มุมมองนักออกแบบ
ซูซูกิ สวิฟท์ มีนี เพื่อมวลชน
คะแนนจากนักออกแบบ
ภายนอก ภายใน ภาพรวมซูซูกิ สวิฟท์ ใหม่ มิติตัวถังไม่ต่างจากรุ่นก่อนมากนัก ความยาว 3,840 มม. กว้าง 1,735 มม. (กว้างกว่า 40 มม.) สูง 1,495 มม. และระยะฐานล้อ 2,450 มม. ล้อขนาด 15-16 นิ้ว เครื่องยนต์พัฒนาใหม่แบบเบนซิน 1.2 ลิตร หัวฉีด DUALJET กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 11.0 กก.-ม. ที่ 4,400 รตน. เกียร์อัตโนมัติ CVT ประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยกว่า 23 กม./ลิตร ตามมาตรฐานอีโคคาร์ เฟส 2ฟอร์มูลา : ซูซูกิ สวิฟท์ คันนี้ใหม่หมดทุกอย่างครับ ตั้งแต่รูปลักษณ์หน้าตา ตัวถังกว้างขึ้น เครื่องยนต์ปรับปรุงใหม่ ใช้หัวฉีดคู่ที่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น แรงม้าลดลงไป 8 ตัว แต่อัตราเร่งใช้ได้ ภัทรกิติ์ : เป็นรถที่ ซูซูกิ พยายามฉีกจาก บุคลิกเดิมๆ ของ สวิฟท์ รุ่นเก่า ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการขยายไปยังตลาดยุโรป ซึ่งไม่ชอบรถหน้าตาหวานๆ ยิ้มๆ คือ ต้องมีความเป็นผู้ชายมากขึ้น ของเดิมมันดูยิ้มหวานมากไปหน่อย ฟอร์มูลา : แต่ผมกลับมองว่า เส้นสายต่างๆ มันคล้ายกับรุ่นเดิมเลยนะครับ คือ แค่มองผ่านๆ ก็เดาถูกว่าเป็น สวิฟท์ อภิชาต : อาจเป็นเพราะพื้นฐานของสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน ที่เหมือนกัน คือ เส้นสายด้านข้างที่หนาๆ เป็นทรงนิยม เหมือนปีกฉลามโผล่ขึ้นมา แต่ถ้าดูโครงสร้างเหมือนเขาพยายามเก็บของเดิมเอาไว้ สิ่งที่ผมชอบ คือ การทำการบ้านเรื่องเหลี่ยมสันด้านหน้ามาใหม่ ตัดชิ้นงานออกมาเลย เส้นด้านล่างของกันชนหน้าตัดกันชัดเจน หน้าจะลอยขึ้นมา เห็นแล้วรักเลย เทคนิคการดีไซจ์นตรงนี้ ถ้าไปถามดีไซจ์เนอร์ 10 คน 8 คนจะชอบครับ เพราะรู้สึกว่ามันมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในนี้ ภัทรกิติ์ : เห็นด้วยว่าด้านหน้าทำออกมาดี โคมไฟหน้าสวย เป็นพโรเจคเตอร์โคมดำที่มีไฟเดย์ไลท์อยู่ภายใน แต่ด้านข้างกลับรู้สึกไม่ต่อเนื่องกัน อภิชาต : ด้านหน้าลอยไปนิดนะครับ ไฟท้ายไม่เข้ากันกับตัวรถ มันดูใหญ่ไปนิด เส้นสายในโคมไฟ ก็สับสน ภัทรกิติ์ : ถ้าลากเส้นเฉพาะโครงรถ จะใกล้เคียงรุ่นเดิมมาก แต่ถ้าเข้ามาดูถึงพื้นผิวแล้ว จะคนละรูปทรงกันเลย ตัวใหม่มีเส้นสายที่ลื่นไหล พลิ้วไหว แต่ตัวเดิมคล้ายรูปทรงเรขาคณิตมากไปนิด เป็นรถที่น่าสนใจ แต่พอเจาะลึกในแต่ละจุด มันดูประดักประเดิด ถ้าพูดเรื่องความบ้าคลั่งในการใส่รายละเอียดการออกแบบ เขายังตามหลังค่ายอื่นอยู่พอสมควร ฟอร์มูลา : เป็นเพราะบุคลิกของค่ายนี้หรือเปล่า ที่มักจะทำรถขนาดเล็ก รูปร่างน่ารัก น่าเอ็นดู แทบทั้งนั้น ภัทรกิติ์ : ความน่ารักก็ไม่จำเป็นต้องออกแบบให้ดูเรียบขนาดนี้ ดูอย่าง มีนี เขายังมีเส้นสายใหม่ๆ ให้เห็น อย่างกันชนหลังคันนี้ ดูคล้ายรุ่นที่แล้วเลย น่าจะทำการบ้านมากกว่านี้หน่อย สงสัยคงต้องรอรุ่นปรับโฉม อภิชาต : ผมว่าคันนี้โดดเด่นที่กันชนด้านหน้าที่สุด มันดูสวยมาก แต่เส้นสายด้านบนฝากระโปรง น่าจะมีอะไรมากกว่านี้หน่อย มันดูเรียบเกินไป ภัทรกิติ์ : นาทีนี้รถยนต์ที่ทำให้เกรดของการออกแบบถูกปรับคิดกันใหม่ คือ โตโยตา ซี-เอชอาร์ ซึ่งเป็นสุดยอดของความกล้าในการออกแบบ ฟอร์มูลา : รูปลักษณ์ภายนอกใช้ได้ แต่ยังไม่สุด ภัทรกิติ์ : ยังไปได้อีก เพราะคู่แข่งเขาจะ ไม่หยุดอยู่แค่นี้เหมือน สวิฟท์ แน่ กันชนหน้าสิครับ ออกแบบได้ดี สวยงาม เส้นสายเยอะ กระจังหน้าก็โอเค ไฟหน้าก็ทำได้ดี แต่พอไหลขึ้นมาที่ฝากระโปรง ผ่านตัวถังด้านข้างไปยังด้านหลัง กลับไม่มีอะไรเลย เหมือนโดนหลอกให้รัก แล้วจากไป คงต้องใช้เวลาเติบโต แต่ส่วนหนึ่งของคันนี้ ก็ให้อารมณ์การออกแบบสไตล์ยุโรปพอสมควร ฟอร์มูลา : ไปดูภายในกันบ้างครับ เห็นว่าออกแบบได้ดีทีเดียว ภัทรกิติ์ : สิ่งน่าสนใจที่สุด คือ ลูกบิดแอร์ เพราะหมุนปรับได้ และมีจอ LCD บอกสถานะด้วย ดูทันสมัยดี นอกนั้นไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะ ดีแบบทั่วไป แต่วัสดุเหล่านี้พอได้สัมผัสจริง มันกลับให้ความรู้สึกที่หนักแน่น และนุ่มนวลในผิวสัมผัส แข็งแรงในการประกอบ ดูเป็นรถที่มีคุณภาพ ผมสัมผัสมาแล้ว จึงพูดได้ เหมาะกับรถพื้นฐานสำหรับคนที่เพิ่งมีรถคันแรก ที่ไม่ได้ต้องการดีไซจ์นที่ซับซ้อน ขณะเดียวกันคนที่ใช้รถมาหลายคัน จะไม่รู้สึกตื่นเต้น อาจดูว่ามันจืดไปด้วยซ้ำ ฟอร์มูลา : สรุปสุดท้าย ขอนิยามสวยๆ ให้กับ สวิฟท์ สักหน่อยครับ ? อภิชาต : มีนี เพื่อมวลชน สำหรับคนที่เริ่มต้นมีรถคันแรก ภัทรกิติ์ : ถ้าเอาไปตกแต่ง ก็คล้ายกับ มีนี คันละ 2 ล้านกว่าบาทเหมือนกัน
ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2561
คอลัมน์ Online : มุมมองนักออกแบบ