ประสาใจ
ออเจ้าแห่งปะรำสีนมสด
ผมเล่าเรื่องนี้ หลังจากละครโทรทัศน์ไทย “บุพเพสันนิวาส” อำลาจอ เรื่องวันนี้มาจากการเล่าขานของ กเรเตียง เดอ ตรัวส์ กวีชาวฝรั่งเศส สมัยปลายศตวรรษที่ 12 ก่อนรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช 100 ปี เป็นผู้ชำนาญเล่าขานเรื่องราวของอัศวินระดับพระกาฬกิรดังได้ยินมา กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...อัศวินหนุ่มคนหนึ่งนาม เซอร์กาเวน สมบูรณ์ทั้งความเป็น “คุณพี่” ของสตรีทั้งหลาย และเป็นยอดนักรบผู้กล้าของแผ่นดิน อัศวินกาเวน ไม่เคยลืมตัว ใช้ชีวิตผจญภัยอย่างคงเส้นคงวาเพื่อรักษาระดับอัศวิน เช่นเดียวกับวันนี้ เขาขี่ม้าพร้อมอาวุธครบเครื่องเข้าป่าถึง 3 วัน 3 คืน บ่ายคล้อยของวันที่สี่ อัศวินกาเวน ตะลึงภาพที่เห็นข้างหน้า เป็นปะรำประดับริ้วผ้าสีนมสด ปักธงหางนกนางแอ่นที่ติดปลายทวนอัศวิน ปลิวไสวด้วยสีแดงตัดกับสีขาวริ้วผ้าประดับ ทำให้ตาพร่า กาเวน ลงจากหลังม้า เข้าไปในปะรำพร้อมด้วยดาบที่ชักออกจากฝักแล้ว เมื่อเข้าไปภายในปะรำสีขาว พบเตียงนอนน่าสบาย 5 เตียง โดย 4 เตียงว่างเปล่า และเตียงที่ 5 มีออเจ้าสาวสวยนอนในชุดนอนสีนมสด ออเจ้ายิ้มปากสีเลือดตัดกับสีนิลของเรือนผมสยายยาว ออเจ้าอ้าสองแขนเต็มที่พร้อมรับการเข้ากอดรัดของอัศวินผู้พเนจร “ยู้ฮู” กาเวน ร้องตามสัญชาตญาณ ไม่คะนึงว่าออเจ้าจะร้องถาม...เจ้าว่ากระไรฤา ? ร้องดังนั้นแล้วก็เปลื้องเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วและแคล่วคล่อง โจนเข้าหานางด้วยความสมัครใจ ออเจ้ารับการกอดรัดแล้วเพิ่มน้ำตาลลงไปในยิ้มของออเจ้าเองอีกปึกใหญ่ “คุณพี่ ข้าคะนึงถึงคุณพี่มานานถึง 3 วัน 3 คืนแล้วนะเจ้าคะ ถ้าคุณพี่ คือ เซอร์กาเวน ตัวจริง เสียงจริงละก็ เชิญปฏิบัติหน้าที่อัศวิน ตักตวงรักของข้าไปเยี่ยงอัศวินเถิด” “ยู้ฮู” กาเวน ร้อง “ข้าคืออัศวินผู้นั้น” ระหว่างปฏิบัติหน้าที่อัศวินกับออเจ้าไม่นาน กาเวน รู้สึกว่าตัวกระทบกับดาบสองคมเล่มหนึ่ง ตามด้วยเสียงคำราม “ฮึ่ม ไอ้อัศวินสารเลว !...ออกมาดวลกัน แสดงให้ข้าดูหน่อย เจ้าจะใช้ดาบได้แพรวพราวเหมือนที่เจ้ากำลังปฏิบัติอยู่กับแม่หญิงได้หรือไม่ ?” “พ่อข้าเจ้าค่ะ คุณพี่” ออเจ้าบอก กาเวน “จงยุติธรรมกับพ่อข้า แต่จงปฏิบัติด้วยความไม่ชักช้านะคุณพี่” กาเวน สวมชุดอัศวิน เตรียมดาบเสร็จก็ออกไปพบนักรบสูงวัยข้างนอกปะรำ การประลองของคนทั้งสอง มีทั้งประกายดาบดุจสายฟ้าในพายุฤดูร้อน มีเลือดกระจายไม่ผิดอะไรกับน้ำพุที่พุ่งออกมาจากชั้นภูผา ฝุ่นในพื้นที่ประลองฟุ้งเต็มฟ้า บดบังแสงอาทิตย์ยามสายัณห์ ในที่สุด นักรบสูงวัยก็ทรุดเข่าลงกับพื้น “ข้าขอพ่ายผู้ที่มีความสามารถกว่า ขอให้เจ้าจงเป็นอัศวินที่ดีของบุตรีข้าด้วยนะ” “ยู้ฮู” กาเวน ร้องเสร็จก็รีบเข้าปะรำ บริหารจัดการกับภารกิจที่ค้างอยู่ ปฏิบัติการของกาเวน เดินหน้าไม่นาน ก็ถูกรบกวนอีกเป็นครั้งที่ 2 ทั้งดาบ 2 คม และเสียงคำราม “ฮึ่ม ไอ้อัศวินผู้ต่ำช้า !...ออกมาดวลกัน แสดงให้ข้าดูหน่อย เจ้าจะใช้หอกของเจ้าแม่นยำและเรืองฤทธิ์เช่นที่เจ้าทำอยู่หรือไม่ ?” “พี่ชายคนโตของข้าเจ้าค่ะ คุณพี่” ออเจ้าคนสวยตอบสายตา กาเวน “จงยุติธรรมกับพี่ชายข้า แต่จงปฏิบัติด้วยความไม่ชักช้านะเจ้าคะ คุณพี่” กาเวน สวมชุดอัศวิน แล้วออกไปพร้อมด้วยหอกปลายแหลม อัศวินทั้ง 2 คนดวลอาวุธเพื่อหาผู้ชนะ เลือดเรี่ยราดหลั่งดินราวฝนฤดูร้อน ในที่สุดอัศวินผู้พี่ของออเจ้าก็ทรุดกับพื้น “ข้ายอมพ่ายเจ้าแล้ว จงละมุนละม่อมรักของเจ้าให้สมกับความดุร้ายในการรบของเจ้าเถิด” “ยู้ฮู” กาเวน ร้องแล้วก็กลับเข้าปะรำ ปฏิบัติภารกิจที่ยังไม่เสร็จบริบูรณ์ แต่ก็อีกนั่นแหละ คราวนี้ถึงจุดที่จะปะความสำเร็จบริบูรณ์อยู่แล้ว กาเวน ก็ถูกรบกวนเป็นหนที่ 3 ด้วยดาบ 2 คม และเสียงคำราม “ฮึ่ม ไอ้อัศวินจอมขลาด !...ออกมาดวลกัน แสดงให้ข้าดูหน่อย เจ้ามีชื่อเสียงในสนามยุทธ์เฉกเช่นเจ้ากำลังแสดงอยู่นั่นหรือไม่ ?” กาเวน ไม่ทันถามออเจ้าคนสวยด้วยสายตา นางครางว่า “พี่ชายคนรองของข้าเจ้าค่ะ คุณพี่...จงยุติธรรมกับพี่คนรองของข้า แต่จงปฏิบัติด้วยความไม่ชักช้านะเจ้าคะ คุณพี่” คุณพี่ก็แต่งชุดอัศวินออกไปนอกปะรำ พร้อมด้วยขวานนักรบ (คนละเล่มกับขวานทุบรถ) ไม่นานพื้นที่นั้นก็เต็มไปด้วยฝุ่นกระจายฟุ้งไปทั่วปฐพี แรงลมจากการเหวี่ยงอาวุธเข้าสู้กันของ 2 อัศวินร้อนแรง ทำให้กิ่งไพรพฤกษ์สั่นสะท้าน ในที่สุดก็จบลงด้วยฉากเดิม พี่รอง ทรุดกายกับพื้น “ข้าขอยอมแพ้คนที่เก่งกว่า จงถนอมน้องสาวของข้าให้ได้เท่ากับความภูมิใจที่เจ้าเป็นอัศวินผู้ชนะ” “ยู้ฮู” กาเวน ร้อง แล้วรีบกลับเข้าปะรำ (คำวันนี้ คำว่า “ยู้ฮู” หมายความว่า “ฟ้าดินแยกเราเท่าไรไม่ขาด ภพชาติพรากเราห่างกันไม่ได้”) ไม่นานต่อมา ขณะที่ กาเวน กำลังหลับในอ้อมแขนของแม่หญิงออเจ้า เขาตื่นลืมตาด้วยรู้สึกว่ามีนิ้วออเจ้าสะกิดดวงตาของเขาเบาๆ กาเวน ลืมตายิ้มให้กับแม่หญิง แต่ออเจ้าชี้ไปทางประตูปะรำ กาเวน มองตามไป ปรากฏภาพชายยืนถมึงทึงในชุดอัศวินสีทองผู้กล้า พร้อมอาวุธ “น้องชายของข้าเจ้าค่ะ คุณพี่” ออเจ้าบอก กาเวน “เขาเป็นยอดอัศวินของป่านี้ ประลองกำลังกับผู้ใดไม่เคยพ่าย หากคุณพี่พ่าย เขาจะยินดีให้คุณพี่กลับแต่โดยดี เพราะข้าบอกน้องข้าว่าคุณพี่เป็นยอดรักอย่างแท้จริงของข้า แต่คุณพี่จะหวนกลับเข้ามาในป่าแห่งนี้อีกมิได้นะเจ้าคะ” “ข้าคือ เซอร์กาเวน” กาเวน บอกเช่นนั้นแล้วก็สวมชุดอัศวิน ออกไปดวลกับอัศวินผู้น้องที่มีนาม บแรนเดิลส์ ทั้ง 2 คนดวลกันด้วยความสามารถ ตะวันตกดินแล้ว แม้มืดค่ำก็ยังหาผู้พ่ายไม่ได้ ดวลกันตลอดคืน จนแสงทองส่องอำไพ อัศวินทั้ง 2 ก็ยังดวลกันแหลก เพราะ บแรนเดิลส์ เป็นอัศวินผู้สามารถ และกาเวน ก็แกร่งกล้าสมชั้นเซอร์ของบรรดาอัศวินทั้งปวง “เซอร์บแรนเดิลส์” กาเวน ร้อง “เจ้าเป็นอัศวินผู้สามารถ” “เซอร์กาเวน” บแรนเดิลส์ กล่าว “ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้มาประจัญบานกับอัศวินผู้เด็ดเดี่ยวเช่นเจ้า ข้าขอเสนอว่า เราจงมายุติและสงบการดวลกันตรงนี้เถิด เพื่อคราวหน้าจะได้ประลองกันใหม่” “ตกลง” จากนั้นทั้ง 2 คนก็จับมือกัน เป็นสัญญาที่มั่นหมายในข้อตกลงเยี่ยงจารีตอัศวิน ต่อจากนั้นก็กลับเข้าปะรำ ด้วยหมายใจจะได้พบแม่หญิงออเจ้าคนสวย ปรากฏว่า แม่หญิงออเจ้าแห่งปะรำหายตัวไปแล้ว...! เล่าลือกันสืบมา แม่หญิงออเจ้าแห่งปะรำผู้นี้มิได้หายตัวไปไหน ข้อเท็จจริงประจักษ์ว่าเมื่อกาลเวลาผ่านพ้นยุคสมัย หากหน้าปะรำแห่งนี้มีอัศวินพเนจรผู้ใดนั่งอยู่ จะมองเห็นแม่หญิงออเจ้าอย่างชัดเจนบนท้องฟ้า นางกำลังให้นมลูกและกระซิบความกับลูกชายของนาง ความที่กระซิบนั้น เป็นเรื่องเก่งฉกาจในสนามยุทธ์ของผู้เป็นพ่อ คำถามก็คือ พ่อของลูกชายนางเป็นผู้ใด และคำถามนี้จะถูกตอบโดยอัศวินพเนจร “นี่เห็นทีจะเป็น...อัศวินนาม กิงกเลน ผู้ลี้ลับ มิใช่ชายที่เป็นพ่อ...เออ...แล้วใครกันล่ะวะ เป็นพ่อเด็กคนนั้น...?” นี่คือ “ผู้ใดเข้ามาไม่เคยไหวหวั่น เหมือนใจฉันเกิดมาเพื่อเป็นของเธอ รอวันพบเจอ รอวันพบเธอ จะรอเสมอ เคียงข้างรักเธอนิรันดร์”...แฮ่ม...(ไม่ฮึ่ม)...!!!
ABOUT THE AUTHOR
ข
ข้าวเปลือก
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2561
คอลัมน์ Online : ประสาใจ