ระเบียงรถใหม่
BMW X4 เอสยูวี สายพันธุ์เยอรมันแต่ผลิตในสหรัฐอเมริกา
ผลงานอีกชิ้นหนึ่งของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นรถรุ่นใหม่ซึ่งเพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดผ่านสื่อต่างๆ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 และตัวจริงเสียงไม่จริงมีกำหนดเปิดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา ครั้งที่ 88 ตอนต้นเดือนมีนาคมของปีเดียวกันยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์เริ่มการผลิตรถติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4 (BMW X4) เมื่อเดือนเมษายน 2014 โดยใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองสปาทันเบิร์กส์ (SPARTANBURGS) ในรัฐเซาธ์แคโรไลนาของสหรัฐอเมริกาเป็นที่ผลิต เป็น COMPACT LUXURY CROSSOVER SUV หรือ "รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดเล็กกะทัดรัด" ในตัวถังยาว 4.671 ม. กว้าง 1.881 ม. สูง 1.624 ม. ที่รูปทรงองค์เอวเหมือนย่อส่วนจากรถอนุกรมพี่ คือ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 (BMW X6) รุ่นแรก ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2008 และตัวถังส่วนท้ายดูราวกับเป็นรถเก๋งคูเป ที่น่าประหลาดใจก็คือ หลังจากอยู่ในตลาดได้เพียง 4 ปี บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 4 (BMW X4) รุ่นดังกล่าวก็ถูกปลดจากสายการผลิต แล้วแทนที่ด้วยรถรุ่นที่ 2 ซึ่งกำลังอวดตัวอยู่ขณะนี้ นิตยสารรถยนต์ชั้นนำฉบับหนึ่งของยุโรปคือ ออโทคาร์ (AUTOCAR) ให้ความเห็นว่า ที่เปลี่ยนรุ่นเร็วกว่าปกติ ก็เนื่องจากต้องใช้ความพยายามมากเหลือเกิน ที่จะทำให้รถรุ่นเดิมประสบความสำเร็จเหมือนรถระดับเดียวกัน อย่าง โพร์เช มาคัน (PORSCHE MACAN) หรือ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค (RANGE ROVER EVOQUE) รถรุ่นใหม่นี้มีขนาดตัวถัง ยาว 4.752 ม. กว้าง 1.918-1.938 ม. และสูง 1.621 ม. คือ ยาวและกว้างขึ้น 8.1 และ 3.7 ซม. ตามลำดับ เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นเดิม เป็นตัวถังรูปทรงปราดเปรียวเหมือนไม่ใช่รถ เอสยูวี ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.30-0.32 ใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันกับรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 (BMW X3) รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเพิ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปลายปี 2017 ห้องโดยสารที่ตั้งใจออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คน ก็ตกแต่งสไตล์เดียวกับรถ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 3 (BMW X3) ค่ายใบพัดยืนยันว่า รถรุ่นใหม่นี้ คือ การกระโดดก้าวใหญ่ ทั้งในด้านสมรรถนะการขับขี่ และประสิทธิภาพการบังคับเลี้ยว ตัวถังแข็งแรงขึ้นแต่น้ำหนักตัวกลับลดลง (บางโมเดลลดถึง 50 กก.) นอกจากนั้นการขยายช่วงฐานล้อจาก 2.810 เป็น 2.864 ม. คือ ยาวขึ้น 5.4 ซม. ยังส่งผลให้ผู้โดยสารบนเบาะหลังมีพื้นที่วางแข้งวางขาเพิ่มขึ้น 2.7 ซม. ในขณะที่ห้องเก็บของท้ายรถก็เพิ่มความจุถึง 25 ลิตร เป็น 525 ลิตร อีกต่างหาก ในระยะแรกจะมีรถให้ลูกค้ากระเป๋าโตในเมืองเบียร์เลือกใช้ 5 โมเดล คือ BMW X4 XDRIVE20I (เบนซิน 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE30I (เบนซิน 4 สูบเรียง 185 กิโลวัตต์/252 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE20D (ดีเซล 4 สูบเรียง 1,995 ซีซี 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า) BMW X4 XDRIVE25D (ดีเซล 4 สูบเรียง 1,995 ซีซี 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า) BMW X4 M40D (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 240 กิโลวัตต์/326 แรงม้า) ทุกโมเดลเป็นรถขับทุกล้อ ส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC ที่จะตามมาอีก 2 โมเดล ในเดือนสิงหาคม 2018 คือ BMW X4 M40I (เบนซิน 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 265 กิโลวัตต์/360 แรงม้า) กับ BMW X4 XDRIVE30D (ดีเซล 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 195 กิโลวัตต์/265 แรงม้า และก็เช่นเดียวกับรถโมเดลอื่นๆ ทั้งคู่เป็นรถขับทุกล้อ และติดตั้งระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC ตามตัวเลขของผู้ผลิต โมเดลพื้นฐาน คือ BMW X4 XDRIVE20I ซึ่งค่าตัวรวมภาษีผู้บริโภคร้อยละ 19 เริ่มต้นที่ 49,700 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 1.99 ล้านบาทไทย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 8.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 215 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 7.1-7.3 ลิตร/100 กม. หรือ 13.7-14.1 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 163-168 กรัม/กม. ส่วนรถโมเดลหัวกะทิ คือ BMW X4 M40I ซึ่งยังไม่ได้กำหนดค่าตัว อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 9.0-9.2 ลิตร/100 กม. หรือ 10.9-11.1 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 170-173 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย
BMW X4
- ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ขนาดเล็กกะทัดรัด
- มิติตัวถัง 4.752x1.918x-1.938x1.621 ม.
- สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.30-0.32
- เครื่องยนต์เบนซิน/ดีเซล 184-360 แรงม้า
- ราคารวมภาษีในเยอรมนีเริ่มต้นที่ 49,700 ยูโร
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 399 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2561
คอลัมน์ Online : ระเบียงรถใหม่