่น้องแฝดคนละฝาที่มีขนาดตัวต่างกันเพียงเล็กน้อย และยังมีให้เห็นบนท้องถนน โดยหลายคนยังมีความผูกพันฝังใจ และรอให้ จิมนี เจเนอเรชันล่าสุด กลับมาสู่ตลาดบ้านเราอีกครั้ง รวมถึงทีมนักออกแบบของเราที่มีความผูกพันกับรถรุ่นนี้ครั้งในอดีต เรื่องราวจะเป็นอย่างไรเชิญติดตาม

ภัทรกิติ์ : ซูซูกิ จิมนี รุ่นใหม่แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก กับ 12 รุ่นย่อย รุ่นหลัก คือ จิมนี กับ จิมนี สิเอร์รา ส่วน จิมนี จะใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ เทอร์โบเบนซิน ความจุ 658 ซีซี ที่ยกมาจากกลุ่มเคคาร์ของค่ายเดียวกัน ตัวถังจะผอม เพื่อให้ผ่านกฎหมายเรื่องการเสียภาษีตามความกว้างของตัวรถ ทำให้สามารถใช้ป้ายทะเบียนสีเหลืองได้ (ในประเทศญี่ปุ่น รถยนต์ส่วนบุคคลป้ายทะเบียนสีเหลือง หมายถึง รถยนต์ส่วนบุคคลขนาดเล็ก) ส่วน จิมนี สิเอร์รา มีการเพิ่มโอเวอร์เฟนเดอร์ ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ซึ่งในประเทศญี่ปุ่นจะใช้ทะเบียนพื้นสีขาวตามปกติ สำหรับบ้านเราคงต้องลุ้นกันว่าจะประกอบที่ไหน เพราะส่งผลโดยตรงกับราคาจำหน่าย ทางค่ายคงต้องคิดหนักว่ายอดขายจะเยอะไหม แต่ถ้าคาดหวังว่าจะขายดีเหมือน ซูซูกิ แคริเบียน เมื่อครั้งอดีต คงจะยาก   อภิชาต : แคริเบียน ช่วงหลังทำตลาดในฐานะรถกระบะ คนก็เลยนำมาดัดแปลง   ภัทรกิติ์ : ผมเคยใช้ ซูซูกิ แคริเบียน คุ้นเคยกับคาแรคเตอร์ของรถ เจ้า แคริเบียน ที่เห็นมากมายในเมืองไทย คือ เจเนอเรชัน 2 นะครับ เน้นความเรียบง่าย สะอาดตา และตรงไปตรงมา ส่วนเจเนอเรชัน 3 หน้าตาเหลี่ยมๆ ไม่เคยเห็นเพราะตัวแทนจำหน่ายในบ้านเราสมัยนั้น ไม่ได้นำเข้ามาจำหน่าย โดยเจเนอเรชัน 4 คือ รุ่นที่เรากำลังคุยกันอยู่นี่แหละ โดยเป็นการย้อนไปเอาเจเนอเรชัน 2 มาปรับปรุง เพราะตัวนั้นประสบความสำเร็จ   อภิชาต : ส่วนตัวผมถ้าจะซื้อรถต้องสีขาวเท่านั้นครับ   ภัทรกิติ์ : ทีมงานเขาตั้งใจให้เหมือนเจเนอเรชัน 2 ทั้งภายนอก และภายใน แค่เพิ่มอุปกรณ์อำนวย ความสะดวก และระบบความปลอดภัยเข้ามาตามยุคสมัย เพราะรถรุ่นเดิมมันเปลี่ยนแปลงเสียจนไม่มีอะไรเลย สังเกตที่แผงหน้าปัดกับแฮนเดิลบาร์ของผู้โดยสารด้านหน้า   อภิชาต : ในสมัยนั้น ถือว่าเป็นรถราคาถูก   ฟอร์มูลา : สมัยนั้นมีคนซื้อไปทำเป็นรถเช่าตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากมายทั่วประเทศไทย เหตุผลหนึ่ง ก็เพราะความทนทานของระบบรองรับ ที่ใช้เป็นคานแข็ง และแหนบ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง   ภัทรกิติ์ : ซูซูกิ แคริเบียน เป็นรถที่ทนทานมาก ไม่ค่อยมีอะไรจะเสีย ตัวใหม่นี้ พยายามนำจิตวิญญาณของรุ่นเดิมกลับมา รวมถึงระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบพาร์ทไทม์ ที่สามารถใช้ลุยได้แบบจริงๆ จังๆ และด้วยความเป็นรถคันเล็ก น้ำหนักเบา ทำให้ขับเข้าไปในพื้นที่ทุรกันดารได้อย่างคล่องตัว   ฟอร์มูลา : กลุ่มเป้าหมายของรถรุ่นนี้คือใคร ?   ภัทรกิติ์ : กลุ่มคนที่ชอบอะไรเรียบๆ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน และตรงไปตรงมา   อภิชาต : เป็นรถคันแรกไหมครับ ?   ภัทรกิติ์ : ผมว่าราคาน่าจะเกินกว่าจะเป็นรถคันแรก ยิ่งถ้านำเข้าจากญี่ปุ่น ราคาคงทะลุ 1 ล้านบาท แน่นอนครับ   อภิชาต : อย่าลืมว่า คนไทยมีความทรงจำกับรถรุ่นนี้ว่า ราคาไม่แพงนะ แต่พอเด็กรุ่นใหม่ จะรู้สึกว่า รถอะไร ทำไมเเพงจัง ต้องวางจุดยืนของผลิตภัณฑ์ใหม่ถึงจะเหมาะสม   ภัทรกิติ์ : ผมรู้เเล้ว ว่ารถคันนี้เหมาะกับใคร น่าจะเป็นคนที่เคยใช้ ซูซูกิ แคริเบียน แล้วอยากจะรื้อฟื้น ความหลัง เพราะถ้าราคาเป็นไปตามที่คาดไว้ เกิดราคาในงบประมาณเท่ากัน ก็สามารถซื้อรถรุ่นอื่นที่มีสมรรถนะดีกว่านี้ ได้หลายรุ่นเลย   อภิชาต : ถ้าราคาเกิน 1 ล้านบาท จริงๆ ความรู้สึกผม คือ จะต้องซื้อมาเพื่อแต่งไปเลย   ภัทรกิติ์ : ในงาน AUTO SALON 2019 เดือนนี้ (มกราคม) ที่ประเทศญี่ปุ่น น่าจะได้เห็น ซูซูกิ จิมนี มาอวดโฉมกันเพียบ เพราะรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมสูงมาก   ฟอร์มูลา : ถ้าราคาขนาดนี้ คนส่วนใหญ่เขาจะไปเล่นรถอะไร ?   ภัทรกิติ์ : รถที่ราคาใกล้เคียงกัน แต่ใช้งานได้หลากหลาย และมีความอเนกประสงค์มากกว่า   อภิชาต : ผมว่าติดเรื่องราคาอย่างเดียว ?   ภัทรกิติ์ : ถ้าต้องการให้ขายดี ต้องเคาะราคาให้ได้เหมือน ซูซูกิ สวิฟท์ นะครับ รับรองว่ารุ่ง   ฟอร์มูลา : อาจารย์จะซื้อไหมครับ ?   ภัทรกิติ์ : ถ้าสัก 7 แสนบาทนะครับ ผมซื้อแน่นอน   อภิชาต : ผมว่าเอารถรุ่นเก่า มาแต่งดีกว่าไหม ?   ภัทรกิติ์ : ทุกคนที่เคยสัมผัส และมีความหลังกับรถรุ่นนี้ จะต้องอยากได้ แต่พอได้ยินราคา คงจะบอกว่า เอาไว้ก่อนแล้วกัน แต่รถคันนี้สำหรับผม ถือเป็นรถที่ทำให้ทุกคนหัวใจพองโตตั้งแต่แรกเห็น   อภิชาต : ใช่ครับ ผมรู้สึกว่า มันทำให้หัวใจหยุดเต้น ไม่ได้ต้องการรถที่ใหม่ WOW นะ แค่เห็นเเล้วใจเต้นเเรง ก็พอแล้ว