แอลเอส 500 เอช คือ เก๋งระดับหรูประจำค่าย เลกซัส เจเนอเรชันที่ 5 ออกแบบภายใต้ปรัชญา L-FINESSE ที่เน้นความประณีต และสง่างาม เพื่อเป็นคู่ปรับสำคัญของรถยนต์หรูจากเยอรมนี ขุมพลังแบบไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร แบบ วี 6 กำลัง 299 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว 180 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันจะมีกำลังสูงสุดถึง 359 แรงม้า ส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ CVT 10 จังหวะภัทรกิติ์ : รุ่นนี้ขายดีมาก ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ฟอร์มูลา : ราคา 14.5 ล้านบาท ไม่อยากเชื่อว่าจะขายดีขนาดนั้น อภิชาต : ราคาไม่จัดว่าแพงเกินไป เพราะไม่หนี เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ เท่าไรนัก แต่มันมีอะไรพิเศษหรือครับ ผมขอดูภายในก่อนเลยดีกว่า ภัทรกิติ์ : ภายในวิจิตรมาก ตกแต่งด้วยวัสดุจากแก้วเจียระไน ถือเป็นการเปิดโลกใหม่ของการนำวัสดุมาใช้เลย เรียกว่า “แก้วคิมิโกะ” เป็นการพัฒนาที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง จะมีสักกี่คันในโลก ที่นำวัสดุแบบนี้มาใช้ เขาพยายามฉีกกฎเดิมๆ ของการใช้ไม้ และหนัง รวมถึงวัสดุที่เป็นผ้า สมัยก่อนรถยนต์ระดับหรูมักใช้วัสดุที่เป็นผ้า เนื่องจากเงียบและนุ่มนวล แต่ เลกซัส ล้ำไปอีกขั้น เพราะนำความคลาสสิคของรถยุคโบราณกลับมาใช้ ที่สำคัญลูกค้ายังสามารถเลือกได้ว่า อยากได้แบบไหน แบบธรรมดา หรือแบบแฟนตาซีที่เหมือนไม้จริง แต่ไม่มีลายนี้ในธรรมชาติ เขายกระดับแซงหน้าค่ายอื่นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว ฟอร์มูลา : ถ้าเทียบกับ มายบัค ส่วน มายบัคก็คือ เมร์เซเดส-เบนซ์ ที่ยาวขึ้น ตกแต่งให้หรูขึ้น แต่ เลกซัส ไอเดียใหม่หมด มีความแปลกในตัวรถเยอะ อภิชาต : ผมยังไม่เห็นตัวจริง อยากรู้ว่า ลายไม้จากไม้จริง แต่ไม่มีอยู่จริงเป็นอย่างไร เวลาขับคงจะตระการตาน่าดู ผมคงจะมีความสุขมาก ที่ได้ขับรถที่มีการออกแบบดีไซจ์นดีเยี่ยมขนาดนี้ นี่คือ ความจงใจที่มอบให้ ความรู้สึกประทับใจ ภายในเหมือนบ้าน ออกแบบได้หรูหราจริงๆ สมกับราคา 10 กว่าล้านบาท ภัทรกิติ์ : อาจารย์ต้องมองว่ามันเป็นรถญี่ปุ่นแท้ๆ เลยนะ คันนี้ถ้าจะเทียบ คือ โตโยตา เซนทูรี สำหรับอนาคต แต่ เซนทูรี เขาสุขุม และโบราณ เป็นการโชว์ความคลั่งไคล้ของคนญี่ปุ่น ที่นำศิลปะประจำชาติมาใช้ ในขณะที่หลายค่ายใช้ศิลปะของชาติอื่นมาตลอด นี่คือ ความภูมิใจจากแดนอาทิตย์อุทัย ที่อยากให้โลกได้เห็น อภิชาต : ผมคงมีความสุขที่ได้นั่ง การใส่ใจในรายละเอียดต่างๆ เลยคำว่าดีไปแล้ว มันมีความประณีตในรายละเอียดอย่างมาก ฟอร์มูลา : ถ้าให้เพิ่มเติม ผมว่าต้องมีลูกเล่นแบบญี่ปุ่นปนไปบ้าง เช่น ที่วางแก้ว ช่องใส่ของจุกจิกทั้งหลาย ภัทรกิติ์ : ภายในไม่ต้องพูดถึง มันสุดไปแล้ว มาดูภายนอกกันดีกว่า ภายนอกถือว่างานดีมาก จัดเต็ม กระจังหน้าแต่ละรู มีเสี้ยวเล็กๆ ดูเก๋มาก และแต่ละรูยังไม่เท่ากันด้วย ออกแบบยากสุดๆ อภิชาต : ถือเป็นรถระดับพรีเมียมมากนะครับ สมราคา ถึงผมจะไม่ชอบสไตล์นี้เท่าไร เพราะเราเป็นนักออกแบบ จะให้ชอบทุกสไตล์ ก็ไม่ใช่ เพียงแต่พอเห็นงานดีไซจ์นที่ไม่ใช่สไตล์เรา แล้วมันตอบโจทย์ทุกอย่าง ก็ต้องยกให้เขา ภัทรกิติ์ : คันนี้รูปลักษณ์มาไกลกว่า เลกซัส แอลเอส โฉมแรกมาก คันแรกจะเรียบง่าย นิ่ง แต่คันนี้ หวือหวา มีองค์เอวขอด มีเส้นสายที่เซกซี คันนี้ทำตาม อินฟินิที ของ นิสสัน ที่บุกเบิก ปรับบแรนด์ให้ดูหรู แล้วก็ประสบความสำเร็จ สุดท้ายรถยนต์ที่ดูนิ่งๆ จะขายยาก ที่เหลือจะเป็นแบบสปอร์ทไปหมด ส่วนคันนี้รู้สึกว่าทุกอย่างพุ่งทะยานไปหมด จนรู้สึกถึงความเร็ว อภิชาต : WOW เลยละ เรามองในแง่ธุรกิจ เลกซัส อีกนิดก็จะเทียบได้กับค่ายยุโรป สำหรับผมทุกอย่างมันพร้อมแล้ว แต่ไม่อยากให้เทียบกับ มายบัค ผมว่าเทียบกับ เอส-คลาสส์ หรือ ซีรีส์ 7 ก็พอ เพราะมันจะไม่แฟร์ เลกซัส ทุกอย่างลงตัวหมด สัดส่วน รายละเอียด ไม่มีอะไรให้ติ มาตรฐานของ เลกซัส เขาทำรถมาชนกับพวก บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 7 หรือ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ อยู่แล้ว ฟอร์มูลา : ขอนิยามสั้นๆ หน่อยครับ ? อภิชาต : ญี่ปุ่นในคราบยุโรป เป็นรถญี่ปุ่นที่เทียบชั้นรถยุโรปได้อย่างภาคภูมิ ภัทรกิติ์ : ที่สุดแห่งแดนอาทิตย์อุทัย ความภูมิใจในญี่ปุ่น สุดยอดแห่งโอทอพญี่ปุ่น หัตถศิลป์ติดล้อ
บทความแนะนำ